พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
" งานทุกอย่างมีด้านหน้าและด้านหลังเหมือนเหรียญบาท งานด้านหน้านั้น มีคนทำกันเยอะแยะ และมีคนแย่งกันทำเพราะมีผลเห็นได้ชัดและก็ปูนบำเหน็จกันได้เต็มที่ แต่งานด้านหลังที่ไม่ ปรากฏต่อสายตาของคน ต้องเป็นคนที่เข้าใจงานและหน้าที่ของตัวจริงๆถึงจะทำได้ และต้อง เสียสละด้วยเพราะงานด้านหลังเป็นงานปิดทองหลังพระ ถ้าทำดีแล้วต้องไม่ให้เห็นปรากฏ และต้องยอมรับว่าไม่ได้อะไรตอบแทนเลย นอกจากความภูมิใจในการทำงานในหน้าที่ของตน "
กว่าจะมาถึงวันนี้
ในที่สุดเว็ปแห่งความปลอดภัยแห่งนี้ก็ถือกำเนิดขึ้นด้วยแรงใจแรงเชียร์จากเพื่อนๆ หลายคนในวงการกู้ภัยได้อาจารย์คณาฑัต จันทรศิริ นายกสมาคมการดับเพลิงและช่วยชีวิต ฟ่ารา ช่วยเขียนบทความคัมภีร์อัคคีภัย ได้เพื่อนๆอีกหลายคนทั้งจากหน่วยบรรเทา สาธารณภัย หน่วยกู้ภัย ทั้งจากในกรุงเทพมหานครและจากต่างจังหวัดรวมทั้งเพื่อนๆ จากร่วมกตัญญ ูช่วยกันบันทึกภาพ ที่ได้ออกไปช่วยเหลือผู้ประสพภัย ได้ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์กู้ภัยมาช่วย ให้ข้อมูลเทคนิคใหม่ๆ มาถ่ายทอดความรู้เพื่อประโยชน์สำหรับบุคคลทั่วไปและอาสาสมัครกู้ภัย.. เว็ปแห่งนี้ ไม่ได้เป็นของหน่วยใดหน่วยหนึ่งหรือมูลนิธิใดมูลนิธิหนึ่ง เว็ปแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายๆ หน่วยงานเพื่อเป็นประตูสู่การเสริมความรู้ สร้างความคิด ปลูกจิตสำนึกในเรื่องอัคคีภัย และความปลอดภัยยุคใหม่ในมาตรฐานสากล เราจะมาจับเข่าคุยกันอย่างคนไทยที่ไร้มาตรฐานความปลอดภัยเยี่ยงนานาอารยะประเทศ เพื่อแก้ไข ไม่แก้ตัว เราจะมาเปิดอกพูดกันอย่างคนไทยบางคน ที่ชีวิตไม่มีราคา เมื่อเทียบกับกิ้งก่าจากเมืองนอกบางตัวเสียด้วยซ้ำ! และเราจะมาระดมสมองและสำนึกที่ดีๆ ของคนไทยในเรื่องความปลอดภัย เพื่อหาหนทางแก้ภาพพจน์อันไม่ดี ในสายตาชาวโลก ต่อบ้านเมืองของเราให้หมดไปข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในเว็ปไซต์แห่งนี้ หากจะนำมา ซึ่งประโยชน์ต่อสาธารณะชน ความดีต่างๆ ที่มีขออุทิศให้กับบรรดา อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย อาสาสมัครกู้ภัย ผู้อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสังคม รู้จักกับผู้ดูแลเว็บ Click
) ฤดูของเมืองไทยตามสไตล์ของท่านนี้( ใครว่าเมืองไทยมี 3 ฤด |
เมืองไทยมี 4 ฤดู ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ยุคนั้นมีการพูดถึงฤดูไฟไหม้ กันอย่างเป็นทางการ และได้กำหนดไว้อย่างเป็นที่เข้าใจกันว่า คือระยะเวลาระหว่างเดือนธันวาคม ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ท่านให้คำจำกัดความไว้ว่า " ฤดูไฟไหม้ " จะเป็นช่วงที่อากาศแห้ง มีความชื้นน้อย บรรยากาศรื่นเริง เพราะเป็นหน้าเทศกาล มีการเฉลิมฉลองกันอย่างเต็มที่ อาทิ งานเฉลิมพระชนม์พรรษา 5 ธันวา งานตรุษฝรั่ง คริสมาส 24-25 ธันวา งานปีใหม่ตั้งแต่ปลายธันวาไปจนถึงกลางเดือนมกรา แล้วปิดท้ายด้วย |
|