เที่ยวอยุธยา

   กรุงศรีอยุธยาตั้งอยู่ที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างบริเวณที่แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำป่าสัก มาบรรจบกันเป็นทำเลเหมาะสมสามารถคุมเส้นทาง การค้าขายทั้งภายในและภายนอกดังนั้นในอดีตกรุงศรีอยุธยาจึงเป็นศูนย์กลาง ทางเศรษฐกิจการปกครอง และวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่งในภูมิภาคนี้ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ.1893 มี พระมหากษัตริย์ปกครองสืบมา 33 พระองค์ รวม 33 รัชกาล โดยสมเด็จ พระเจ้าเอกทัศน์เป็นพระมหากษัตริย์องค์สุดท้าย ก่อนเสียกรุงแก่พม่าเมื่อ พ.ศ.2310 รวมเวลาที่เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย 417 ปี กำแพงเมืองพระนครศรีอยุธยา แรกสร้างด้วยดินต่อมาเปลี่ยนเป็นกำแพงอิฐในรัชกาลสมเด็จ พระมหาธรรมราชา โดยกำแพงเมืองหนา 5 เมตร สูง 6 เมตร ยาวราว 12.5 กิโลเมตร มีป้อมปืนรอบเมือง 16 ป้อม ประตู 99 ประตู ในจำนวนนี้มีประตูน้ำ 20 ประตู ประตูเมือง 18 ประตู ประตูช่องกุด 61 ประตู มีคลองชักน้ำเข้ามาใช้ ภายในเมืองหลายสาย ซึ่งเป็นคลองสายหลักที่ขุดเป็นแนว เหนือ-ใต้ 5 สาย แนวตะวันออกถึงตะวันตก มากกว่า 5 สาย มีถนนอิฐ และถนนดิน เป็นเส้นทางสัญจรทางบก ซึ่งส่วนมากจะสร้างขนานไปกับคลอง มีสะพานทั้งสิ้นกว่า 30 สะพาน สร้างด้วยไม้และอิฐ สะพานสร้างด้วยศิลาแลง และสะพานหกอย่างละ 1 สะพาน พื้นที่นอกเมือง เป็นที่ราบลุ่มสำหรับการเกษตรกรรมมีคลองธรรมชาติและคลองขุดเป็นเครือข่ายโยงใยจำนวนมาก สองฝั่งแม่น้ำลำคลอง เป็นที่อยู่อาศัยของชาวเมือง สลับกับวัดวาอารามทั่วไป ประชาชนเหล่านี้ทำ อาชีพเกษตร กรรมและอุตสาหกรรมในครัวเรือน ที่เน้นการผลิดเพื่อตอบสนองชุมชนเป็นสำคัญ ตลาดใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าขายของพื้นเมือง คือตลาดน้ำ 4 แห่ง นอกเมือง 30 แห่ง ตลาดเหล่านี้ขายของสด เช้า เย็น และสิ่งของที่ผลิตเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน ชาวอยุธยาส่วนมากนับถือศาสนาพุทธ ดังปรากฎ วัดในพระพุทธศาสนาทั้งวัดหลวงและวัดราษฎร์กว่า 500 แห่ง นอกจากนี้ยังมีศาสนสถานในศาสนาอิสลาม ศาสนาฮินดู และศาสนาคริสต์ ซึ่งเป็นศาสนาของชาวต่างชาติ ที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารอีกจำนวนหนึ่ง ชาวต่างชาติเหล่านี้ ได้รับพระบรมราชานุญาตให้อยู่อาศัยนอกเมือง เช่น โปรตุเกส ฮอลันดา ฝรั่งเศส แขกจาม แขกมลายู และญี่ปุ่น เป็นต้น จากข้อมูลกรมศิลปากร หน้าวัดพระศรีสรรเพชญ์



แหล่งอ้างอิง : http://www.ge.go.th/web453/history.html

โดย : นาย พิสัณห์ ผลบุญ, โรงเรียนพุทธโสธร, วันที่ 20 สิงหาคม 2545