ปุ๋ยจากธรรมชาติ...มีคุณค่ายิ่ง

ปุ๋ยธรรมชาติ..มีคุณค่ายิ่งนัก

              ในบ้านเรามีปุ๋ยจากธรรมชาตมากมาย ถ้ารู้จักนำทรัพยากรเหล่านี้มาใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม  จะเป็นการลดต้นทุนการผลิต ประหยัดเงินในการซื้อปํยเคมี ช่วยลดภาวะมลพิษจากสิ่งปฏิกูล และสามารถผลิตพืชผลได้ทั้งปริมาณและคุณภาพที่ต้องการ  นอกจากนี้เป็นการสนับสนุนการทำเกษตรแบบธรรมชาติ ซึ่งเป็นการปลูกพืชโดยหลึกเลี่ยงการใช้สารเคมี  ไม่ว่าเป็นปุ๋ย ยาป้องกันกำจัดวัชพืช ฮอร์โมนพืช และสารเคมีอื่นๆดังนั้นควรมารูจัดปุ๋ยธรรมชาติกันดีกว่า

              ปุ๋ยธรรมชาตที่ได้จากพืช

        ได้แก่  เศษใบไม้  ใบหญ้า ที่เน่าเปื่อนผุพังและสามารถเป็นประโยชน์ต่อพืชที่ปลูกได้ เช่น

         1.ใบมะขาม ใบกระถิน ใบขี้เหล็ก ใบจามจุรี ใบโสน และใบแค ซึ่งล้วนแต่พืชตระกูลถั่ว  เมื่อนำใบที่ร่วงหล่นจากพื้นมากองรวมกัน  และรดน้ำให้ชื้น ภายใน 7-10 วัน จะสลายตัว สามารถนำส่วนที่ย่อยสลายนี้ไปผสมดินปลูกพืชในกระถางถ้าต้องการให้มีคุณภาพดีขึ้น กองรวมกับปุ๋ยคอกในอัตราส่วนดังนี้

ใบจามจุรี   4   ส่วน + ปุ๋ยคอก    1   ส่วน

   นอกจากนี้ยังนำไปหว่านโรยรอบต้นพืชที่ปลูก  จึงเป็นการช่วยกำจัดเศษใบไม้ใต้ต้นเหล่านี้ไปด้วย

2. ใบมะขาม ใบชะมวง ใบมะกอกไทย และใบชมพู่ ที่ร่วงหล่นรอยู่โคนต้น นำไปกองรวมกันแล้วหมักไว้ให้เน่าเปื่อย หรือใส่ในถุงขยะดำปิดปากถุงทิ้งไว้  7 วัน ใบไหมักเหล่านี้จะเน่าเปื่อยและมีความเป็นกรด  เหมาะสำหรับผสมดินปลูกไม้ประดับหรือ ไม้ใบที่มีสี เช่น โกสน บอนสี และไฮเดรนเยีย จะช่วยให้ใบและดอกสีเข้มขึ้น

          3. ต้น ใบ และรากผักตบชวา นำมาสับเป็นท่อนๆ กองรวมกันให้เหี่ยว ประมาณ 2-3 วัน รดน้ำด้วยปุ๋ยคอก คลุมด้วยกระสอบ ประมาณ 7-10 วัน ผักตบจะเหี่ยวยุบตัวลง และมีธาตุอาหารจากปุ๋ยคอก นำไปใส่ในแปลงผัก  และผสมดินปลูกต้นไม้ได้

          4. เปลือกถั่วลิสง  นำมากองไว้จนเปื่อยยุ่ยประมาณ  3  สัปดาห์ นำไปรองก้นหลุมปลูกไม้ผล หรือผสมดินปลูกไม้กระถาง จะช่วยทำให้ดินร่วนซุย รากขอนไขและเจริญเติบโตได้ดี

          5. ละอองข้าวจากโรงสี  ที่เกิดจากการขัดสีข้าวเปลือก จะเป็นส่วนของเยื่อที่หุ้มเมล็ดข้าว จมูกข้าวและรำ นำละอองข้าวนี้มาแช่น้ำ 1-2 วัน แล้วนำน้ำที่หมักไปรดต้นไม้ ผักกินใบ จะช่วยให้ใบมีสีเขียวเข้ม ยอดและใบจะอวบอ่อนน่ารับประทาน

          6. น้ำซาวข้าว  นำไปรดมะลิ  สะระแหน่ จะช่วยบำรุงใบให้เจริญงอกงามขึ้น

          7. เปลือกกล้วยทุกชนิด  นำมาหั่นเป็นท่อนๆ แล้วตากแห้ง ผสมดินปลูก กุหลาบ จะออกดอกสีสวยงาม

          8. ดินเผาและการเผาเศษใบไม้  โดยนำเศษใบไม้กองสลับกับชั้นดิน จะช่วยทำลายเมล็ดวัชพืช โรคแมลง และเพิ่มธาตุอาหารบางธาตุ เมื่อนำไปปลูกต้นไม้จะช่วยเพิ่มรสหวานและคุณภาพของผลผลิต

 ปุ๋ยธรรมชาติที่ได้จากคนและสัตว์

          1. น้ำปัสสาวะ  นำมาหมักโดยใส่น้ำในอัตราส่วน  1 : 4 หมักไว้ 2-3 วัน นำไปรดผักหรือไม้ประดับ จะช่วยให้มีการแตกยอด และใบอ่อน ใบจะมีสีเขียวเข้ม

          2. อุจจาระ  นำอุจาระจากถังพัก ซึ่งไม่มีกลิ่นเหม็น นำไปรดรอบๆโคนต้นไม้ และรดน้ำตามประหยัดค่าดูดส้วม

          3. มูลสัตว์เก่าค้างปี  จากสัตว์ทุกชนิด ใส่ในหลุมปลูก หรือโรยในแปลงพืชไร่ พืชผัก หรือผสมดินปลูกไม้กระถาง จะช่วยให้ดินร่วนซุย และดูดซึมน้ำได้ดีขึ้น

          4. น้ำคาวปลา  เป็นน้ำทีได้จากการล้างและแปรรูปปลาสด ซึ่งมีทั้งเลือด เกล็ด และเมือก นำมาผสมน้ำ หรือน้ำซาวข้าว นำไปรดมะลิ สะระแหน่ และไม้กระถางอื่นๆได้ดี

          5. กากนมหรือน้ำล้างขวดนมทารก นำไปผสมน้ำรดต้นไม้ หรือสนามหญ้าจะทำให้แตกยอดอ่อน แตกกอเร็ว เพราะนมมีธาตุอาหารอยู่ในรูปที่พืขสามารถนำไปใช้ได้ทันที

          6. กระดูกสัตว์ เข่น กระดูกวัว ควาย หมู จากโรงงานฆ่าสัตว์ นำมาเผาจนกระดูกไหม้เกรียม เปราะร่วน ป่นเป็นชื้นเล็กๆนำไปใส่หลุมปลูกไม้ผลหรือละลายน้ำ ฉีดพ่นกล้วยไม้ได้ผลดี

            จะเห็นได้ว่าบ้านเรามีปุ๋ยธรรมชาติให้เลือกใช้ได้มากมาย จากสิ่งที่ใกล้ๆตัว ไม่ว่าเศษไม้ ใบหญ้า มูลสัตว์ต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ถ้าทิ้งไว้จะกลายเป็นขยะเน่าเหม็น แต่เมื่อนำมากองหมักรวมกันกลับมีประโยชน์ยิ่งนัก  ดังนั้นควรเลือกดูว่าจะใช้ปุ๋ยธรรมชาติจากอะไร ใส่ต้นไม้ใกล้ๆบ้าน แล้วดูการเจริญเติบโต และผลผลิตว่าเป็นอย่างไร เมื่อไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี และเป็นการกำจัดขยะรอบบ้านไปด้วย.

 


ที่มา : วารสารกสิกร. ปีที่ 69. ฉบับที่ 2 , หนังสือเกษตรธรรมชาติ ผศ.มุกดา สุขสวัสดิ์

โดย : นางสาว อนงค์ ดำดง, โรงเรียนหอวัง, วันที่ 14 กรกฎาคม 2545