ปลาบึก |
|
ปลาบึก เป็นปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับสมญานามว่า เจ้าพ่อแห่งลุ่มน้ำโขง เพราะมีถิ่นอาศัยแหล่งเดียว ณ ที่นั้น ชาวไทยและชาวลาวรู้จักปลาชนิดนี้มาแต่ดึกดำบรรพ์ในชื่อ บึก
คำว่า บึก เพี้ยนมาจากคำว่า หึก ซึ่งเป็นคำในภาษาของกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณสองฝั่งโขง ได้แก่ ไทยเหนือ ไทยอีสาน และลาว หมายถึง ใหญ่ ดังนั้นจึงเรียกปลาที่มีขนาดมหึมาชนิดนี้ว่า ปลาหึก นาน ๆ ไปเสียงเพี้ยนกลายเป็น ปลาบึก จนทุกวันนี้
ชาวตะวันตกเรียกปลาชนิดนี้ว่า huge fish หรือ Mekong giant catfish ชาวเขมรเรียก เตร-เร-อัค
|
|
ปลาบึก เป็นปลาไม่มีเกล็ดหรือที่เรียกกันว่า ปลาหนัง ลำตัวยาว ด้านข้างแบน หัวค่อนข้างเล็ก จะงอยปากสั้นทู่ ตามีขนาดเล็กและอยู่ในระดับเดียวกับมุมปาก มีหนวดสั้นมากอยู่ 2 คู่ ปากเล็ก ปลาวัยอ่อนจะมีฟันอยู่บนขากรรไกร เมื่อปลาเจริญวัยฟันจะหลุดหายไป ลำตัวมีสีเทาปนดำ บริเวณหลัง ด้านท้องใต้แนวเส้นข้างตัวเป็นสีเหลือง ส่วนล่างสุดจะมีสีขาวเงิน ขนาดใหญ่สุดมีความยาว 2.5 เมตร แต่มีรายงานบางแห่งบันทึกไว้ว่ายาวถึง 3.0 เมตร มักชอบอาศัยในน้ำลึก อุณหภูมิประมาณ 24 26 องศาเซลเซียส ที่มีน้ำไหลตลอด โดยกินสาหน่ายเป็นหลัก แต่ถ้านำมาเลี้ยงในบ่อจะกินไม่เลือก คนจีนเรียกชื่อปลาบึกว่า ปลาขงเบ้ง เชื่อว่ากินแล้วจะฉลาดเหมือนขงเบ้ง เนื้อปลามีรสดี และราคาแพงมาก
มีตำนานเล่าขานสืบต่อมาเป็นเวลาร้อยปี ชาวเขมร และลาว เชื่อกันว่า ปลาบึกตัวเมียอาศัยอยู่เฉพาะในทะเลสาบเขมรเท่านั้น เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์จะเดินทางขึ้นไปตามลำน้ำโขง ผ่านประเทศลาว ไทย พม่า ขึ้นถึงทะเลสาบตาลีในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อผสมกับตัวผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในทะเลสาบดังกล่าว โดยปลาบึกตัวผู้มีลักษณะพิสดารกว่าตัวเมีย คือจะมีเกล็ดสีทอง
|
โดย : นาย ธนนท์ สุทธิกุล, ร.ร.ภูเก็ตวิทยาลัย, วันที่ 21 พฤศจิกายน 2544
|