ข้อคิดเกี่ยวกับการนำ ISO 9000
ไปใช้ในงานห้องสมุด
( โดยใช้ ISO 9001 ฉบับปี ค.ศ. 2000 )
บทคัดย่อ
หลักการสำคัญของ ISO 9000 คือการใส่ใจ หรือมุ่งเน้นที่ลูกค้า มีการนำเอาความต้องการและความคาดหวังของลูกค้ามาจัดทำเป็นเป้าหมายของธุรกรรมในองค์กร มีการดำเนินการเพื่อให้องค์กรสามารถปฏิบัติงานให้ตรงตามที่กำหนดไว้แล้วตอบสนองต่อความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และประเมินผลการให้บริการจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญจากตัวลูกค้าของตนแล้วทำการวิเคราะห์และนำไปปรับปรุงระบบการดำเนินงานขององค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาระดับความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งในปัจจุบันลูกค้าจะมีระดับความต้องการและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วมาก ดังนั้นการที่องค์กรใดจะรักษาระดับความพึงพอใจให้ดีอยู่เสมอนั้น จำเป็นต้องปรับปรุงเพิ่มเติมการบริการของตนให้เข้มข้นกว้างขวางและลึกขึ้นไปอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้ห้องสมุดไม่ต้องติดเครื่องปรับอากาศ แต่ปัจจุบันไม่ติดไม่ได้ เมือ่ก่อนไม่มีบริการถ่ายสำเนา แต่ต่อไปไม่มีไม่ได้แล้ว ปัจจุบันอาจไม่มี Internet แต่ต่อไปไม่มีไม่ได้และต่อไปหอสมุดใหญ่ๆ อาจต้องมีบริการสั่งซื้อหนังสือให้ด้วย รวมไปถึงการยืมหนังสือที่จะไม่ใช้การลงชื่อใดๆเลย เพียงถือหนังสือผ่านเครื่องอ่าน bar code แล้วรับสลิปวันกำหนดส่งมาแนบในหนังสือก็ใช้ได้ หรือในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ห้องสมุดอาจเปลี่ยนเป็นศูนย์บริการองค์ความรู้ซึ่งไม่การยืมหนังสือเป็นเล่มๆ แต่จะกลายเป็นการให้บริการ download ข้อมูลหรือผลงานวิจัย หรือเอกสารใดๆที่เคยห้ามยืมออก ลงไปใน e book ที่คล้าย notebook PC อย่างในปัจจุบัน
บทบาทหน้าที่ห้องสมุดของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ห้องสมุดในช่วง 10 ปี ข้างหน้านี้ ต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงทีเดียวนอกเหนือจากการพัฒนาระบบบริหารคุณภาพในการบริหารของตนให้ทันสมัยและเป็นแบบสากลแล้วคงต้องถามว่า ตัวเจ้าหน้าที่ในแต่ละห้องสมุดนั้น ได้ยืมหนังสือตำราทางวิชาการกลับไปอ่านกันมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะทางด้าน IT หรือ Information Technology ต่อไปอาจต้องศึกษาค้นคว้าตลอดเวลา เพื่อให้สามารถพัฒนาขีดความสามารถและทักษะมากพอกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะต่อไปสิ่งที่จัดว่าเป็นมาตรฐานของห้องสมุดคือ แหล่งองค์ความรู้ที่เป็นสากลและมีเท่าเทียมกันระบบการให้บริการที่ใช้ไฮเทคเช่นเดียวกัน ภาษาที่ใช้ก็จะเป็นภาษาอังกฤษ และมาตรฐานการบริการก็จะต้องเป็นอย่างเดียวกัน ทั้งนี้เพราะโลกจะไร้พรมแดน
+++++++++++++++++++++++++++++++
ที่มา วีระพงษ์ เฉลิมจิระรัตน์ , วารสารสำนักห้องสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
|