หลังจากคุณคิดพิจารณาอยู่สิบกว่ารอบ ตอนนี้คุณตัดสินใจแล้วที่จะเลี้ยงสุนัขสักตัวหนึ่ง แต่คุณก็ยังคิดไม่ตกอยู่ดี ว่าควรจะเลือกซื้อสุนัขอย่างไรดี วันนี้เรามีวิธีการเลือกซื้อมาฝาก ไม่ว่าคุณจะซื้อสุนัขพันธุ์อะไรก็ตาม คุณก็สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ได้
1. คุณพร้อมหรือยัง
ความพร้อมที่ว่านี้ หมายถึงความพร้อมของตัวคุณเอง ที่ต้องพร้อมทั้งด้านการเงิน (ก็สำหรับจะไปซื้อสุนัขไงล่ะ) และพร้อมทั้งด้านที่อยู่อาศัย ต้องดูว่าบ้านคุณกว้างพอที่จะเลี้ยงเจ้าตูบได้หรือไม่ โดยเฉพาะถ้าตูบนั้นต้องการที่กว้างๆ หรือต้องการการออกกำลังกายเป็นพิเศษ ทางที่ดีที่สุดคุณควรจะประเมินสถานที่ที่คุณมี ให้เข้ากับพันธุ์สุนัขที่เหมาะสม ไม่ใช่ว่าคุณอยู่ห้องแถวขนาดเพียง 1 ห้อง แต่คุณกลับเลี้ยงเจ้าหมาขนาดใหญ่แบบร้อตไวเลอร์ที่ต้องการที่กว้างๆ สำหรับออกกำลัง แถมใกล้ๆ บ้านยังไม่มีสวนสาธารณะที่จะพามันไปยืดเส้นยืดสาย แบบนี้เลี้ยงไปเลี้ยงมา เจ้าร้อตไวเลอร์อาจมีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ หรือมีความเครียด กลายเป็นสุนัขมีปัญหาไปก็ได้ ทางที่ดีถ้าคุณมีบ้านหลังเท่านั้น คุณก็น่าจะหาสุนัขพันธุ์กระเป๋า หรือสุนัขที่ไม่ต้องการการออกกำลังมากนัก เช่น เจ้าชิสึ หรือ ชิวาวา จะดีมากกว่า และความพร้อมสุดท้ายคือ พร้อมเรื่องเวลา คือ คุณเองต้องมีเวลาว่างมากพอที่จะประคบประหงมมันด้วย ถ้าหากว่าคุณซื้อมันมา แต่ไม่มีเวลาได้ชื่นชมกับสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของคุณเลย ไม่เพียงแต่เงินของคุณจะสูญเปล่า แต่ยังเป็นการทำร้ายจิตใจของสุนัขตาดำๆ อีกด้วย
2. ศึกษาเกี่ยวกับสายพันธุ์ที่คุณจะเลี้ยงให้มากที่สุด
ก่อนจะเลี้ยงสุนัขสักตัวหนึ่ง คุณควรศึกษาถึงพันธุ์ของสุนัขที่คุณจะเลี้ยงให้ถ่องแท้ ทั้งด้านลักษณะนิสัย ความแตกต่างของสายพันธุ์ ความต้องการเป็นพิเศษ รวมถึงโรคที่มักจะเป็นด้วย วิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือ ดูจาก Dog Breed ของเว็บ108 pets เรานี่ล่ะ เพราะเรามีรายละเอียดของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ไว้ให้คุณครบถ้วนทีเดียว จำไว้ว่าสุนัขแต่ละพันธุ์ก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน วิธีที่จะทำให้สุนัขแสนรักอยู่เป็นเพื่อนคุณไปนานๆ นั่นก็คือการเลี้ยงดูที่ดี และการเตรียมพร้อมของคุณ ก็จะเป็นของขวัญที่วิเศษสุดสำหรับมันเลย
3. เลือกซื้อสุนัขจากผู้ขายที่ไว้ใจได้
เราแนะนำให้คุณเลือกซื้อสุนัขจากฟาร์มโดยตรง เพื่อให้ได้สายพันธุ์แท้ อย่าซื้อสุนัขกับพ่อค้ามือสอง หรือจากผู้ที่โอ้อวดสรรพคุณว่าสุนัขของตัววิเศษเป็นอันขาด เพราะคุณอาจถูกย้อมแมวได้ ยกเว้นว่าคนคนนั้น เป็นคนที่ไว้ใจได้ (แต่ก็ยังมีข้อกังขาอยู่ดีว่าเขารู้จริงหรือเปล่า บ่อยครั้งไป ที่ผู้ขายมีเจตนาดีแต่ความรู้ไม่พอเพียง และสุดท้ายคุณก็ได้สุนัขขี้เหร่มาจนได้) นอกจากนี้คุณยังควรพิจารณาจากคนขายด้วย ดูว่าเขามีอัธยาศัยดีหรือเปล่า เต็มใจที่จะให้คำปรึกษากับคุณหรือไม่ เผื่อเวลาคุณมีปัญหาอย่างน้อยๆ คุณก็จะได้มีที่พึ่ง และอีกอย่างผู้ขายเป็นผู้เลี้ยงสุนัขตัวนั้นๆ มาก่อน เมื่อเกิดปัญหาขึ้น เขาจึงควรรู้ดีที่สุดว่าจะจัดการอย่างไร และถ้าคนขายยินดีรับเปลี่ยนหรือคืนสุนัขด้วยยิ่งดี เพราะนั่นถือเป็นการการันตีได้ส่วนหนึ่ง
เมื่อคุณกำลังจะซื้อสุนัข.2545.www.108 pets.com
|