ตำนานช้างไทย

ตำนานช้างไทย. 2545. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.jorjae.com/content/8/2668.html.

ต้นตระกูลช้างไทยถือกำเนิด ณ บริเวณคาบสมุทรอินโดจีน ลึกขึ้นไป ตามลุ่มน้ำ สายใหญ่ๆ ในเอเชีย เป็นเวลากว่า 60 ล้านปีมาแล้ว นักสัตววิทยา เรียกสกุลช้างสายนี้ว่า ช้างเอเชีย ช้างมีรอบติดสัดในปีหนึ่งประมาณ 10 วัน วัยเจริญพันธุ์ ของช้างเพศเมีย หรือช้างพัง จะอยู่ระหว่างอายุ 15-50 ปี ส่วนวัยเจริญพันธุ์ ของช้างเพศผู้ หรือช้างพลาย จะอยู่ระหว่าง 20- 55 ปี ช้างเพศเมีย จะตั้งท้องราว 18-22 เดือน หลังตกลูกแล้ว ช้างพัง จะว่างเว้นการติดสัด อยู่ประมาณ 3 ปี ตลอดชีวิตของแม่ช้าง อาจมีลูกได้ 3 – 4 เชือก ตามปกติ แม่ช้างจะตกลูกได้เพียงครั้งละ 1 เชือก ลูกช้างแรกเกิดมีน้ำหนักประมาณ 70 -100 กิโลกรัม มีขนยาวถี่ งวงสั้น หางยาว แม่ช้างมีนมสองเต้า ลูกช้างจะกินนมแม่โดยใช้ปากดูดแล้วม้วนงวง หรือยกงวงขึ้น ลูกช้างจะกินนมแม่อยู่หลายเดือนแม้จะกินหญ้าได้แล้วก็ตาม เมื่อลูกช้างอายุได้ 4 เดือนจะใช้งวงหยิบมูลแม่มากิน แสดงว่าเริ่มต้องการอาหารหยาบ เมื่ออายุได้ 3 ปีครึ่งถึง 4 ปี หัวจะเริ่มขึ้นโหนกหรือหมอนเป็นวัยพร้อมรับการฝึก( ชมการฝีกลูกช้างได้ที่ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ลำปาง สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ลานแสดงช้างสามพราน) ช้างเป็นสัตว์ที่ไม่กินเนื้อ อาหารส่วนใหญ่ได้แก่ต้นไม้ใบหญ้า ความต้องการอาหารประมาณร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัว ช้างที่เจริญวัยแล้วจะกินอาหารเฉลี่ยวันละประมาณ 250 กิโลกรัม อาหารของช้างได้แก่ หญ้าชนิดต่างๆ ไผ่ หน่อไม้ เถาวัลย์ พืชล้มลุก พืชไร่ และไม้ยืนต้น เช่น กล้วย อ้อย สัปปะรด ข้าวโพด มะพร้าว อาหารธรรมชาติ ที่ช้างป่า ชอบกินคือ ดินโป่ง ที่ประกอบด้วย แร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ส่วนช้างเลี้ยง หรือช้างบ้าน ก็มักจะผสมเกลือลงในอาหารเพื่อแทนดินโป่ง แม้ช้างจะเป็นสัตว์เขตร้อนแต่กลับไม่ชอบอากาศร้อนอบอ้าว อุณหภูมิที่ช้างรู้สึกสบายๆ อยู่ระหว่าง 20-33 องศาเซลเซียส ดังนั้นการนำช้างเข้ามาเดินในชุมชนเมืองที่การจราจรคับคั่ง และมีความร้อนสูง จึงไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวงต่อสุขภาพร่างกาย และจิตใจ ของช้าง



โดย : นางสาว watjarin phodongnok, ripw.klongluang patumtani 13180, วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2545