วงจรชีวิตและสังคมผึ้ง

วงจรชีวิตและสังคมผึ้ง. 2001. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาhttp://kanchanapisek.or.th
วงจรชีวิตและสังคมผึ้ง
ไม่มีผึ้งตัวหนึ่งตัวใด สามารถดำรงชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวเป็นระยะเวลานาน โดยขาดความสัมพันธ์กับผึ้งวรรณะอื่นภายในสังคมเดียวกันเพราะผึ้งเป็นแมลงสังคมที่มีวิวัฒนาการสูง มีระบบสังคมมาเป็นเวลาช้านานประมาณถึง 30 ล้านปี ผึ้งแต่ละรังเปรียบเสมือนครอ บครัวหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วย 3 วรรณะคือ ผึ้งนางพญาหนึ่งตัว ผึ้งตัวผู้หลายร้อยตัว และผึ้งงานอีกจำนวนเป็นหมื่นตัว โดยเฉพาะผึ้งเลี้ยงอาจจะมี ผึ้งงานได้หลายหมื่นตัว ผึ้งนางพญา มีลักษณะตัวใหญ่กว่าผึ้งงานและลำตัวยาวกว่าผึ้งตัวผู้ ปกติจะมีอายุ 1-2 ปี แต่บางตัวอาจมีอายุนานถึง 3 ปี ผึ้งงาน เป็นผึ้งเพศเมีย มีขนาดเล็กที่สุดเนื่องจากในระยะที่เป็นตัวอ่อนได้รับอาหารพิเศษคือนมผึ้งหรือรอยัลเยลลี (royal jelly) เพียง 3 วัน หลังจากนั้นตัวอ่อนผึ้งงานที่มีอายุมากขึ้นจะได้กินแต่เกสรและน้ำผึ้ง ทำให้ขบวนการพัฒนาแตกต่างไปจากผึ้งนางพญาม าก ในขณะที่ผึ้งนางพญาได้กินนมผึ้งตั้งแต่เป็นตัวอ่อนอายุ 1 วัน และได้กินต่อไปจนตลอดชีวิต ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เพศ เมีย 2 วรรณะนี้ ผิดแผกแตกต่างกันทั้งลักษณะภายนอกและภายในตลอดจนภารกิจต่าง ๆ ผึ้งงานมีหน้าที่หลักในการทำงาน เช่น ท ำความสะอาดรัง เลี้ย งดูป้อนอาหารให้ผึ้งตัวอ่อน สร้างและซ่อมแซมรังเป็นทหารเฝ้ารังป้องกันศัตรูและหาอาหาร ผึ้งงานต้องรับภาระดังกล่าวเท่ ากันทุกตัว ไม่มีการเอาเปรียบแก่งแย่งกันหรือหลบงานเลย ทุกตัวรับผิดชอบงานของตนเองโดยไม่มีใครบังคับ และไม่ต้องสั ่งสอนกัน นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่ าผึ้งงานคือหุ่นยนต์ที่มีชีวิตตัวน้อย ๆ ทำงานเกือบตลอดเวลาตั้งแต่เกิดจนตาย ดังนั้นผึ้งงานจึงมีอายุสั้นเพียง 6-8 สัปดาห์ เท่านั้น ผึ้งตัวผู้ มีขนาดใหญ่ ลำตัวอ้วนและสั้นกว่าผึ้งนางพญา ผึ้งตัวผู้ไม่มีเหล็กใน มีลิ้นสั้นหาอาหารเองไม่ได้ แต่จะรับอาหารจากผึ้งงานเท่านั้น ผึ้งตัวผู้ไม่มีหน้าที่ทำงานภายในรัง ดังนั้นจึงมีหน้าที่ผสมพันธุ์อย่างเดียว เมื่อผสมพันธ ุ์ในอาหารเสร็จจะตกลง มาตาย เมื่อหมดฤดูผสมพันธุ์ ผึ้งตัวผู้ที่ยังไม่มีโอกาสผสมพันธุ์จะถูกผึ้งงานปล่อยให้อดตายด้วย เราจะพบผึ้งตัวผู้ป รากฎในรังเฉพาะช่วยฤดูผสมพันธุ์เท่านั้น หลังจากผสมพันธุ์กับนางพญาแล้ว ผึ้งตัวผู้จะตายทันที



โดย : นาย ปริญญา หงษ์ทอง, Rhajabhat Institue Petchburiwittayalongkorn phahonyothin Road,Kw 48 Klong Luang, วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2545