คอมพิวเตอร์ราคาประหยัด.2545.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก : http://ccp.nectec.or.th/mypc/default.htm.
ความหมายของ คอมพิวเตอร์ราคาประหยัด
คอมพิวเตอร์ราคาประหยัด เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปทั้งภายในบ้านพักอาศัย และใช้ในสำนักงาน ถูกออกแบบมาเพื่อไม่ให้มีข้อกำหนดหลากหลาย ทำให้ง่ายต่อการผลิตชิ้นส่วน การผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ และการดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้ต้นทุนผลิตมีราคาต่ำลงทำให้ราคาคอมพิวเตอร์ที่ผลิตจำหน่ายในท้องตลาดมีราคาต่ำลง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำลงด้วยคอมพิวเตอร์ราคาประหยัดสามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งด้านความบันเทิง การศึกษา สื่อประสม เกมส์ต่างๆ และสามารถรองรับการใช้งานกับโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์สำนักงานเป็นสำคัญ เช่นโปรแกรม Office Suite (Open Office, Microsoft Office, Lotus Smart Suite, Corel Office) โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล (โปรแกรมด้านการจัดการทางด้านบัญชี การเงิน เงินเดือน) รวมถึงการใช้งานพื้นฐานทางด้านเครือข่ายภายในบ้านพักอาศัย หรือสำนักงาน (LAN Intranet หรือ Internet) ผ่านการ์ดเครือข่าย (Network Interface Card) หรือผ่านโมเด็ม (MODEM)
ความเป็นมา ของ คอมพิวเตอร์ราคาประหยัด
นโยบายส่งเสริมการเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการพัฒนาประเทศ ทำให้มีการใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อให้บริการภาครัฐ การเรียนการสอน การใช้อินเทอร์เน็ต หรือการส่งเสริมให้มี E-Commerce มากขึ้น คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือที่ราคาสูง และจำเป็นสำหรับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เนคเทค ได้ศึกษาข้อมูล ของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ภายในประเทศ พบว่า ส่วนแบ่งการตลาดของคอมพิวเตอร์ ที่สำคัญได้แก่
1. สินค้านำเข้า สำเร็จรูปจากต่างประเทศ มีสัดส่วน 40%
2. สินค้าที่ผลิตในประเทศ ที่มียี่ห้อ มีสัดส่วน 30%
3. สินค้าที่ผลิตโดยไม่มียี่ห้อ หรือซื้อชิ้นส่วนไปประกอบเอง มีสัดส่วน 30%
ในปี 2543 มีการประมาณการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ไว้ที่ 600,000 เครื่อง คิดเป็นเงิน 30,000 บาท/เครื่อง รวมมูลค่าที่ใช้ซื้อคอมพิวเตอร์ ประมาณ 7,200 ล้านบาท และคาดว่ามีการใช้คอมพิวเตอร์สูงมากขึ้นใน 2 - 3 ปีถัดไป อาจสูงถึง ล้านเครื่อง/ปี คิดเป็นมูลค่า นับหมื่นล้านบาท หากทำให้คอมพิวเตอร์สามารถผลิตจำหน่ายภายในประเทศได้พอเพียง และทำให้ราคาต่ำลง จะ เป็นการประหยัด เงินตราต่างประเทศ และงบประมาณของรัฐที่จะต้องใช้ไป เพื่อการจัดซื้อคอมพิวเตอร์มาใช้งาน จากราคา 30,000 บาท/เครื่องให้เหลือราคา 20,000 บาท/เครื่อง ซึ่งช่วยประหยัดได้ หลายพันล้านบาทต่อปี
|