เดือนกุมภาพันธ์ในหลายๆ ประเทศ จะเป็นช่วงเวลาอันแสนหวานของความรัก คู่รักจะส่งมอบขนมหวาน ดอกไม้ และของขวัญให้แก่กัน ประเพณีนี้ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน จากเหล่าคริสตศาสนิกชน และชาวโรมันโบราณ แต่จุดเริ่มต้นมาจากไหน ยังไม่เป็นที่แน่ชัดนัก อ๊อบเคยได้ยินมาว่าวันวาเลนไทน์นี้เกี่ยวข้องกับนักบุญ นักบวช หรือพระ (แล้วแต่จะเรียก) ในศาสนาคริสต์ที่มีชื่อวาเลนไทน์ (Valentine) แต่พอได้ค้น ได้อ่านมากๆ เข้า ทั้งในเว็บไซต์ต่างประเทศ ในหนังสือเอนไซโคปิเดีย บริเทนนิก้า กลับพบว่าเรื่องราวไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ แม้ว่าจะมีชื่อที่ถูกอ้างอิงถึงต้องตรงกันคือชื่อ วาเลนไทน์ (valentine)
แต่ชื่อนี้ไม่ได้หมายความถึงนักบุญคนเดียวกันเลยหละค่ะ เพราะเท่าที่อ่านๆ มาจากเว็บไซต์แห่งนึงของอเมริกา เค้าเชื่อกันว่า อย่างน้อยๆ ก็มีนักบุญที่มีชื่อ Valentine หรือ Valentinus 3 คน ค่ะ ซึ่งทั้งหมดต่างก็เป็นบุคคลผู้เสียสละเพื่อศาสนา เรื่องที่เล่าๆ ต่อๆ กันมา ของ St.Valentine คนแรกที่จะพูดถึง เกิดขึ้นราวๆ ศตวรรษที่ 3 ในกรุงโรม สมัยองค์จักรพรรดิ Claudius ที่ 2 เหตุเพราะจักรพรรดิไม่ต้องการให้ทหารของพระองค์แต่งงาน เพราะการมีภรรยา หรือการมีครอบครัว จะทำให้ศักยภาพของกองทัพด้อยลงไป แต่ St.Valentine เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงแอบประกอบพิธีสมรสให้กับบรรดาคู่รักอย่างลับๆ เมื่อความลับที่ปกปิดไว้ล่วงรู้ถึงหูองค์จักรพรรดิ St.Valentine จึงถูกสั่งประหารทันทีอีกเรื่องก็เป็นความพยามของ St.Valentine (คนละคนกับคนแรก) ที่ช่วยเหลือชาวคริสเตียน จากการถูกเฆี่ยนตี ทำทารุณกรรม ด้วยการพาหลบหนีออกจากคุกของโรมัน ส่วนเรื่องที่ 3 เป็นเรื่องราวความรักที่เกิดในคุกของ St.Valentine กับลูกสาวผู้คุม กล่าวกันว่าก่อนที่ St.Valentine จะตาย (ไม่ได้ระบุไว้ว่าโดนประหารหรือเป็นอะไรตาย) ได้เขียนจดหมายถึงส่วนน้อยผู้นั้น และลงท้ายด้วยคำว่า From your Valentine ซึ่งสำนวนนี้ยังใช้ต่อๆ มา ถึงทุกวันนี้เมื่อมีการส่งของขวัญหรือการ์ดให้กับคนรัก ส่วนเรื่อง St.Valentine จากหนังสือบริเทนนิก้า เค้าว่านักบุญ.Valentine มีอยู่ 2 คนด้วยกัน แต่เป็นนักบวชต่างระดับกันนะคะ พูดง่ายๆ ว่ายศฐาบรรดาศักดิ์ไม่เท่ากันว่างั้นเถอะ เหตุการณ์เกิดเมื่อทั้งบังคับให้เปลี่ยนศาสนา แต่ทั้ง 2 กลับเลือกที่ยอมพลีชีพ มากกว่าจะยอมเปลี่ยน เรื่องราวจากหนังสือเล่มนี้ จึงเป็นเรื่องราวที่นักบุญวาเลนไทน์ทั้ง 2 แสดงออกถึงความรักต่อศาสนาโดยแท้ นอกจากนี้นะคะ หนังสือเล่มนี้เค้าว่าวันวาเลนไทน์เนี่ยนะ แต่เดิมเค้าใช้เรียกวันที่นกออกหาคู่อะค่ะ แล้วไปๆ มาๆ ก้อกลายมาเป็นวันที่เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้แสดงออกซึ่งความรักต่อกัน
คัดมาจาก http://www.jorjae.com
|