ใบความรู้

· ความหมายของอินเตอร์เน็ต

         อินเตอร์เน็ต คือ เครือข่ายขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อระบบต่างๆจากทั่วทุกมุมโลกเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา องค์กร หน่วยงานทั้งในงานราชการและเอกชน ซึ่งมีข้อมูลต่างๆมากมายที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้

    1. World Wide Web : WWW

เป็นระบบอินเตอร์เน็ตโดยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลเอกสารจากแฟ้มข้อความในรูปข้อความหลายมิติ

WWW มีคุณสมบัติดังนี้

  • User-friendly ที่ทำให้ผู้ใช้สะดวกในการเลือกตัวเลือกต่างๆบนหน้าจอ และเข้าถึงส่วนต่างๆบน

อินเตอร์เน็ตโดยไม่ต้องจดจำคำสั่งที่ยุ่งยาก

  • เอกสารในรูปมัลติมีเดีย โดยแต่ละหน้าเว็บเพจจะประกอบด้วย สารสนเทศในรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะ

เป็น ตัวอักษร ตัวเลข สัญลักษณ์ กราฟิก ภาพ วีดีโอและเสียง

  • มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้ใช้และ Server
    1. เว็บบราวเซอร์ (Web Browser)
    2. Web Browser เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการเลือกดูเอกสารในระบบอินเตอร์เน็ตที่เป็น WWW ซึ่ง Web

      Browser นั้นจะต้องเชื่อมต่อไปยัง เว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือ โฮสต์ เพื่อเรียกข้อมูลที่ต้องการ

      Web Browser เป็นเครื่องมือที่ใช้ในดารสื่อสารบนอินเตอร์เน็ตที่สำคัญข้อดีของ Web Browser

      สามารถดูเอกสารภายในเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างสวยงามมีการแสดงข้อมูลในรูปของ ข้อความ ภาพ และระบบมัลติมีเดียต่างๆทำให้การดูเอกสารบนเว็บมีความน่าสนใจมากขึ้น ส่งผลให้อินเตอร์เน็ตได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นในปัจจุบัน

    3. ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต

ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต ได้แก่

  • ใช้ในการติดต่อสื่อสาร โดยผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่า E-mail (Electronics mail) ซึ่งมีความสะดวกในการติดต่อสื่อสารและประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการติดต่อด้วยวิธีอื่น
  • แหล่งค้นคว้าข้อมูลขนาดใหญ่ เพราะอินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ายนาดใหญ่ หรือเปรียบเสมือนเป็นห้อง

สมุดสาธารณะนั่นเอง

  • แหล่งรวมโปรแกรมที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมต่างๆ มาใช้ได้โดยมีทั้งแบบเสียค่าใช้จ่าย

และแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย

  • การถ่ายโอนข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ หรือจากสถานที่ที่ระยะทางอยู่ห่างไกลกัน
  • ใช้สนทนาพูดคุยโต้ตอบกันโดยผ่านทางแป้นพิมพ์และจอภาพ
  • แหล่งรวมความบันเทิงต่างๆไม่ว่าจะเป็นภาพยนต์ ดนตรี และเกมที่สามารถเล่นโต้ตอบกันผ่านทาง

เครือข่ายได้

  • เป็นเครื่องมือในการติดต่อซื้อขายทางธุรกิจ ซึ่งเป็นที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ก็คือ

E-Commerce

    1. ข้อจำกัดและผลกระทบของอินเตอร์เน็ต

ข้อจำกัดของอินเตอร์เน็ต ได้แก่

  • ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากขึ้น เพราะต้องเสียค่าไฟฟ้าและค่าโทรศัพท์ในการต่ออินเตอร์เน็ตในแต่

ละครั้ง

  • จะต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์จึงจะใช้อินเตอร์เน็ตได้ ผู้ใช้จึงต้องค่อนข้างเป็นผู้ที่มีกำลังทรัพย์ในการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์

ผลกระทบของอินเตอร์เน็ต ได้แก่

  • อาจทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับสายตาได้ เพราะการจ้องมองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ
  • หากใช้ไปในทางไม่ถูกต้องก็เกิดผลเสียแก่ตัวผู้ใช้เองได้ เช่น เว็บไซด์ที่เป็นไปในทางลามกอนาจาร

และการลักลอบขโมยข้อมูล เป็นต้น

· ลักษณะการทำงานของอินเตอร์เน็ต

มาตรฐานที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ ก็คือ โปรโตคอล ซึ่งโปรโตคอลที่เรานิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน คือ โปรโตคอลที่ชื่อว่า TCP/IP

TCP/IP คือ ภาษากลางบนอินเตอร์เน็ต ทำให้เครื่องสามารถเข้าใจกันได้ สิ่งที่ช่วยให้รู้ที่อยู่ของคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องก็คือ ไอพีแอดเดรส ( IP Address ) เป็นหมายเลขประจำตัวเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง ซึ่งไม่ซ้ำกับเครื่องอื่นในโลก โดยมีจุด (.) เป็นสัญลักษณ์แบ่งตัวเลขเป็นชุด แต่ละชุดจะมีค่าได้ตั้งแต่ 0 ถึง 255

ลักษณะการทำงานของอินเตอร์เน็ตก็คือ จะต้องทราบที่อยู่ของเครื่องคอมพิวเตอร์เมื่ออยู่บน Internet จึงจะสามารถติดต่อสื่อสารข้อมูลกันได้ถูกต้อง

ตัวอย่าง IP Address เช่น 201.44.202.3

ความหมายของโดเมนเนม ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตนั้นได้จำแนกเป็น 6 ประเภทได้แก่

    1. .com - กลุ่มองศ์การค้า ( Commercial )
    2. .edu - กลุ่มการศึกษา ( Education )
    3. .mit - กลุ่มองศ์การทหาร ( Military )
    4. .net - กลุ่มองศ์การ บริการเครือข่าย ( Network Services )
    5. .org - กลุ่มองศ์กรอื่นๆ ( Oganization )
    6. .int - หน่วยงานที่ตั้งขึ้นโดยสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างประเทศ ( International )

ความหมายของโดเมนย่อยในไทย

    1. .ac สถาบันการศึกษา ( Acadenic )
    2. .co องศ์กรธุรกิจ ( Commercial )
    3. .or องศ์กรอื่น ๆ ( Organization )
    4. .net ผู้วางระบบเน็ตเวิร์ก ( Networking )
    5. .go หน่วยงานของรัฐบาล ( Government )

ตัวอย่างเช่น

- www.ipst.ac.th เป็นเว็บไซด์ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นเว็บไซด์ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการศึกษา จึงใช้โดเมนย่อยเป็น .ac และ .th หมายถึง Thailand

- www.nmt.ac.th

nmt.ac.th

ย่อมาจาก Thailand (ชื่อประเทศ)

ย่อมาจาก Academic (การใช้งานด้านวิชาการ)

ย่อมาจาก Nawaminthara Chuthit Thaksin (ชื่อหน่วยงานเจ้าของ)

 

 

· คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ต

Web Site เป็นเครื่องที่ใช้ในการจัดเว็บเพจแต่ละองค์กรที่จะนำเสนอข้อมูลของตนในรูปของเว็บ มักจะเว็บไซต์เป็นของตนเอง และมักใช้ชื่อองค์กรเป็นชื่อเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถจดจำได้ง่ายHome Page เป็นเว็บเพจหน้าแรกสุดของข้อมูลแต่ละเรื่อง ซึ่งก็เปรียบเสมือนหน้าปกของหนังสือนั่นเอง ส่วนของโฮมเพจนี้ จะเป็นส่วนที่บอกให้ทราบว่าข้อมูลนี้เป็นข้อมูลเรื่องใด พร้อมกับมีสารบัญในการเลือกไปยังหัวข้อต่าง ๆ ในเรื่องนั้น ๆ ด้วยWeb Page เอกสารข้อมูลในแต่ละหน้าซึ่งถูกเขียนขึ้นด้วยภาษา HTML ข้อมูลที่แสดงในเว็บเพจแต่ละหน้านี้อาจประกอบด้วย ข้อความ ภาพ และเสียง จึงเป็นข้อมูลแบบสื่อผสม หรือมัลติมีเดีย

Web Browser เว็บเพจแต่ละหน้าเป็นเอกสารข้อมูลที่ถูกเขียนด้วยภาษา HTML ดังนั้น การที่เครื่องของเราจะอ่านและแสดงผลเว็บเพจเหล่านี้ได้ จะต้องมีโปรแกรมพิเศษสำหรับทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะ โปรแกรมเหล่านี้เรียกว่า เว็บเบราเซอร์ (Web Browser) ซึ่งมีอยู่มากมายในปัจจุบัน แต่ที่รู้จักกันดี ได้แก่ Internet Explorer (IE) ของบริษัท Microsoft และ Netscape Navigator ของบริษัท Netscape ซึ่งทั้งสองโปรแกรมนี้มีขีดความสามารถที่ใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก

การสืบค้นในอินเตอร์เน็ต

                การค้นหาข้อมูลอาจไม่ง่ายเสมอไป แต่ก็มีเครื่องมือฟรีที่สามารถนำมาค้นหาข้อมูลได้ตามต้องการ เครื่องมือเหล่านี้รู้จักกันดีในชื่อ “เว็บสืบค้นข้อมูล”หรือ”search engine” อย่างไรก็ตาม search engine เป็นเพียงเครื่องมือค้นหาชนิดหนึ่งเท่านั้น

ทางเลือกในการค้นหา

                ในอินเตอร์เน็ตมีเครื่องมือค้นหาข้อมูลอยู่ 3 ประเภท คือ search engine , search directory และ search agent ข้อแตกต่างของเครื่องมือทั้ง 3 ประเภทคือ วิธีรวบรวมข้อมูลในฐานข้อมูล

Search engine

                Search engine หรือเว็บสืบค้นข้อมูลจะใช้โปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์ และดึงเนื้อหาข้อมูลจากเว็บไซต์จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ search engine จึงเป็นฐานข้อมูลเว็บไซต์จำนวนมากและมีการอัพเดทประจำ

                ในการค้นหาข้อมูลคุณเพียงแต่ระบุคำที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่นักเรียนต้องการค้นหา จากนั้นเครื่องมือนี้จะค้นหาดัชนีและแสดงผลลัพธ์ภายในไม่กี่วินาที โดยจะแสดงชื่อเว็บไซต์ต่างๆให้นักเรียนคลิกเข้าไปดูตามความต้องการ แม้เว็ฐสืบค้นจะทำงานเร็วและมีประสิทธิภาพแต่เนื่องจากดัชนีที่สร้างขึ้นไม่ได้เจาะจงไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเลย ผลลัพธ์ที่แสดงขึ้นมาจึงมีเป็นร้อยเป็นพันเว็บไซต์ ตัวอย่างเว็บสืบค้น เช่น google (www.google.co.th)

Search Directory

                 Search directory หรือเว็บไดเรกทอรี จะใช้บุคลากรคัดเลือกเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต แล้วนำมาจัดเก็บไว้เป็นหมวดหมู่ และหมวดย่อยๆให้คุณค้นหาได้ตามประเภท เว็บไดเรกทอรีจะมีเว็บไซต์ไม่มากเพราะบุคคลากรไม่สามารถจัดเรียงข้อมูลได้รวดเร็วพอ แต่จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ที่มีคุณภาพดีกว่าเว็บสืบค้นข้อมูล

                 การค้นหานักเรียนจะต้องเลือกหัวข้อและหัวข้อย่อยไปเรื่อยๆจนกว่าจะพบเว็บไซต์ที่ตรงตามความต้องการ แต่นักเรียนยังมีทางเลือกอื่นอีกโดยการใส่คำสำคัญ(keyword)ลงไปในช่องค้นหาของเว็บไดเรกทอรี เช่น yahoo (www.yahoo.com) , sanook(www.sanook.com)

Search agent

Search agent ส่วนใหญ่ไม่มีฐานข้อมูลของตนเองแต่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนไปค้นหา

ข้อมูลในฐานข้อมูลอื่นๆโดยสามารถค้นหาได้หลายฐานข้อมูลในคราวเดียว

เมื่อนักเรียนพิมพ์คำสำคัญ(keyword)ลงไปใน Search agent เครื่องมือนี้จะเข้าไปค้นหาข้อมูลใน search engine หลายแห่งพร้อมกัน Search agent เช่น

Surfsearcher (www. surfsearcher.net)

เงื่อนไขการค้นหา

ในการค้นหาข้อมูลนั้นยิ่งนักเรียนระบุเงื่อนไขการค้นหาได้เจาะจงเท่าใด ผลลัพธ์ที่ได้จะยิ่งเที่ยงตรงมากเท่านั้น search engine ทั่วไปจะให้คุณใส่เงื่อนไขการค้นหาในหน้าเว็บเพจหลัก แต่นักเรียนอาจเจอลิงค์ไปยัง ‘Advance search’ (การค้นหาขั้นสูง) หรือเทคนิคอื่นที่ควรศึกษาให้เข้าใจ

Advance search อาจเป็นฟอร์มให้นักเรียนใส่ข้อมูลสิ่งที่ต้องการค้นหาอย่างเจาะจง เช่น คำที่นักเรียนต้องการให้รวมเข้าไปหรือตัดออกจากการค้นหา หรือวันที่สร้างเว็บไซต์นั้น

นอกจากนั้น ยังมีสัญลักษณ์อื่นๆที่สามารถนำไปใช้ร่วมกับเงื่อนไขต่างๆเพื่อให้ได้ผลลัพธืที่เที่ยงตรงและแน่นอนยิ่งขึ้น ดังนี้

       1. เมื่อใส่เครื่องหมาย “+” หน้าคำใด search engine จะทำการค้นหาแต่เว็บไซต์ที่มีแต่คำนี้อยู่เท่านั้น เว็บไซต์ใดที่ไม่มีคำดังกล่าว search engine ก็จะตัดออกจากผลลัพธ์ทันที

       2. ถ้าใส่เครื่องหมาย “-” หน้าคำใด หมายถึง นักเรียนไม่ต้องการเว็บที่มีคำนี้อยู่ ตัวอย่างเช่น ‘King Charles – Spaniel’ เว็บสืบค้นจะทำการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับกษัตริย์ชาร์ลส์ แต่จะตัดเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับสุนัขพันธุ์นี้ออกไป

       3. ถ้าใส่เครื่องหมาย “*” ที่คำใด หมายถึง ให้ค้นหาเว็บไซต์ที่มีคำขึ้นต้นด้วยคำนั้นโดยไม่สนใจว่าจะลงท้ายอย่างไรเช่น คำว่า ‘garden*’ เว็บสืบค้นก็จะแสดงเว็บไซต์ที่มีคำว่า gardening , gardens และ gardeners รวมถึงคำว่า garden ด้วย

        4. ถ้าใส่คำหรือวลีในเครื่องหมายอัญประกาศหรือเครื่องหมายคำพูด (“ ”) search engine จะหาแต่เว็บไซต์ที่มีคำหรือวลีที่ตรงกับคำในเครื่องหมายนี้เท่านั้น เช่น “hanging gardens of babylon” ก็จะพบแต่เว็บที่มีคำทั้งหมดนี้ซึ่งอาจจะมีไม่มากแต่ตรงความต้องการที่สุด


โดย : นาย weerawat wongmek, 111111, วันที่ 17 พฤศจิกายน 2547