บริเวณศาลดังกล่าวเป็นที่ตั้งอนุสรณ์สถานของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์ –เธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ซึ่งในส่วนของอนุสรณ์สถานประกอบด้วยศาลเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่บนเนินเขาทางทิศเหนือของหาด-ทรายรี ตัวศาลหันหน้าออกสู่ทะเล มีพิพิธภัณฑ์ซึ่งแสดงถึงพระราชประวัติของพระองค์รวมทั้งเครื่องใช้ต่างๆ ของสมเด็จในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ที่ได้รวบรวมไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นอกจากนี้ยังมีเรือรบหลวงชุมพร ซึ่งเป็นเรือตอปิโดขนาดใหญ่มีความยาวตลอดลำเรือ 68 เมตร กว้าง 6.55 เมตร เรือลำนี้ปลดประจำการเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522 กองทัพเรือได้มอบหมายให้กับจังหวัดชุมพรแล้วนำขึ้นมาไว้ยังบริเวณอนุสรณ์สถานแห่งนี้

                    สิ้นพระชนม์ที่ชุมพร

         พระองค์ทรงพระประชวรพระโรคไข้หวัดใหญ่ทรงพระประชวรอยู่  3 วัน  ก็สิ้นพระชนม์ในวันที่  19    พฤษภาคมพ.ศ.2466  รวมพระชนมายุได้   44  พรรษา

                 ดวงพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์                                  แม้พลเรือเอก   พระเจ้าบรมวงศ์เธอ  กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  จะทรงสิ้นพระชนม์ไปนับนานแล้ว  แต่ทว่าชาวไทยทุกยุคทุกสมัยตราบจน  พ.ศ. นี้ก็ยังเคารพรักเทิดทูนศรัทธาในพระองค์อย่างมิรู้เสื่อมคลาย   และคงเป็นเพราะมีเรื่องเล่าขานกันต่อมาเป็นร้อยเป็นพันเรื่องเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของดวงพระวิญญาณของพระองค์  แต่คนที่ปะสบพบเจอ ต่างก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่เป็นที่น่านับถือของผู้คน  ต่างก็ยืนยันในความอัศจรรย์ของแต่ละเหตุการณ์  ส่วนมากที่ประสบกับตัวเองของผู้คนทั้งนั้น  มักเป็นเรื่องที่ตั้งจิตอธิษฐานถึงพระองค์  ขอให้พระองค์ช่วยในกรณีต่าง ๆ กันไป   และก็ปรากฏว่าเรื่องนั้นสำเร็จสมปรารถนาทั้ง ๆ ที่ยากจะเป็นไปได้   บางท่านอธิษฐานกับเหรียญของพระองค์ที่มีบูชาไว้  หรือเพียงตั้งจิตอธิษฐานออกพระนามของพระองค์  ต่างก็สำเร็จสมใจเป็นที่เลื่องลือ  เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสมาจนถึงปัจจุบันวันนี้  แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าเสด็จพ่อ ฯ จะทรงมีอภินิหารบันดาลให้สมปรารถนาเฉพาะบุคคลที่ตั้งอยู่ในศีลธรรม   ยึดมั่นในคุณความดี  ประพฤติดีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม  เชื่อกันว่าดวงพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ก็ยังประทับอยู่เป็นมิ่งขวัญเป็นที่เคารพสักการะของคนไทยสืบไป