เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการเรียนรู้
โดย นายรุ่งเรือง อ้อสถิตย์
เนื่องจากในสภาพปัจจุบันสังคมโลกได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การที่จะทำให้ประเทศไทยเราจะก้าวให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ คนในชาติต้องมีมีทุนทางปัญญาและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องมีการปฏิรูปในทุกส่วนของสังคมไทย หลังจากที่ไทยเราได้ใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ซึ่งได้กำหนดให้มีการปฏิรูปการศึกษา โดยมีพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 หมวด 4 กำหนดแนวการจัดการศึกษา ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นการปฏิรูปการเรียนรู้ และหมวดที่ 9 กล่าวถึงเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ซึ่งทุกหมวดในพระราชบัญญัติการศึกษา มุ่งประโยชน์สูงสุดให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน
ในขณะที่โลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลและอิเลคทรอนิกส์ สังคมได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วผู้คนต้องการเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้วิทยาการที่ก้าวหน้าและทันสมัยอยู่เสมอ คอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นในทุกด้าน ทำให้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ตมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการเรียนการสอน โดยบุคคลที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดศึกษาควรมีความตระหนักที่จะส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเรียนการสอนอย่างจริงจัง บุคลากรทุกฝ่ายในองค์กรควรร่วมกันวางแผนกำหนดเป้าหมายการศึกษา เลือกวิธีการที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ปฏิรูปการเรียนรู้ โดยต้องมีการเตรียมความพร้อมในทุกด้านที่เกี่ยวข้อง เช่นเตรียม บุคลากรและผู้สอนและผู้ดูแลระบบ เตรียมผู้เรียน เตรียมอุปกรณ์ในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
ควรเลือกรูปแบบและวิธีการที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ให้เหมาะสมเช่นถ้าผู้เรียนอยู่ในระดับประถมต้น ซึ่งผู้เรียนยังต้องได้รับการดูแลช่วยเหลือจากผู้สอนอย่างใกล้ชิดก็ควรเลือกใช้ สื่อมัลติมีเดียที่ผู้เรียนและผู้สอน สามารถมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันได้ หรือถ้าผู้เรียนมีระดับที่สูงขึ้น ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเองแล้วก็ควรเลือกรูปแบบการเรียนการสอนแบบ E learning ที่ผู้เรียนสามารถศึกษาผ่านระบบเครือข่ายที่ออนไลน์อยู่ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ตรงที่ผู้เรียนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ตรงความต้องการ สะดวกและรวดเร็ว
การลงทุนทางด้านการศึกษา ความสำเร็จขึ้นอยู่กับองค์ความรู้และการจัดการระบบการศึกษา การวางโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันวางแผนว่าจะใช้รูปแบบใดในการดำเนินกิจกรรม โดยจะใช้อย่างเต็มรูปแบบหรือบูรณาการวิธีการต่างๆเข้าด้วยกันนั้น ก็ขึ้นอยู่กับองค์กรที่จะวางแผนและการประเมินผลการพัฒนาระบบและการประยุกต์ใช้งาน โดยคำนึงว่าสิ่งที่ดำเนินการไปนั้นเกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงก็คือ ผู้เรียน นั่นเอง
บรรณานุกรม
รศ.ยืน ภู่วรวรรณ,ผศ.สมชาย นำประเสริฐชัย ไอซีทีเพื่อการศึกษาไทย กรุงเทพฯ, 2546
แนะนำผู้เขียน
ชื่อ นายรุ่งเรือง อ้อสถิตย์
สถานที่ทำงาน โรงเรียนบ้านปางหมิ่น อ.ทองแสนขัน
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1
โทรศัพท์ 055-45338 : 09-1569542
|