สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ต่างๆ ทุกสาขา ซึ่งได้มีการจัดรวบรวมแล้วบันทึกลงในสื่อหรือวัสดุทั้งในรูปสิ่งตีพิมพ์และไม่ตีพิมพ์ สามารถถ่ายทอดและเผยแพร่ให้เป็นประโยชน์ต่อบุคคลและสังคม (สารสนเทศกับการศึกษาค้นคว้า 2546 : 4)
เทคโนโลยีสารสนเทศ จึงหมายถึง การนำเอาเทคโนโลยีมาจัดการในกระบวนการดำเนินงานสารนิเทศหรือสารสนเทศในขั้นตอนต่างๆ ตังแต่การเสาะแสวงหา การวิเคราะห์ การจัดเก็บและการเผยแพร่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความถูกต้อง ความแม่นยำความรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ นำมาใช้ประโยชน์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์
โดยภาพรวมแล้วเทคโนโลยีสารสนเทศนั้น สามารถนำมาใช้ในงานห้องสมุดด้านต่างๆ โดยแยกได้ดงนี้
งานบริหารของห้องสมุด ประกอบด้วย
1. งานบัญชีและงบประมาณ การประยุกต์คอมพิวเตอรใงานด้านี้ เป็นงานที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยใช้ระบบประมวลผลของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ คำนวนและรายงานผลข้อมูล ทำให้ข้อมูลที่ได้มีความถูกต้องและเป็นระบบ
2. การจัดพิมพ์เอกสาร เรื่องเอกสารต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน จดหมายโต้ตอบ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ก็ช่วยทำให้งานพิมพ์มีความรวดเร็ว และสามารถเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำคอมพิวเตอร์ได้สะดวกต่อการเรียกใช้งาน นอกจากนี้ห้องสมุดบางแห่งอาจใช้ในการพิมพ์ตำราหรือผลิตหนังสือขึ้นใช้เอง
3. งานเก็บเอกสาร ก็มีการจัดเก็บในรูปแบบคอมพิวเตอร์ โดยบันทึกในแผ่นดิสเกตส์ การใช้งานจะสะดวกและรวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บเอกสารภายในสำนักงานอีกด้วย
4. งานประชาสัมพันธ์ เมื่ออินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในการเรียนรู้ ห้องสมุดอาจจัดทำโฮมเพจ แนะนำห้องสมุด รวมถึงงานบริการต่างๆของห้องสมุด ซึ่งสามารถค้นทางอินเตอร์เน็ตได้ ก็จะทำให้มีผู้ใช้มากขึ้น เป็นการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ของห้องสมุดอีกวิธีหนึ่ง
งานเทคนิคของห้องสมุด ประกอบด้วย
1. การจัดหาและจัดซื้อวัสดุสารนิเทศ โดยบรรณารักษ์สามารถจัดหาหนังสือและวารสารต่างๆ ได้จากการออนไลน์จากอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะมีรายการหนังสือหรือรูปแบบบรรณานุกรม มีลักษณะปกหนังสือให้เลือกชมและอาจจะมีบรรณนิทัศน์ให้ตัดสินใจเลือกซื้อด้วย ทั้งนี้เพียงแต่บรรณารักษ์นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็สามารถเลือกซื้อได้ ซึ่งการขายหนังสือในลักษณะนี้จะเรียกว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ก็คือการซื้อขายผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ตนั้นเอง ตัวอย่าง www. ร้านขายหนังสือออนไลน์
www.asiabooks.co.th
www.amazon.com
www.chulabook.com
2. งานบัตรรายการ ห้องสมุดสมัยก่อนจะต้องพิมพ์บัตรรายการใส่ตู้ เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยค้น แต่ปัจจุบันบัตรรายการจะอยู่ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ สามารถสืบค้นหาหนังสือที่ต้องการได้ โดยเรียกโปรแกรมค้นหาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ว่า โอแพค (OPAC=Online Public Access Catalog) แต่ก่อนที่จะค้นข้อมูลได้นั้นบรรณารักษ์จะต้องกรอกข้อมูลหนังสือลงในตัวโปรแกรมตามรูปแบบ USMARC (รูปแบบการลงรายการที่เป็นมาตรฐาน) เมื่อมีข้อมูลหนังสือแล้ว ผู้ใช้สามารถสืบค้นได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยเลือกการสืบค้นได้หลายช่องทาง คือ ค้นชื่อผู้แต่,ชื่อหนังสือ,หัวเรื่อง,คำสำคัญ,ISBN เป็นต้น ซึ่งทำให้การค้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อดีของการลงรายการในระบบคอมพิวเตอร์คือ ลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน และสามารถสืบค้นออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ตได้
งานบริการของห้องสมุด ประกอบด้วย
1. งานบริการยืม-คืน มีการนำระบบอัตโนมัติมาใช้ เช่น บาร์โค๊ด ในงานบริการยืม-คืนหนังสือ การทำบัตรสมาชิก การต่ออายุ สามาชิก การทวงหนังสือ การปรับ การจองหนังสือ เป็นต้น ตัวโปรแกรมอัตโนมัติช่วยลดขั้นตอนในการในการทำงาน การเลือกใช้โปรแกรมห้องสมุดนั้นจะแตกต่างกันอยู่กับความเหมาะสมองขนาดห้องสมุด ผู้ใช้ และงบประมาณ เช่น โปรแกรม INNOPAC,HORIZON,VTLS, STAR,DYNIX เป็นต้น
2. บริการสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง โปรแกรมอัตโนมัติที่แต่ละห้องสมุดเลือกใช้ จะมีโมดูลที่จัดการเรื่องงานวารสารทั้งในเรื่องของการลงทะเบียน การทำกฤตภาค การทำดรรชนีวารสาร รวมถึงการค้นรายชื่อวารสารจากหน้าจอ OPAC การทำกฤตภาคนั้นจะเสนอเนื้อหาทั้งหมอหรือเนื้อหาสรุปย่อ โดยผู้ใช้สามารถเปิดอ่านได้จากหน้าจอ
|