 |
ทดสอบ Intel Pentium4 Extreme Edition และ CTX M730V
Intel Pentium4 Extreme Edition ซีพียูรุ่นท็อปสุด เร็วกว่า แรงขึ้นด้วยแคช L3 ซีพียู Pentium4 รุ่นใหม่ที่ยังคงอยู่ในกลุ่มที่ใช้โค้ดเนมว่า Northwood แต่มีการปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมความสามารถลงไปมากขึ้น สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจาก Pentium4 ที่ใช้รหัส C ต่อท้าย ซึ่งหมายถึงซีพียูที่ใช้ความเร็ว FSB 800MHz QDP
อย่างไรก็ตาม ซีพียู Pentium4 รุ่น Extreme Edition นี้ก็ยังคงใช้ความเร็ว FSB ที่ 800MHz QDP เช่นเดิม รวมทั้งยังคงสนับสนุนเทคโนโลยี Hyper Threading เหมือนกับรหัส C
สำหรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปของซีพียูในเวอร์ชันนี้ก็คือ การเพิ่มหน่วยความจำแคชระดับสาม (L3 Cache) ขนาด 2MB ลงไป ส่งผลให้ซีพียูมีหน่วยพักข้อมูลเพื่อนำไปประมวลผลมากขึ้น โดยมีความเร็วในการทำงานเท่ากับความเร็วซีพียู
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาของรุ่น Extreme Edtion นี้ ปัจจุบันมีเพียงความเร็วเดียวคือ 3,200MHz หรือ 3.2GHz
ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ นั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ยังคงใช้ เทคโนโลยีการผลิตขนาด 0.13 ไมครอน มีหน่วยความจำแคชระดับสองขนาด 512KB ชุดคำสั่ง SSE2 และเทคโนโลยี Intel NetBrust สำหรับชิปเซ็ตที่รองรับก็ยังคงเป็นชิปเซ็ตของอินเทลตระกูล i865P และ i875P นอกจากนี้ก็ยังสามารถใช้งานร่วมกับชิปเซ็ตของผู้ผลิตอิสระรายอื่นๆ ได้
ในการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานบนระบบที่ใช้ชิปเซ็ต i875P ที่ได้รับการติดตั้งหน่วยความจำแบบ DDR ความเร็ว 400MHz ขนาด 512MB ทำงานแบบ Dual Channel พร้อมการ์ดแสดงผล Radeon 9700 Pro และฮาร์ดดิสก์ Serial ATA ตระกูล 7200.7 ของ Seagate บนระบบปฏิบัติการ วินโดว์สเอ็กซ์พี
การทดสอบความสามารถในลักษณะที่เป็น Multi-Tasking ด้วยโปรแกรม SYSMark2002 นั้น การเพิ่มหน่วยความจำแคชระดับสามลงไปมากถึง 2MB ทำให้ซีพียูมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยคะแนนรวมที่ออกมานั้นสูงถึง 376 คะแนน เมื่อเทียบกับผลทดสอบของซีพียู Pentium4 รหัส C (ฉบับที่ 7 ปี 46) ที่ความเร็วเดียวกัน ปรากฏว่ามีประสิทธิภาพสูงขึ้น 12.24 เปอร์เซ็นต์
ความเร็วในการแสดงผลของเกมสามมิติ ผลทดสอบในชุดเดิม ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ เนื่องจากเป็นกราฟิกชิปคนละรุ่นกัน อย่างไรก็ตาม แม้การ์ดแสดงผลที่ใช้ทดสอบในครั้งนี้จะเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่า แต่ก็สามารถแสดงผลความเร็วในเกม Quake III Arena ได้ดีกว่า โดยแสดงผลได้ในอัตรา 417.2 เฟรมต่อวินาที ในขณะที่การทดสอบใน CHIP ฉบับที่ 7 ปี 46 ทำได้เพียง 404.0 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าซีพียูมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นมาก ส่วนการทดสอบด้วยโปรแกรม 3Dmark2001 SE ที่ความละเอียด 1,024x768 ระดับสี 32 บิต สามารถทำคะแนนรวมได้ มากถึง 18,003 คะแนน
สำหรับการทดสอบความสามารถในการทำงานร่วมกับหน่วยความจำด้วยโปรแกรม CHIP Bench32 พบว่าหน่วยความจำมีอัตราการโอนถ่ายข้อมูลสูงถึง 4,335.8MB/s หรือ 4.34GB/s ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดในปัจจุบัน เสถียรภาพในการทำงานแม้จะมีความเร็วสูงแต่ก็ไม่พบปัญหาเรื่องความร้อนแต่อย่างใด แม้ชุดระบายความร้อนที่ใช้จะเป็นเพียงชุดมาตรฐานที่มาพร้อมกับพัดลม ความเร็วรอบต่ำเท่านั้น
CTX M730V LCD แนวใหม่ สมบูรณ์ทั้งภาพและการใช้งาน จอภาพชนิด LCD ขนาด 17 นิ้วที่บรรจุความสามารถในการใช้งานมาอย่างครบครัน หลอดภาพที่ใช้เป็นแบบ TN TFT LCD ที่รองรับการแสดงผลได้ถึงโหมด SXGA ด้วยความละเอียดสูงสุด 1,280x1,024 ที่อัตรารีเฟรช 75Hz มีมุมมองกว้างถึง 160 องศาทั้งแนวตั้งและแนวนอน
การออกแบบรวมทั้งขนาดและรูปร่างของจอภาพโดยรวมแล้วค่อนข้างแข็งแรง การปรับมุมก้มของจอภาพยังทำได้ไม่มากนัก หากเป็นการปรับมุมเงยจะสามารถปรับให้แบนราบกับพื้นได้ เนื่องจากเป็นจอภาพที่ออกแบบมา เพื่อใช้ติดกับผนังได้ทันทีโดยไม่ต้องถอดขาตั้งออก
ความคมชัดและความสว่างในการแสดงผลของจอภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก โดยเฉพาะความคมชัดที่วัดได้สูงสุดตรงกึ่งกลางจอ 501:1 ความสว่างสูงสุดที่วัดได้จากจอภาพรุ่นนี้อยู่ที่ 386.5Cd/m2 เมื่อเทียบกับข้อมูลที่ผู้ผลิตอ้างไว้ก็ถือว่าอยู่ในอัตราที่ใกล้เคียงกันมาก
อย่างไรก็ดี จอภาพรุ่นนี้ยังออกแบบได้อย่างลงตัวทีเดียว เพราะนอกจากจะเชื่อมต่อพอร์ต DVI สำหรับการแสดง ผลในรูปแบบดิจิตอลแล้ว จอภาพยังติดตั้งชุดลำโพงที่รองรับระบบ SRS หรือ Surround Sound System ที่ให้มิติของเสียงที่ดีขึ้นไปด้วย รวมทั้งยังอินทิเกรตชุด USB Hub ที่สนับสนุน มาตรฐาน USB 2.0 ให้ใช้งานเพิ่มขึ้นอีก 3 ช่อง อุปกรณ์ที่สนับสนุนความสะดวกในการใช้งานชิ้นสุดท้ายที่ถูกบรรจุลงไปก็คือ กล้องดิจิตอล ที่เป็นได้ทั้งเว็บแคมและกล้องถ่ายภาพนิ่งด้วยความละเอียดสูงสุด 640x480 โดยใช้งานร่วมกับโปรแกรม CyberLink Video Live Mail 4.1 ที่ให้มา
การควบคุมการทำงานของจอภาพจะใช้ระบบเมนู OSD ที่ปรับ แต่งได้จากปุ่มควบคุมทางด้านหน้า ภายในมีฟังก์ชันปรับแต่งที่มีความยืดหยุ่นตัวสูง การใช้พลังงานโดยรวมยังไม่ดีนัก การใช้งานปกติ จอภาพใช้พลังงานเฉลี่ยที่ 39.1 วัตต์ แต่เมื่อปิดจอภาพลงก็ยังคง มีการใช้พลังงานอยู่แม้จะมีอัตราเพียง 1.9 วัตต์ก็ตาม
|
|