ไวรัสคอมพิวเตอร์ |
-
ข่าวการระบาดของหนอนไวรัสคอมพิวเตอร์นาม " W32.Blaster.Worm " กำลังลุกลามและรุนแรงมาก รายงานข่าวจากนครซานฟรานซิสโก แจ้งว่า หนอนไวรัสที่แพร่กระจายทางอินเทอร์เน็ต ชื่อว่า บลัสเตอร์ ได้เข้าจู่โจมเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบวินโดวส์ โดยมุ่งจู่โจมเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ เอ็กซ์พี และวินโดว์ 2000 และได้มีการแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญจะติดตั้งโปรแกรมป้องกันได้ทัน ทั้งนี้เนื่องจากเจ้าหนอนไวรัสสามารถแพร่ขยายโดยการสำเนาตัวเอง และกระจายตัวไปยังระบบเครือข่ายอย่างรวดเร็วผ่านช่องทางการบริการต่างๆ บนเครื่องข่ายเช่น E-mail เป็นต้น และในเมืองไทยขณะนี้
-
หลายองค์กรหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนกำลังโกลาหลปวดเศียรเวียนเกล้ากับการแก้ปัญหาและหาวิธีป้องกันกันอย่างอุตลุต ไม่เพียงแต่เครื่องในองค์กรเท่านั้น ไวรัสบลัสเตอร์ยังระบาดในเครื่องผู้ใช้งานทั่วไปอีกด้วย มาดูกันค่ะว่าเจ้าหนอนไวรัสบลัสเตอร์ เมื่อติดแล้วเครื่องจะแสดงอาการอย่างไร และเมื่อติดแล้วจะกำจัดเจ้าไวรัสตัวร้ายนี้อย่างไร วิธีป้องกันล่ะมีหรือไม่... อาการของเครื่องเมื่อติดไวรัสบลัสเตอร์
- เมื่อผู้ใช้งานมีการต่อเชื่อมกับเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือมีการเชื่อมต่ออยู่กับระบบ LAN หนอนไวรัสตัวนี้จะเริ่มทำงานทันที โดยจะปรากฏหน้าจอแสดงตัวเลขนับถอยหลัง 60 วินาทีและเครื่องจะ Reboot ใหม่ทันทีทุกครั้งที่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย
- การใช้งานผ่านระบบเครือข่ายทำงานช้าลง เช่น อินเทอร์เน็ตทำงานช้ากว่าปกติ หรือ การเข้าใช้งานผ่านเครื่องข่ายในระบบ LAN ทำงานช้ามาก
วิธีการแก้ปัญหา
- ขั้นตอนแรก
1. ให้ผู้ใช้งานกดปุ่ม Ctrl + Shift + Esc จะปรากฏหน้าต่าง Windows Task Manager 2. ในลิสต์จะแสดงรายชื่อโปรแกรมที่กำลังเปิดอยู่ขณะนั้น ให้ผู้ใช้งานเลือก MSBLAST.EXE และคลิกปุ่ม End Task เพื่อปิดการทำงานดังกล่าว 3. ปิดหน้าต่าง Windows Task Manager
- ขั้นตอนที่สอง
การป้องกันจะไม่สามารถจะกระทำ ทั้งนี้เนื่องเจ้าหนอนไวรัสบลัสเตอร์มีการฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำทันทีทุกครั้งที่มีการเปิดเครื่อง จึงต้องทำการยกเลิกการทำงานดังกล่าวก่อน คือ
1. คลิกที่ปุ่ม Start คลิกเลือกเมนู Run 2. พิมพ์คำสั่ง Regedit และกด Enter จะเข้าสู่การแก้ไขระบบ Registy 3. ในช่องด้านซ้ายให้ทำการดับเบิ้ลคลิกไปยังโฟลเดอร์ชื่อ HKEY_LOCAL_MACHINE > Software > Microsoft > Windows > Run 4. ในด้านขวาผู้ใช้งานจะพบข้อความ windows auto update" = MSBLAST.EXE ให้ผู้ใช้งานทำการลบ 5. ปิดหน้าต่าง Registy Editor และทำการ Reboot เครื่องใหม่อีกครั้ง
| | |
|