header

การดำนา

นับจากวันพืชมงคลเป็นต้นไป ชาวนาทุกคนต่างก็ตระหนักดีว่าวันแห่งการทำนาสู้แดด กรำฝนมาถึงแล้ว และจากนั้นชาวนาก็จะเตรียมตัวซ่อมบำรุง เครื่องมือและอุปกรณ์ไถคราดหรือรถไถ แม้แต่สัตว์เลี้ยง อาทิเช่น ควาย ให้สมบูรณ์พร้อมใช้งาน เสร็จแล้วก็เตรียมแปลงที่ดิน ไถแปรตากแดดไว้อย่างน้อย 7-10 วัน ที่สำคัญ ดินแปลงที่ไถแปรนั้นต้องเป็นที่ดินที่ปล่อยน้ำเข้าออกได้สะดวก ต้นกล้าจะได้แข็งแรงและสมบูรณ์ สำหรับแปลงดินไถแปรเพาะต้นกล้านั้น ต้องมีเนื้อที่ประมาณ 20-40 ตรว.ต่อเมล็ดพันธุ์ 60-70 กก.นับจากไถดินตากแดดได้ 10 วันแล้วต้องนำเมล็ดพันธุ์ที่เตรียมไว้ไปแช่น้ำ 2วัน2คืน แล้วก็นำขึ้นมาไว้ในที่ร่มให้หมาดน้ำ 1วันหรือ 1คืน คือในช่วงระยะที่ชาวนานำเมล็ดพันธุ์ข้าวขึ้นน้ำนั้น ชาวนาต้องนำน้ำเข้าแปลงดินที่ไถแปรไว้นั้นให้ดินซับน้ำจนอิ่มตัว จากนั้นก็ไถกลบอีกครั้ง พอไถกลบเสร็จก็คราดให้ละเอียดขึ้นโคลนเนียน เสร็จแล้วปล่อยน้ำออกจากแปลงให้แห้งพอประมาณ นำเมล็ดพันธุ์ที่กำลังแตกหน่อหว่านลงไปให้ทั่วในแปลง รอ6-7 วัน เมล็ดพันธุ์ขึ้นหน่อกล้ายาวประมาณ 1-2 ซม. ปล่อยให้น้ำขังไว้ครึ่งต้นกล้า นำปุ๋ยเคมีไปหว่าน ประมาณ 5-6 กก.ต่อแปลง ในระยะเวลาที่ดูแลรักษาต้นกล้านั้น จะขังน้ำหรือปล่อยน้ำก็ต้องอยู่ในระหว่าง 1 สัปดาห์ จนกว่าจะถึงอายุต้นกล้า นับตั้งแต่วันเพาะหว่านครบ 30 วัน ในช่วงระยะเวลาเพาะต้นกล้าอยู่นั้น นับจากวันที่หว่านเมล็ดพันธุ์ได้ 15-20 วันนั้น ชาวนาต้องเตรียมไถแปรแปลงที่ดินไว้รอปักดำต้นกล้า พลิกพื้นดินตากแดด-แช่น้ำรออายุของต้นกล้าครบ 30 วัน เสร็จแล้วถอนต้นกล้าชะดินโคลนออกรวบเป็นมัดพอประมาณตัดยอดใบเตรียมปักดำ ส่วนแปลงนานั้นก็ต้องไถกลบอีกครั้ง ปล่อยน้ำออกจากแปลงให้เหลือ 2ใน 4ส่วน ของดินในแปลง ทำความสะอาดคันนา ตัดหญ้า คราด นำต้นกล้าลงปักดำ เสร็จแล้ว 48 ชม. ปล่อยน้ำลงในแปลงดำทิ้งไว้ 13-15 วัน หว่านปุ๋ยเคมี ตามจำนวนแปลงนาดำ เสร็จแล้วปิดน้ำ ดูแลรักษาน้ำและต้นข้าวทุก 15-20 วัน จนกว่าต้นข้าวเติบโต เจริญเต็มที่ ในช่วงเดือนกันยายนต้นข้าวจะตั้งท้อง ต้องหว่านปุ๋ยบำรุงต้นข้าวและเมล็ดอีกครั้งหนึ่ง เสร็จแล้วรอต้นข้าวออกรวงได้ประมาณ 20 วันปล่อยน้ำในแปลงนาให้แห้งเลย จนกว่าเมล็ดข้าวสุกเต็มที่ ช่วงเดือนพฤศจิกายน ชาวนาจะพากันเกี่ยวพืชผล ช่วงที่เก็บเกี่ยวตัดรวงจากต้นเป็นฟ่อนผึ่งแดดอย่างน้อย 2 วัน จากนั้นก็มัดเป็นฟ่อนเก็บรวมเป็นกองใหญ่ ในสมัยก่อนชาข้าวจนร่วงออกมาเป็นข้าวเปลือกแต่ปัจจุบันมีรถมารับจ้างนวดไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จ สามารถบรรจุกระสอบจำหน่ายหรือเก็บไว้กินและทำเมล็ดพันธุ์ต่อไป วนาใช้ไม้มาทำเป็นฆ้อนตีมัด



แหล่งอ้างอิง : ไทบ้าน

โดย : เด็กหญิง สกาวรัตน์ ติยะสุทธิพันธุ์, โรงเรียนพนัสพิทยาคาร, วันที่ 22 กันยายน 2546