การบีบ การกลั่น (ส่วนมากกลั่นด้วยไอน้ำ) การดูดซับกลิ่นด้วยไขน้ำมันพวกนี้มีองค์ประกอบทางเคมี เป็นอนุพันธ์ของเทอร์ปีน ( terpene )จำนวนมากชนิด ส่วนใหญ่เป็นอนุพันธ์ที่มีจำนวนคาร์บอน 10 คาร์บอนที่เรียกว่า โมโนเทอร์ปีน ( Monoterpene ) กับอนุพันธ์ที่มีจำนวนคาร์บอน 15 คาร์บอนที่เรียกว่า เซสควิเทอร์ปีน ( Sesquiterpene )

ทั้งชนิดขององค์ประกอบและปริมาณของอนุพันธ์ที่หลากหลายเหล่านี้จะประกอบเข้าเป็นกลิ่น เฉพาะของน้ำมันหอมแต่ละชนิด ซึ่งส่วนมากมักมีกลิ่นหอม จึงเรียกว่า น้ำมันหอม บางตำราเรียก น้ำมันหอมระเหย เนื่องจากน้ำมันเหล่านี้ระเหยได้ง่ายที่มีอุณหภูมิห้อง ต่างจากน้ำมันอีกประเภทหนึ่ง ได้จากส่วนของพืชหรือสัตว์ เช่นกัน เรียก น้ำมันไม่ระเหย ( Fixed Oil ) น้ำมันประเภทหลังนี้ มีองค์ประกอบเคมี เป็นกรด

ไขมันหรืออนุพันธ์ของกรดไขมันซึ่งไม่ระเหย หรือระเหยได้ยาก ที่มีอุณหภูมิห้อง เช่น

น้ำมันระหุ่ง น้ำมะพร้าว น้ำมันมะพร้าวหัวลิง น้ำมันถั่วลิสง น้ำมันงาอย่างไรก็ตามที่เรียกกันว่าน้ำมันหอมหรือน้ำมันหอมระเหยนั้น มีบางชนิดที่ไม่มีกลิ่นหอม บางตำราจึงเรียกเป็น น้ำมันระเหยง่าย เพื่อให้ตรากับภาษาอังกฤษว่า ( Volatile ) หรือ

( Ethereal oil ) และเพื่อให้คล้องจองกับ น้ำมันไม่ระเหย น้ำมันระเหยง่าย ได้จากพรรณไม้ที่ปลูกในประเทศไทย เช่น น้ำมันดอกมะลิ น้ำมันดอกยี่สุ่น น้ำมันโหระพา เป็นต้น

ได้ข้อมูลจาก น้ำกระสายยา คู่มือเภสัชแผนไทย