บาเซนจิ
คลิกเพื่อเพิ่มข้อความ


บาเซนจิมีลักษณะหน้าผากย่น หางขดเป็นวง การเยื้องย่างเหมือนม้า ขนมีสีน้ำตาลแดง สีดำ มีลายสีดำบนขนสีน้ำตาลแดง ปลายเท้า หน้าอก และปลายหางมีสีขาว ลักษณะเด่นอีกอย่างของสุนัขพันธุ์นี้คือ ไม่เห่า และไม่มีกลิ่นตัว อันนี้เป็นลักษณะเด่นของสุนัขพันธุ์บาเซนจิ
บาเซนจิ เป็นสุนัขที่น่าทึ่งมาก มันมักจะวิ่งเหยาะๆ ราวกับม้า ที่มีท่วงท่าสง่างาม ราวม้าพันธุ์ดี ชอบเลียขนรักษาความสะอาดให้ตัวเอง ราวกับแมว และชอบร้องเพลงมากกว่าเห่า ชื่อของมันมาจากภาษาบาตู แปลว่า ดั้งเดิม บางถิ่นก็เรียกชื่ออื่นว่า สุนัขคองโก
บาเซนจิ สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษ ตั้งแต่ครั้งอียิปต์โบราณนู่น เพราะพบรูปปั้นสุนัข หน้าตาคล้ายบาเซนจิ ในสุสานขององค์ฟาโร ชาวตะวันตกพบบาเซนจิที่ประเทศแอฟริการาวๆ 100 ปี-กว่ามานี่เอง โดยมันมักจะถูกเลี้ยงรวมกัน เป็นฝูงเพื่อล่าสัตว์ และเฝ้าบ้าน จากนั้นไม่นานนัก บาเซนจิถูกนำมายังอังกฤษ ซึ่งช่วงแรกๆ ก็สาหัสสากรรจ์พอควร เพราะบาเซนจิไม่มีภูมิคุ้มกัน โรคหัดสุนัข จึงพากันล้มตายเสียมาก บาเซนจิ รุ่นต่อมาถูกผสมพันธุ์ในอังกฤษ ในราวปี ค.ศ. 1937 และเริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลาย
บาเซนจิเป็นสุนัขที่มีนิสัยดื้อ แต่จะเป็นมิตรกับทุกคนในครอบครัว รวมทั้งเด็กๆ และสัตว์ทั่วไป หลายคนอาจคิดว่ามันเป็นหมาประสาทที่เห็นรถเมื่อไหร่เป็นเห่าและไล่เมื่อนั้น ฉะนั้น คุณควรล่ามโซ่มันทุกครั้งที่อยู่นอกบ้าน บาเซนจิมีเสียงเห่าไม่เหมือนสุนัขทั่วไป กล่าวคือเมื่อมันสำราญใจเสียงเห่าของมันจะฟังไพเราะคล้ายเสียงเพลง แต่จะเห่าหอนหรือร้องกรี๊ดเมื่ออารมณ์ไม่ดี และ บาเซนจิเป็นสุนัขที่ร่าเริง ฉลาด และซุกซน บางครั้งอาจจะหลีกเร้นตัวจากคนแปลกหน้าบ้าง แต่โดยรวมแล้ว นับว่ามันเข้ากับคนได้ดี แต่ถ้า มันต้องอาศัยอยู่รวมกับสุนัขอื่น บาเซนจิอาจจะ ก่อปัญหาบ้าง เพราะสัญชาติญาณของการ อยู่รวมกันเป็นฝูง จะทำให้ทะเลาะวิวาท กับสุนัขตัวอื่น เพื่อแย่งชิงความเป็นผู้นำ เจ้าของอาจต้องทนหนวกหูบ้าง แต่ก็ไม่นานหรอก พอรู้ผลแพ้ชนะ ใครจะครองตำแหน่งจ่าฝูง เหตุการณ์ก็สงบ



แหล่งอ้างอิง : Www.google.com

โดย : เด็กหญิง ด.ญ.จริยา เกียรติจานนท์, โรงเรียนพนัสพิทยาคาร, วันที่ 15 กันยายน 2546