หนังใหญ่. มหรสพชั้นสูงอันเก่าแก่ ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า หนังใหญ่เริ่มมีขึ้นมาในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อใด ได้รับแบบแผน หรือวิธีการเสดงมาจากชาติไหน แต่หนังใหญ่ถือเป็นมหรสพที่เก่าแก่และได้รับการยกย่องว่าเป็นมหรสพชั้นสูง เป็นที่รู้จักและนิยมแพร่หลายในสมัยโบราณ การแสดงหนังใหญ่ในแต่ละครั้งถือว่าต้องเป็นงานหลวงหรือไม่ก็ต้องเป็นงานใหญ่ ซึ้งมีความสำคัญมากจริงๆเท่านั้น ตัวหนังใหญ่ แกะจากหนังวัวทั้งผืน ที่มีขนาดสูงสุดประมาณ 2 เมตรลักษณะของตัวหนัง แบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆ 6 แบบ คือ หนังเฝ้า หรือหนังไหว้ เป็นหนังภาพเดี่ยว หน้าเสี้ยว ท่าพนมมือ ถ้าถืออาวุธด้วยก็ให้ปลายอาวุธสอดรักแร่มาทางเบื้องหลัง ขนาดสูงประมาณ 1 เมตร หนังคเนจร หรือหนังเดิน เป็นภาพเดี่ยว หน้าเสี้ยว ท่าเดิน ถ้าเป็นภาพวานรมักแกะเป็นท่าย่อง สูงประมาณ 1.5 เมตร หนังง่า เป็นภาพเดี่ยว หน้าเสี้ยว ท่าเหาะ ยกขาข้างหนึ่งคล้ายท่าละคร สูงประมาณ 1.5 เมตร หนังง่านี้ยังแยกออกเป็นหนังโฏ่ง และหนังแผลง ซึ้งหมายถึงทำท่าแผลงศร ส่วนหนังง่าก็คือเงื้อง่าอาวุธนั้น หนังเมือง เป็นหนังที่อาจมีภาพเดี่ยวหรือหลายตัวรวมกันก็ได้ มีภาพปราสาทราชวัง หรืออาคารใดๆประกอบ ซึ้งในตัวเรื่องจะนั่งหรืออยู่ในท่าอิริยาบถอื่นๆเช่น ภาพทศกัณฐ์นั่งเมือง อินทรชิตถูกศรกำลังดื่มกษิรธารานางมณโฑ ขนาดสูงประมาณ2เมตร หนังเมืองอาจแยกเป็นพลับพลา หนังปราสาทพูด หนังปราสาทโลม ได้อีก หนังจับ เป็นที่มีภาพตัวละครในเรื่องตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปอยู่ในตัวหนังตัวเดียวกัน และภาพนั้นจะต้องอยู่ในท่าที่รบกันหรือจับกัน ลักษณะพลิกแพลงต่างๆเช่น หนุมานรบกับไมยราพณ์ หรือลิงขาว ลิงดำรบกัน เป็นต้น หนังเบ็ดเตล็ด หมายถึงหนังที่มีภาพในตัวเรื่องเป็นท่าพิเศษ ซึ่งจะเข้าชุดกับตัวหนังตัวใดที่กล่าวมาแล้วไม่ได้ เช่น ภาพลิงขาวมัดลิงดำอกแอ่นมา ซึ้งไม่อยู่ในชุดหนังจับเพราะเป็นท่าเดิน แต่มีลิงสองตัว จึงเรียกหนังอันนี้ว่า เตียวหมายถึง มัด ส่วนจำพวกหนังจำอวด คือ หนังฉากหนี ฉากไล่ ลากชาย หนังรถ แผ่นหนังที่แกะเป็นรูปร่างต่างๆต้องมีการระบายสีให้ถูกต้องตามลักษณะถ้าเป็นหนังกลางคืนไม่ค่อยมีสีสันมากนัก เพราะแสงไฟขับสีให้เห็นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สีที่ใช้หากเป็นสมัยก่อนจะเป็นสีจากธรรมชาติ เช่น สีเขียว ใช้จุนสีกับนำมะนาว, สีแดง ใช้นำฝางผสมกับสารส้ม, สีเหลืง ทาด้วยนำฝางแล้วใช้มะนาว แต่ถ้าเป็นหลังกลางวัน หรือตัวหนังที่ใช้เล่นเวลากลางวัน การระบายสีจะทำอย่างวิจิตร ประณีตมีการสอดสีสลับกัน สีที่ใช้เป็นสีรังค์ สีคราม หรือปิดทอง ตัวหนังแต่ละตัวจะมีไม้ 2 อัน คาบเอาให้ห่างกันพอสมควร ปลายไม้เสมอกับตัว ดคนไม้ยาวเลยลงมาประมาณ 50 เซนติเมตร สำหรับให้คนเชิดจับหากเป็นเล็กๆ เช่น ลูกศร ดอกไม้ ก็ใช้ไม้คาบอันเดียว นอกจากตัวหนังแล้ว การแสดงหนังใหญ่ยังมีองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้สถานที่แสดง ต้องเป็นลานกว้าง สามารถตั้งจอยาวประมาณ16เมตรสูง6เมตรได้ ความยาวของแบ่งออกเป็น3ส่วน เฉพราะส่วนกลางยาวประมาณ8เมตรใช้ผ้าโปร่งขึงทำเป็นจอ ด้านบนของจอมีผ้าระบายเป็นลาย ปิดด้วยกระดาษทอง หรือปักไหมอย่างจีน ผูกลูกรุ่ยห้อยยาวตลอดจอ ด้าน หลังจอใช้ลำแพน หรือเสื่อใบสาคูกั้นเป็นวงออกไปจากเสาต้นริมสุดมาบรรจบกับเสาริมอีกข้างหนึ่งเป็นรูปครึ่งวงกลม ทางด้านหลังตอนกลางปักเสาโน้มเอนมารั้งกับจอ 2 ต้น ขึงผ้าหรือลำแพนสูงขึ้นสําหรับช่วยสาดแสงไฟ เรียกว่า บังเพลิง ภายในวงล้อมหลังจอนี้จะเป็นที่พักของผู้แสดงและเก็บตัวหนัง ตรงกลางจะปลูกร้านเพลิง ซึ่งเป็นร้าน ๒ ร้านสุง ๑ เมตร ตั้งห่างกันพอสมควร ปูด้วยแผ่นสังกะสี สำหรับจุดไฟให้ลุกเป็นแสงสว่าง ปัจุบันเลิกใช้วิธีนี้แล้ว เพราะใช้แสงสว่างจากตะเกียงหรือไฟฟ้าส่องแทนได้ ตัวหนัง เมื่อต้องการแสดงเรื่องใด ตอนใด จำเป็นต้องมีตัหนังในชุดที่คบถ้วน การเล่นหนังเป็นภาพนิ่ง โดยแสดงไม่แปลี่ยนแปลงท่าได้เป็นต้นว่า หนังจับ หรือหนังแมือง ต้องมีภาพให้สมกับเนื้อเรื่อง ทั้งนี้ภาพหนังแต่ละภาพจะนำไปเล่นแทนในตอนอื่นไม่ได้คนจัดหนังเรียกว่าคนทอดหนัง จึงมีความสำคัญมาก เครื่องดนตรี สำหรับหนังใหญ่ ได้แก่ วงปี่พาทย์ เครื่องห้า เครื่องคู่หรือเครื่องใหญ่ ขึ้นอยู่กับเจ้าภาพงานแต่เครื่องดนตรีที่ขาดไม่ได้ คือ ปี่กลาง กลองติ๋ง 2 ลูกและโกร่ง คนเชิดหนัง อย่างน้อย 10 คน มือทั้งสองที่จับไม้คาบใช้ท่าทางและเอนเอียง หรือสันไวเท่านั้น ส่วนสำคัญต้องมีตัวและแขน ซึ่งทำท่าทางตามจังหวะแพลงและชีวิตของตัวหนัง การแสดงความรู้สึกฃองตัวหนังจึงต้องอาศัยคนชิดเท่านั้น
|