สุนัข

บทสรุปการพิจารณาเลือกสุนัข

การพิจารณาเลือกสุนัขเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะ เปรียบเสมือนการเลือกคู่ชีวิตก็ไม่ปาน เนื่องจากเวลาที่เรานำมาเลี้ยงแล้วนั้น จะต้องอยู่กับเราไปอีกนานนับ 10 ปี เลย ซึ่งทำให้เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ไม่ใช่นำมาเลี้ยงแบบทิ้งๆขว้างๆนะครับ 
เราจะมีข้อคิดให้พิจารณาก่อนซื้อ และ สามารถดูได้ที่พันธุ์ไหน มีลักษณะตรงกับที่เป็นตัวเราให้มากที่สุด และ สามารถดู

การเลือกพันธุ์สุนัข
     สุนัขพันธุ์แท้นิยมเลี้ยงเพื่อเอาไว้ประกวดแข่งขัน หรือ เป็นเพื่อน แก้เหงาก็ได้ แต่ในแต่ละสายพันธุ์จะมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สุนัขพันธุ์แท้จะมีความสามารถพิเศษ และ นิสัยเฉพาะพันธุ์ เช่น เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน สุนัขช่วยชีวิต สุนัขล่าสัตว์ สุนัขจูงคนตาบอด เป็นต้น ถ้าเลือกได้พันธุ์ที่เหมาะสม กับความสามารถพิเศษที่ต้องการฝึก  สุนัขลากเลื่อน สุนัขตรวจดมยาเสพย์ติด สุนัขก็จะเชื่อฟังคำสั่ง และ แสดงความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของมันออกมาได้

ได้ที่ตารางสรุปอีกครั้งหนึ่ง

ดังนั้นผู้เลี้ยงสุนัขจึงควรเลือกสุนัขที่มีคุณลักษณะตามที่ตนต้องการ ซึ่งสุนัขพันธุ์แท้ จะมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว เหล่านี้เหนือกว่าสุนัขพันธุ์ลูกผสม แต่สุนัขพันธุ์แท้ก็ จะมีราคาแพงกว่าสุนัขพันธุ์ลูกผสม แต่ถ้าหากเราต้องการเลี้ยงโดยไม่คำนึงถึงสายพันธุ์ ก็ให้พิจารณาอุปนิสัยสุนัขไว้ด้วยเช่นกัน เช่น สุนัขที่น่ารักซื่อสัตย์ ไม่ดุ และ เป็นเพื่อนที่ดี แล้วสุนัขพันธุ์แท้ หรือ สุนัขพันธุ์ลูกผสมก็ไม่แตกต่างกันนัก และ หลังจากเลือกสุนัขได้ตามต้องการ แล้วควรขอพันธุ์ประวัติ และ สอบถามข้อมูลต่าง ๆ  เกี่ยวกับ ตัวสุนัขจากผู้ขายด้วย เช่น การฉีดวัคซีน การถ่ายพยาธิ อาหารที่เคยให้กินน้อย หรือ กินมาก บ่อยครั้งแค่ไหน เป็นต้น

แหล่งที่มาของสุนัข
     
แหล่งที่มาของสุนัขนั้นอาจจะมา จากการให้ของคนรู้จัก หรือ เพื่อน หรือ อาจต้องซื้อหามาก็ได้ ซึ่งสุนัขที่ได้มา จากการให้นั้น มักจะได้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับ สุนัขที่ค่อนข้างตรงความเป็นจริง แต่ในบางครั้งคนที่ได้รับของมาฟรีๆ นั้นบางครั้งไม่ มีความตั้งใจเพียงพอที่จะเลี้ยงเท่ากับการซื้อหาจ่ายเงินมา แต่ก็ไม่เสมอไป และ สุนัขที่ซื้อมา นั้นบางครั้ง ข้อมูลที่ได้จาก ผู้ขายอาจไม่ตรง กับความเป็นจริง เพราะ ผู้ขายย่อมต้องการ ขายสินค้าของตนเอง จึงให้ข้อมูลผิดซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลเสียขึ้นได้ ดังนั้น สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติอย่างยิ่ง คือ การติดต่อซื้อขายสุนัขทางจดหมาย หรือ กับสถานที่เพาะเลี้ยงที่ท่านไม่รู้จัก เพราะ ท่านอาจได้อะไรที่ผิดพลาดไม่ตรงกับที่ท่านต้องการก็ได้   ดังนั้น ในการเลือกซื้อสุนัข นั้นควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ้และ ผู้ซื้อควรจะตัดสินใจด้วยตนเอง มากกว่าโดยให้ทำการศึกษาจากข้อมูลที่เป็นกลางก่อน จะเชื่อคำโฆษณาของผู้ขาย ข้อมูลที่ได้จากผู้ขายนั้น นำมาเป็นข้อพิจารณาขั้นต้นเท่านั้น ผู้ซื้อควรจะดูลักษณะภายนอก ของสุนัขโดยละเอียด

การพิจารณาสุขภาพของสุนัข
        การเลือกสุนัขต้องพิจารณาถึงสุขภาพของสุนัขด้วย เพราะ เป็นการแสดง อาการโดยทั่วไปที่เขาเป็นอยู่ในเวลานั้นๆ ว่าเป็นอย่างไรสบายดี หรือ ไม่ ดังนี้ สุนัขที่มีสุขภาพดี ีและ แข็งแรงนั้นจะมีท่าทางร่าเริง ซุกซน ชอบวิ่งเล่นกับตัวอื่น ไม่ตกใจง่าย อารมณ์ดี สนใจต่อสิ่งแวดล้อม  ดวงตาแจ่มใส่ ไม่มีขี้ตา จมูกชื้นและเย็น (ถ้าแห้งแสดงว่าไม่สบาย) ไม่มีน้ำมูก เหงือกสีชมพูสดใส (ถ้าซีดแสดงว่าโลหิตจาง แต่ถ้าแดงเข้มแสดงว่าเหงือกอักเสบ) หูสะอาด แห้ง ไม่มีกลิ่น ขนสวยเป็นเงามัน มีเนื้อที่แน่น  ีและ กระดูกไม่ปูดโปน กระดูกแข็งแรง (เพราะอาจเป็นโรคกระดูกอ่อน) ขาควรตรงไม่งอเข้า หรือ โค้งออกท่าทางการเดินหรือวิ่งเป็นปกติ ขาไม่ลาก (เพราะอาจเป็นโรคนี้ยิ่งโตขึ้นยิ่งเป็นมาก) ไม่เก ไม่เดินเอียงไปมา จึงควรจับสุนัขให้ลองเดินให้ดู ไม่ควรมีบาดแผล ไม่เกายุกยิก ไม่จามหรือไอบ่อย ไม่ขี้อายหรือกลัวคน สุนัขตัวเมียจะต้องมีหัวนมเจริญดี 4 คู่ ขนานกัน หัวนมไม่บอด ส่วนสุนัขตัวผู้จะต้องมีอัณฑะ 2 ลูก อยู่ในถุงหุ้มอัณฑะ ไม่เป็นทองแดงนั่นเอง


คลิกสองครั้งเพื่อเพิ่มภาพตัดปะ

วัยของสุนัข
       สุนัขที่ซื้อขายกันนั้นมีช่วงอายุต่าง ๆ กัน ถ้าเป็นสุนัขพันธุ์ เล็กอาจขายตั้งแต่อดนมแม่ คือ อายุประมาณเดือนเศษ ๆ แต่ถ้าเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่มักขายหลังจากตีเบอร์หูแล้ว คือ อายุประมาณ 54 วัน หรือ ประมาณ 2 เดือน นั่นเอง

        การจะเลือกซื้อสุนัขช่วงอายุเท่าไรดีนั้นขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยง หากผู้เลี้ยงมีเวลาและความพร้อมควรเลือกซื้อลูกสุนัข เพื่อที่จะได้ฝึกสอนลูกสุนัขได้ตามใจ และได้ดูการพัฒนาการต่าง ๆ ของสุนัขจากวัยเด็กจนมาเป็นเพื่อนเล่นที่ดีของเรา ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน ความภูมิใจ และ ความผูกพัน ถึงแม้จะต้องใช้ความอดทนอย่างสูง ต้องใช้ความพยายาม และ เวลาเป็นอย่างมาก และ บางครั้งอาจจะทำให้เกิดความกังวล ห่วงใยกันบ้าง แต่ก็คุ้มค่ากับเวลา และ แรงงานที่เสียไปโดยเราจะได้สุนัขที่ถูกใจ และ เป็นสุนัขของเราร้อยเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

        ช่วงเวลาที่ดี ีและ เหมาะสมที่สุด ในการเลือกซื้อสุนัข คือ ช่วงที่ลูกสุนัขอายุได้ประมาณ 8-10 สัปดาห์ เพราะ  ในช่วงนี้ลูกสุนัขจะเรียนรู้วิธีการกินอาหารแข็งจากชามได้แล้ว ทำให้ไม่เป็นภาระแก่เจ้าของใหม่ แต่ถ้าลูกสุนัขอายุเกิน 10 สัปดาห์ไปแล้ว และ ถูกขังอยู่ในกรงตลอดเวลา อาจจะมีปัญหาในเรื่องการปรับตัวให้คุ้นเคยกับเจ้าของใหม่ ่และ บ้านใหม่ได้ยากขึ้น เพราะ มันจะคุ้นอยู่กับในกรง และ แม่ของมันมากกว่าจะคุ้นเคยกับคน

        แต่ถ้าหากไม่มีเวลา และ ความพร้อม ควรเลือกซื้อสุนัขที่โตแล้ว อายุราว 8-12 เดือน ซึ่งมีพัฒนาการทางร่างกายที่สมบูรณ์ การเลือกสุนัขโตนั้น ถ้าต้องการจะฝึกสอน หรือ เปลี่ยนพฤติกรรมของมัน อาจจะทำได้ยากกว่า การฝึกสอน หรือ เปลี่ยนพฤติกรรมของมันในตอนเด็ก และ จะทำได้ยากกว่าการฝึกลูกสุนัข การฝึกลูกสุนัขโตต้องอาศัยความอดทน และ ใจเย็น ไม่ควรผลีผลาม เพราะ การจะไปเปลี่ยนพฤติกรรมของสุนัขทันทีทันใด อาจจะทำให้สุนัขเกิดอาการก้าวร้าวอย่างชนิดคาดไม่ถึง หรือ อาจจะกัดเอาได้

เพศของสุนัข
        การเลือกเลี้ยงสุนัขเพศผู้ ู้หรือ เพศเมียนั้น ก่อนการตัดสินใจ ควรสังเกตสุนัขที่อยู่ในละแวกบ้านว่าเป็นสุนัขเพศผู้ ู้หรือ เพศเมีย มากกว่ากัน ถ้ามีสุนัขเพศผู้มากกว่าก็ควรเลือกสุนัขเพศผู้ ู้แต่ถ้ามีสุนัขเพศเมียมากกว่า ก็ควรเลือกสุนัขเพศเมีย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับสุนัขที่เราเลี้ยง

        สุนัขเพศเมียจะเป็นสัดปีละ 2 ครั้ง และ ช่วงนี้สุนัขเพศเมียอยากจะผสมพันธุ์ จึงชอบออกเที่ยว ไม่ค่อยยอมเชื่อฟัง และ มีกลิ่นเพศเมียกระจายออกไปดึงดูดสุนัขเพศผู้ให้มาหา ผู้เลี้ยงจึงต้องคอยควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดการผสมกับสุนัขที่เราไม่ต้องการ แต่ก็มีทางแก้ไขได้โดยให้สุนัขเพศเมียกินยาเม็ดจำพวกดับกลิ่นเพศในช่วงที่เป็นสัด เพื่อดับกลิ่นเพศเมียไม่ให้กระจายออกไป หรือ ทำการตอน หรือ ทำหมันสุนัขเพศเมียนั้น ถ้าไม่ต้องการลูกสุนัขอีก

        ส่วนสุนัขเพศผู้ที่แข็งแรงจะไม่สามารถหักห้ามใจในกลิ่นของสุนัขเพศเมียได้ มันจะหงุดหงิด และ หาทางออกเพื่อไปหาสุนัขเพศเมียจนได้ ถ้าไม่มีการกักขัง สุนัขเพศผู้ก็อาจจะหายไปครั้งละหลาย ๆ วัน เพื่อที่จะไปเฝ้าวนเวียน อยู่บริเวณบ้านของสุนัขเพศเมียที่เป็นสัดนั้น และ ไม่ยอมกลับมากินข้าว เมื่อกลับมาจะโทรมมาก และ ยังมีอีกที่สุนัขเพศผู้มักชอบทำเครื่องหมายบ่งบอกอาณาเขตของตน ให้สุนัขตัวอื่นรู้ โดยการไปฉี่รดตามจุดต่าง ๆ  ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นไปทั่ว และ เมื่อพาสุนัขเพศผู้ออกเดินเล่น สุนัขเพศผู้จะดมกลิ่นไปเรื่อย ๆ (ตัวเมียก็ดมเหมือนกัน แต่จะไม่ฉี่ไปทั่วเหมือน) และ ตัวผู้ จะทำเครื่องหมายไปตลอดทาง จึงต้องใช้เวลานิดหน่อยผู้เลี้ยงจึงต้องอดทน เพราะฉะนั้น การเลี้ยงจึงขึ้นกับความต้องการของผู้เลี้ยง คือ เลี้ยงไว้เพื่อเพาะพันธุ์ก็ต้องเลือกตัวเมีย และ ถ้าต้องการเลี้ยงไว้เป็นพ่อพันธุ์ก็ต้องเลือกตัวผู้

        ดังนั้น ไม่ว่าจะเลือกเลี้ยงสุนัขเพศผู้ หรือ เพศเมีย ก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล และ วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ แต่ที่ขาดไม่ได้ คือ ความรัก ความอดทน และ ความเข้าใจในธรรมชาติของสุนัขที่เราเลี้ยง

ขนาดพื้นที่เลี้ยงของเรา
        การจะเลี้ยงสุนัขข้อที่ควรคำนึงถึงอีกข้อหนึ่ง ก็คือ พื้นที่ที่จะเลี้ยง เพราะ เป็นการจำกัดพื้นที่ของเขามากเกินไป หรือไม่ เช่นเราอยู่ตึกแถวเราก็ควรจะดูว่าเราสามารถเลือก พันธุ์อะไรได้บ้าง ซึ่งก็จะต้องมีขนาดเล็ก เพราะ ไม่มีพื้นที่ให้วิ่งเล่น ตัวที่ใหญ่ อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกในตอนหลังได้ ถ้าเราพาเขาออกกำลังกายไม่พอ หรือ แม้กระทั่งไปกัดเอาชาวบ้านเข้าจะลำบาก เอาในตอนหลังได้ ดังนั้น ควรเลือกให้ดีเพราะ เราต้องเลี้ยงเขาไปอีกนาน ให้เลือกเอาตามที่เหมาะสม

อุปนิสัยผู้เลี้ยง
        เป็นคนใจร้อนใจเย็น หรือ เมตตาสัตว์ขนาดไหน ขี้เหงา ชอบเอาใจคนอื่น หรือ ชอบเอาใจเรา ขี้รำคาญไหม ฯลฯ เพราะ สุนัขแต่ละพันธุ์ ก็ จะมีนิสัยไม่เหมือนกัน ควรเลือกที่เข้ากับเราได้ เป็นดีที่สุด

สิ่งแวดล้อม
         สภาพอากาศเป็นอย่างไรร้อน หรือ หนาว หรือ ใกล้ น้ำ ใกล้ทะเล เพื่อนบ้าน เป็นอย่างไร ฯลฯ และ พิจารณาที่เหมาะสม แล้วไม่เป็นปัญหากับเราได้ ในภายหลัง


โดย : เด็กชาย นคร ทรัพย์วิริยา, บ้าน, วันที่ 9 กันยายน 2546