โขน ระบำ รำเต้น เล่นอาวุธสู้รบ สุจิตต์ วงษ์เทศ ได้ตั้งการสังเกตถึงการละเล่นโขนไว้ใน ศิลปวัฒธรรม ฉบับพิเศษร้องรำทำเพลง ดนตรีนาฎศิลป์ชาวสยาม ไว้ว่า โขน ไม่น่าจะมีต้นกำเนิดมาจากการละเล่นอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว(อย่างที่เคยอธิบายกันสือมาว่า โขนมีกำเนิดมาจากชักนาคดึกดำบรรพ์หรือโขนมีกำเนิดมาจากหนัง เป็นต้น )แต่โขนควรเป็นการละเล่นซึ่งก่อรูปขึ้นมาจากประเพณีหลายๆอย่างที่มีอยู่ก่อนแล้วคือ หนัง ระบำ รำเต้น ชักนาค ดึกดำบรรพ์ ให้รวมเข้าด้วยกันแล้วกลายเป็นสิ่งใหม่เรียกชื่อว่า โขน พร้อมทั้งกล่าวอ้างถึง การระบำรำเต้นที่เรียกกันว่า สรรพยุทธ-สรรพคิลาอันเป็นการละเล่นที่เรียนรู้แบบการออกท่าทางมาจากการสู่รบ ชักนาคดึกดำบรรพ์ การละเล่นเรื่องกวนเกษียรสมุทรหรือกวนน้ำอมฤตของราชสำนักเขมร ซึ่งได้แพร่หลายมายังสยาม หนัง ละคร และอีกหลายๆการละเล่นเพื่อชี้ให้เห็นถึงรูปแบบและลักษณะการละเล่นแต่ละประเภท ที่ได้ผสมผสานกลมกลื่นอยู่ในการแสดงโขน ซึ่งหากเราเชื่อตามข้อสันนิษฐานดังกล่าวแล้ว จะพบว่าโขนก็คือรูปแบบของการพัฒนาขั้นสูง ที่รวมเอาการแสดงครบกระบวนทั้งระบำ รำ และเต้นเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งผู้แสดงเองก็จำต้องเรียนรู้ทักษะการแสดงศิลปะหลากหลายแขนง ผสานเป็นท่วง่ทาอันอลังการ ซึ่งทำให้การแสดงโขนถูกยกย่องว่าเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของมหรสพไทยเสมอมา การแสดงโขนยังถูกสังวนไว้เฉพาะงานพระราชพิธี หรือเนื่องในโอกาสเหตุสำคัญของบ้านเมือง นอกจากนั้นเรื่องที่ใช้เล่นก็จะต้องเป็นเรื่องรามเกียรติ์เท่านั้น อันแสดงให้เห็นถึงการวางตำแหน่งของมหรสพประเภทนี้ไว้ในระดับยอดของสังคมไทย นับตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน การแสดงโขนนั้น ผู้แสดงต้องสวมหัวโขน ยกเว้นเพียงตัวตลกเท่านั้น มีผู้พากย์ ผู้ร้อง และผู้เจรจาแทนผู้แสดง ส่วนดนตรีที่บรรเลงประกอบคือ วงปี่พาทย์ ซึ่งขนานของวงจะขึ่นอยู่กับความเหมาะสมของสถานที่และโอกาส การแสดงโขนจากอดีตจนถึงปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท คือ โขนกลางแปลง เป็นการแสดงบนพื้นดินกลางสนาม ไม่จำเป็นต้องมีโรง เดิมคงมีการแสดงในส่วนของการยกทัพและรบกัน มีบทพาทย์และบทเจรจาพร้อมปี่พาทย์บรรเลงหน้าพาทย์ โขนโรงนอก หรือโขนในราว จัดแสดงบนโรง ไม่มีเตียงหรือตั้งสำรับนั่ง มีแต่ราวตามขนานส่วนยาวของโรง สำหรับผู้นั่งหลังจากจบการแสดงบทบาทของตนแล้ว ไม่มีการขับร้อง มีแต่บทพาทย์กับบทเจรจา ปี่พาทย์บรรเลงแต่เพลงหน้าพาทย์ โขนหน้าจอ คือโขนเล่นหน้าจอซึ่งใช่สำหรับเล่นหนังใหญ่ ในยุคแรกจะมีการเล่นโขนหน้าจอสลับกันไปกับการเล่นหนังใหญ่ แม้ต่อมามีการสร้างโขนยกพื้นขึ่งมาเพื่อการแสดงโขนโดยเฉพาะแล้วก็ตาม การสร้างฉากหลังให้เหลือเค้าของจอหนังก็ยังคงเ)นประเพณีสืบมา โขนโรงใน เป็นการนำโขนมาผสมกับละคร การแสดงมีทั้งออกท่ารำ เต้น และมีบทพากย์เจรจาตามแบบโขน นำเพลงขับร้องและเพลงประกอบกิริยาของดนตรีแบบละครใน โขนฉาก เป็นที่ใช้ฉากประกอบเรื่องตอนต่างๆคล้ายละครดึกดำบรรพ์แต่วิธีแสดงเป็นแบบโขนร้องใน มีขับร้อง กระบวน่ทารำ มี่ทาเต้น มีหน้าพาทย์ตามบทละครใน และโขนในโรง
|