การซื้อพีซีมักเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเสมอเนื่องจากมันเป็นเครื่องจักรอเนกประสงค์ที่สามารถทำงานต่าง ๆ ให้คุณได้มากมาย นอกจากนั้นการซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์สักเครื่อง ยังเป็นการลงทุนเพื่อการใช้งานราวสามหรือสี่ปีเป็นอย่างน้อย
ถ้าหากคุณคอยติดตามความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมพีซีอยู่ตลอดเวลา คุณจะพบว่านวตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้พีซีชั้นยอดของคุณกลายเป็นของเก่าภายในเวลาเพียงไม่ถึงปี ดังนั้นคุณไม่ควรขี้เหนียวเกินไปกับการซื้อพีซีเครื่องใหม่
รวมทั้งไม่ควรตั้งความหวังเอาไว้ว่า "ฉันจะอัพเกรดในภายหลัง" เว้นเสียแต่ว่าคุณมีความมั่นใจอย่างเปี่ยมล้นว่าจะอัพเกรดจริง ๆ
1. คุณเตรียมที่จะใช้แอพพลิเคชั่นชนิดใด?
คุณควรเขียนรายการของงานต่าง ๆ ที่คุณเตรียมจะทำให้พีซีเครื่องใหม่นี้ จากนั้นก็ซื้อนิตยสารที่เกี่ยวข้องกับพีซี เพื่อเปิดดูว่าแอพพลิเคชั่นที่คุณต้องการใช้งานมีราคาเท่าไหร่
วิธีการนี้จะช่วยให้คุณทราบถึงค่าใช้จ่ายที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อพีซีเป็นครั้งแรกมักมองข้ามไป พีซีส่วนมากมักจะแถมโปรแกรมชุด Office มาให้แล้ว (ซึ่งประกอบด้วย เวิร์ดโพรเซสเซอร์ สเปรดชีต ดาต้าเบส และซอฟต์แวร์พับลิชชิงบางชนิด) สิ่งนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้อย่างมาก แถมยังช่วยให้คุณเริ่มต้นทำงานได้เลยหลังจากที่แกะพีซีออกจากกล่อง สิ่งที่คุณไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งก็คือซื้อพีซีที่ไม่มีระบบปฏิบัติการติดตั้งเอาไว้ ซึ่งในปัจจุบันโอเอสที่เหมาะกับคุณมากที่สุดก็คือ Windows ME หรือ 2000 แอพพลิเคชั่นที่คุณต้องการใช้งานอาจส่งผลต่อการซื้อฮาร์ดแวร์ของคุณด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่นบริษัทขนาดเล็กที่ใช้พีซีเพื่อเก็บระบบจ่ายเงินเดือนพนักงาน ระบบบัญชี ระบบชำระภาษี รวมทั้งระบบอีเมล์และการติดต่อกับอินเทอร์เน็ตด้วย ดังนั้นอาจต้องการพีซีที่มีความสลับซับซ้อนน้อยกว่า ผู้ที่ซื้อพีซีไปเพื่อใช้ในงานสร้างสรรค์ต่าง ๆ อาทิ งานด้านการตลาด งานพิมพ์ หรือสร้างเป็นเว็บไซต์ เป็นต้น โปรแกรมกราฟิกบางชนิดอาจจำเป็นต้องใช้ประสิทธิภาพในการประมวลผลมากขึ้น และต้องใช้กับจอภาพที่มีความละเอียดมากกว่าโปรแกรมด้านบัญชี เป็นต้น.
2. คุณจำเป็นต้องเชื่อมต่อพีซีเป็นระบบเครือข่ายหรือไม่?
คุณอาจยังไม่ต้องการเชื่อมต่อพีซีของคุณเป็นระบบเครือข่ายในตอนนี้ แต่คุณควรมองว่าอีกไม่นานนัก คุณอาจจำเป็นต้องเชื่อมต่อพีซีเหล่านี้ เป็นระบบเครือข่ายก็เป็นได้
การสร้างระบบเครือข่ายจะช่วยให้คุณใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ร่วมกันได้ อาทิ พริ้นเตอร์ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังช่วยให้คุณสลับการใช้งานระหว่างผู้ใช้หลาย ๆ คนได้ง่ายขึ้นด้วย
ถ้าหากคุณมีแนวโน้มที่จะทำแบบนี้แล้วละก็ คุณควรเลือกซื้อพีซีที่มีการ์ดแลนในตัวด้วย พีซีเชิงธุรกิจส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้มักจะติดตั้งการ์ดอีเธอร์เน็ต 10/100 มาให้แล้ว ส่วนพีซีที่ยังไม่มีพอร์ตแบบนี้ติดตั้งอยู่ คุณก็สามารถซื้อชุดระบบเครือข่ายสำเร็จรูปมาใช้อาทิของ 3Com หรือของ Compaq เป็นต้น.
3. ข้อมูลของคุณมีความสำคัญขนาดไหน?
ถ้าหากคุณเตรียมที่จะใช้พีซีที่ซื้อมาใหม่เพื่อจัดเก็บข้อมูลของพนักงาน ข้อมูลเงินเดือน รายชื่อของลูกค้า และแผนงานด้านธุรกิจแล้วละก็ คุณกำลังนำหัวใจของธุรกิจของคุณไปฝากเอาไว้กับพีซีเครื่องนี้ ถ้าหากพีซีเครื่องนี้เกิดความผิดปกติขึ้นมา อาทิเช่น ฮาร์ดดิสก์พัง เป็นต้น คุณจะเจอกับปั?หาอย่างมาก ถ้าหากคุณไม่มีข้อมูลเหล่านี้เก็บสำรองเอาไว้ในที่อื่น ๆ
สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีกลไกสำรองข้อมูลเรียบร้อยแล้ว เราขอแนะนำระบบจัดเก็บข้อมูลความจุสูงที่พกพาติดตัวได้ อาทิเช่น ไดร์ฟ lomega Jaz ซึ่งเก็บข้อมูล 2 GB ลงไปในแผ่นดิสก์เพียงแผ่นเดียวได้ เป็นต้น แต่หากคุณมีงบจำกัด คุณอาจเลือกใช้ไดร์ฟ Zip ซึ่งเก็บข้อมูลในแผ่น Zip Disk ขนาด 3.5 นิ้วได้ถึง 100 MB ซึ่งเป็นขนาดที่เหนือกว่าแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์แบบมาตรฐานอย่างมาก สิ่งที่คุณควรทำเป็นอันดับต่อมาก็คือ ทำการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอแล้วนำข้อมูลที่สำรองเอาไว้ไปเก็บไว้ที่อื่น
4. สถานที่ตั้งพีซีมีความปลอดภัยแค่ไหน?
อีกเรื่องหนึ่งที่คุณควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย อาทิเช่น เมื่อคุณทำประกันภัย คุณควรครอบคลุมการทำประกันพีซีของคุณด้วย และพีซีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา อาทิ โน้ตบุ๊กเป็นเป้าที่เย้ายวนหัวขโมยมากกว่า พีซีแบบตั้งพื้นที่มีจอภาพขนาดใหญ่ เป็นต้น.
5. ระบบอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งสำคัญ
คุณไม่ควรมองว่าระบบสื่อสารอินเทอร์เน็ตเป็นอุปกรณ์เสริม แต่อินเทอร์เน็ตก็คือ สาเหตุหลักที่บริษัทต่าง ๆ ซื้อพีซีมาใช้งานในตอนนี้ การใช้อินเทอร์เน็ตจะช่วยให้คุณสื่อสาร โดยตรงกับลูกค้าผ่านทางระบบอีเมล์ ให้บริการแบบใหม่ทางอินเทอร์เน็ต และติดต่อธุรกิจกับซัพพลายเออร์ ของคุณได้ด้วย
ตัวเลือกที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายก็คือโมเด็มความเร็ว 56 KB (ไม่ควรซื้อโมเด็มที่มีความเร็วต่ำกว่านี้) แบบติดตั้งภายในพีซีเลย และคุณควรขอติดตั้งสายโทรศัพท์แยกต่างหากเพื่อใช้กับโมเด็มโดยเฉพาะ เพื่อที่เวลาคุณติดต่อกับอินเทอร์เน็ตคุณจะไม่พลาดการพูดคุยปกติทางธุรกิจไป.
6. คุณจำเป็นต้องเดินทางบ่อย ๆ หรือไม่?
งานที่คุณทำเกี่ยวข้องกับการเดินทาง หรือต้องเปลี่ยนที่ตั้งของสำนักงานบ่อย ๆ หรือไม่ คุณต้องนำคอมพิวเตอร์กลับไปทำงานต่อที่บ้านหรือไม่? ถ้าหากงานของคุณอยู่ในลักษณะนี้ คุณควรซื้อโน้ตบุ๊ก เพื่อที่คุณจะมีคอมพิวเตอร์และข้อมูลที่คุณต้องการติดตัวอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงก็คือ คุณมีโอกาสทำโน้ตบุ๊กหายในระหว่างเดินทางได้ และข้อมูลอาจมีโอกาสเสียหายได้ง่ายกว่าด้วย ดังนั้นการสำรองข้อมูลของการใช้งานประเภทนี้ จึงมีความสำคัญมากเช่นกัน
ทางเลือกอีกอย่างหนึ่งคือใช้คอมพิวเตอร์แบบพกพาติดตัวได้ขนาดเล็ก อาทิ PDA อย่างเครื่อง Palm หรือ Handsping เป็นต้น ซึ่งเหมาะสำหรับการเก็บข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ และตารางนัดหมายต่าง ๆ ซึ่งข้อมูลของอุปกรณ์เหล่านี้ยังสามารถโอนถ่ายไปยังพีซีได้ด้วย.
7. คุณมีปัญหาเรื่องเนื้อที่ในการติดตั้งพีซีหรือไม่?
ถ้าหากสำนักงานของคุณมีเนื้อที่ค่อนข้างคับแคบ คุณต้องพิจารณาถึงปัจจัยนี้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อพีซีด้วย คุณอาจไม่สามารถซื้อจอภาพขนาดใหญ่มาใช้ได้ ดังนั้นคุณอาจต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อซื้อจอภาพแบนราบ TFT มาใช้
นอกจากนั้นถ้าหากคุณจำเป็นต้องติดตั้งซีพียูไว้ใต้โต๊ะทำงาน เพื่อให้โต๊ะของคุณมีเนื้อที่เพิ่มขึ้น แต่คุณเจอปัญหาเมื่อคุณต้องใช้แผ่นซีดี แผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ และไดร์ฟสำรองข้อมูลด้วย ส่วนการตั้งจอภาพของคุณต้องห่างจากพีซีมากกว่าปกติ จนคุณต้องใช้เคเบิ้ลพิเศษด้วยหรือไม่ และคุณมีปลั๊กไฟเพียงพอหรือไม่? คิดให้ถี่ถ้วนแล้วแจ้งกับคนขาย เผื่อบางทีคุณอาจจะ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มก็ได้.
8. คุณมีแผนงานระยะยาวเป็นแบบใด?
กิจกรรมที่เกิดขึ้นก็คือพีซีที่คุณซื้อในวันนี้จะตกรุ่นอย่างรวดเร็ว จนคุณสามารถใช้เงินจำนวนเท่ากันซื้อพีซีเครื่องใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมมาก ในอนาคต การซื้อพีซีของคุณต้องมีการวางแผนพ่วงเอาไว้ด้วย ถ้าหากการซื้อครั้งนี้เป็นพีซีเครื่องแรกของคุณ
คุณต้องมองว่าคุณจะติดตั้งระบบเครือข่ายในอนาคตหรือไม่ เพราะการติดตั้งระบบเครือข่ายจะช่วยให้พีซีเครื่องเก่าของคุณมีอายุยืนยาวมากขึ้น โดยการโอนไปให้พนักงานใหม่เอาไปใช้งาน หรือคุณอาจจะคิดอัพเกรดในภายหลัง อาทิ การเพิ่มเมมโมรีหรือเปลี่ยนซีพียู หรือเพิ่มฮาร์ดดิสก์ ซึ่งก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานพีซีของคุณให้นานขึ้นไปอีกได้เช่นกัน.
9. คุณคิดจะเช่าพีซีหรือไม่?
บริษัทผู้ผลิตพีซีหลายราย มีข้อเสนอให้เช่าพีซีโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้ สิ่งที่คุณได้รับก็คือเทคโนโลยีล่าสุด และสามารถกระจายค่าใช้จ่ายตามสภาพการใช้งานจริง ซึ่งถ้าหากคุณเลิกใช้พีซีคุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลกับพีซีเครื่องเก่าที่หมดสภาพอีกต่อไป
นอกจากนั้นคุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ทีเดียว แถมถ้าหากมีอะไรเกิดเสียขึ้นมาในช่วงประกัน ผู้ค้าพีซีก็จะซ่อมให้ด้วยโดยที่คุณไม่ต้องซื้อการรับประกันราคาแพงพ่วง มาด้วยเหมือนการซื้อพีซีใหม่. |