1. เครื่องคอมพิวเตอร์ (Hardware)
หมายถึงโครงสร้างของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถมองเห็นและจับต้องได้ เช่น คีย์บอร์ด เม้าส์ จอคอมพิวเตอร์ และตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังประกอบด้วยอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ที่ช่วยเสริมให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้กว้าง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น เครื่องสแกนเนอร์ เครื่องดิจิไตส์เซอร์ ชุดมัลติมีเดีย อุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ ดังนั้น ส่วนประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์แบ่งตามหน้าที่การทำงานของเครื่องได้ดังนี้
1.1 หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) ทำหน้าที่ในการเตรียมข้อมูลเข้าสู่ระบบประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยอาศัยเครื่องมือในการนำเข้าข้อมูลดังนี้คือ คีย์บอร์ด เมาส์ และสื่อนำเข้าข้อมูลดาวเทียมและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ที่สำคัญ ได้แก่ CD -RW, Diskette Cartridge Tape, Scanner, Digitizer, Light Pen
1.2 หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) เป็นศูนย์รวมที่ทำหน้าที่ในการประมวลผล ประกอบด้วย 1.2.1 หน่วยประมวลผล (Processor) เป็นชิปเซตที่ทำหน้าที่ในการประมวลผลภายใน ซึ่งประกอบด้วย ส่วนควบคุม (Control Unit : CU) ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานส่วนต่างๆ ของระบบโดยส่งสัญญาณควบคุมผ่านระบบบัส (Bus) ส่วนคำนวณและเปรียบเทียบ (Arithmatic and Logic Unit : ALU) มีหน้าที่หลักคือ การคำนวณและและเปรียบเทียบข้อมูลด้วยหลักการทางคณิตศาสตร์ และ ตรรกศาสตร์ เช่น การบวก ลบ คูณ หาร และการตรวจสอบเงื่อนไข เก็บข้อมูลที่ได้จากการประมวลไว้ในส่วนที่เรียกว่า Register ปกติแล้วคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วยประมวลผลเพียงชุดเดียว ่ในกรณีของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในงานประมวลผลข้อมูลดาวเทียมซึ่งมีความละเอียดของข้อมูลสูง มีการประมวลผลตลอดเวลา และมีการทำงานของโปรแกรมพร้อมกันหลายโปรแกรม หน่วยประมวลผลเพียงชุดเดียวจึงอาจไม่เพียงพอ เพราะจะทำให้เครื่องประมวลผลหยุดการทำงานในขณะที่มีการประมวลผลหนักๆ การเลือกใช้คอมพิวเตอร์แบบมีหน่วยประมวลผล 2 ชุด (two-processor) เป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้การประมวลผลมีเสถียรภาพ โดยหน่วยประมวลผลสามารถทำงานในเวลาเดียวกันเป็นตัวสำรองซึ่งกันและกันเมื่อ CPU ตัวใดตัวหนึ่งหยุดทำงานอีกตัวหนึ่งจะทำงานแทนโดยอัตโนมัติ
1.2.2 หน่วยความจำหลัก (Main Memory) เราสามารถสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้โดยอัตโนมัติโดยอาศัยชุดคำสั่งที่ป้อนสู่ระบบคอมพิวเตอร์จะเก็บคำสั่งเหล่านั้นไว้ในหน่วยความจำหลัก เพื่อทำงานตามชุดคำสั่ง หน่วยความจำหลักประกอบด้วย หน่วยความจำแบบอ่านได้อย่างเดียว (Read Only Memory : ROM) ทำหน้าที่ในการเก็บชุดคำสั่งควบคุมการรับส่งข้อมูลพื้นฐาน คือ BIOS ซึ่งจะถูกกำหนดมาจากโรงงานผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ หน่วยความจำส่วนนี้จะเก็บข้อมูลไว้ตลอดอายุการใช้งานของเครื่อง อีกประเภทหนึ่งเรียกว่า หน่วยความจำแบบชั่วคราว (Random Access Memory : RAM)หน่วยความจำส่วนนี้สามารถอ่านและบันทึกข้อมูลได้ตลอดเวลา เป็นส่วนที่ใช้เก็บโปรแกรมและข้อมูลเพื่อส่งไปประมวลผลยังหน่วยประมวลผล หลังจากคอมพิวเตอร์ทำการประมวลผลแล้วจะส่งข้อมูลกลับมาที่หน่วยความจำ ทำให้หน่วยความจำมีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้ายข้อมูลเป็นจำนวนมาก เปรียบเสมือนหน่วยรับฝากข้อมูลแบบชั่วคราว ซึ่งจะถูกแทนที่ด้วยข้อมูลใหม่เสมอ ถ้าปิดเครื่องข้อมูลในหน่วยความจำส่วนนี้จะหายไปหมด คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูลดาวเทียม ในปัจจุบันควรจะเลือกใช้ RAM ชนิด ที่มี Parity SDRAM PC100 โดยมี RAM ไม่ต่ำกว่า 128 MB เนื่องจากข้อมูลดาวเทียมมีความละเอียดและความซับซ้อนในการประมวลผลหลายขั้นตอน กอปรกับโปรแกรมประมวลผลข้อมูลดาวเทียมมีขนาดใหญ่ และมีการต่อพ่วงอุปกรณ์อื่นๆ เช่นเทปอ่านข้อมูล สำหรับอ่านข้อมูลเข้ามาเก็บไว้ในหน่วยความจำ จึงทำให้ความต้องการหน่วยความจำหลักมีมากขึ้นและการประมวลผลแต่ละครั้งจะมีการใช้หน่วยความจำจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
1.2.3 หน่วยบันทึกข้อมูล (Data Entry Unit) เป็นสื่อในการเก็บข้อมูล และสามารถนำข้อมูลกลับประมวลผลใหม่ และบันทึกข้อมูลซ้ำได้หลายครั้ง ข้อมูลที่ถูกประมวลผลแล้วเก็บอยู่ในหน่วยความจำหลัก ถ้าปิดเครื่องข้อมูลเหล่านั้นจะหายไป จึงควรมีการบันทึกข้อมูลลงฮาร์ดดิสก์ อุปกรณ์ส่วนนี้ทำหน้าที่เป็นทั้งหน่วยรับข้อมูลและหน่วยแสดงผลข้อมูล (Input/Output Device) อุปกรณ์ที่จำเป็นในระบบงานประมวลผลข้อมูลดาวเทียมและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ได้แก่
1) ฮาร์ดดิส (Hard Disk ) |
![](../../../../../www.rs.psu.ac.th/comp/images/Image27.html)
|
แผ่นจานแม่เหล็กเก็บข้อมูลชนิดแข็ง แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่เชื่อมต่อภายในเครื่อง (Internal Hard Disk) และประเภทที่เชื่อมต่อภายนอก (External hard disk) ปัจจุบันได้มีการผลิตฮาร์ดดิสความจุตั้งแต่ 6 GB ขึ้นไป โดยมีมาตรฐานการเชื่อมต่อ IDE และ SCSI ซึ่งมีความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลตามาตรฐานแบบ SCSI จะมีประสิทธิภาพและความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล การส่งผ่านข้อมูลได้ดีกว่า จึงเป็นที่นิยมใช้ในงานประมวลผลข้อมูลและส่งผ่านข้อมูลจำนวนมาก ฮาร์ดดิสที่ผลิตในปัจจุบันได้แก่ Seagate, IBM, Maxtor, Quatum |
2) เทปคาร์ทริดจ ์ (Cartridge Tape) |
![8mm.jpg (11424 bytes)](../../../../../www.rs.psu.ac.th/comp/images/8mm.html)
|
เทปคาร์ทริดจ์ มีจุดเด่นตรงสามารถบันทึกข้อมูลซ้ำได้หลายครั้ง และมีความจุสูงถึงระดับกิกะไบต์ คือ ตั้งแต่ 1 กิกะไบต์ขึ้นไป สูงถึง 14 กิกะไบต์ มีลักษณะเทปคล้ายเทปคาสเซ็ท เป็นม้วนยาว 112 m ใช้สำหรับการบันทึกข้อมูลที่มีจำนวนมาก เช่น การสำรองข้อมูลขององค์กรขนาดใหญ่ ใช้เป็นสื่อกลางในการบันทึกข้อมูลดาวเทียม |
3) เครื่องอ่านและบันทึกข้อมูล ประเภท CD |
![cd.jpg (9536 bytes)](../../../../../www.rs.psu.ac.th/comp/images/cd.html)
|
ใช้ลำแสงเลเซอร์ในการอ่านและเขียนข้อมูลมีทั้งชนิดอ่านได้อย่างเดียว ซึ่งเรียกว่า Compact Disk Read Only Memory (CD-ROM) และชนิดที่สามารถอ่านและอ่านและเขียนได้ เรียกว่า CD - R ปกติแล้วการบันทึกข้อมูลลงซีดีจะบันทึกได้เพียงครั้งเดียว ในความจุ 650 MB แต่มีเครื่องบันทึกซีดีที่ออกมารองรับการบันทึกข้อมูลได้มากกว่า 1 ครั้ง เรียกว่า CD - RW สามารถลบข้อมูลในแผ่นและบันทึกใหม่ได้ |
4) Floppy Disk |
![diskk.jpg (11336 bytes)](../../../../../www.rs.psu.ac.th/comp/images/diskk.html)
|
แผ่นจานแม่เหล็กชนิดอ่อน เคลือบด้วยสาร Polyester เป็น Mylar บางๆ บรรจุในซองพลาสติก มีขนาด 3.5 นิ้ว ความจุ 1.44MB |
5) Removable Disk อื่นๆ |
![remove.jpg (11410 bytes)](../../../../../www.rs.psu.ac.th/comp/images/remove.html)
|
มีลักษณะคล้ายดิสเก็ต แต่มีความจุสูงใกล้เคียงกับฮาร์ดดิส สามารถติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกเครื่อง เช่นแผ่นบันทึกข้อมูล Zip drive , Jaz drive, Syquest ปัจจุบันสามารถบันทึกข้อมูลได้สูงถึง กิกะไบต์ |
1.3 หน่วยแสดงผลข้อมูล (Output Unit) ทำหน้าที่ในการแสดงผลข้อมูลที่ได้จากการประมวลผล เป็นส่วนที่เชื่อมความสัมพันธ์และโต้ตอบระว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ หน่วยแสดงผลที่เห็นได้ชัดเจนได้แก่ จอคอพิวเตอร์ ให้ความละเอียดของการแสดงผลได้ดีกว่าการแสดงผลออกทางสิ่งพิมพ์ แต่เราไม่สามารถจับต้องได้เราเรียกว่า Softcopy ส่วนการแสดงผลออกทางสื่อสิ่งพิมพ์ เรียกว่า Hardcopy เช่น แผนที่ แผนภูมิต่างๆ จัดพิมพ์ในรูปกระดาษ หรือแผ่นฟิล์ม
1.4 อุปกรณ์ต่อพ่วง (Peripheral) คืออุปกรณ์เสริมที่ทำให้คอมพิวเตอร์เกิดประโยชน์มากมายประกอบด้วยอุปกรณ์ต่อพ่วงประเภทอุปกรณ์นำเข้าข้อมูล อุปกรณ์แสดงผลข้อมูล อุปกรณ์ติดต่อสื่อสาร เช่น HUB Network card และสายเคเบิล เป็นอุปกรณ์เสริมทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นสามารถสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายเดียวกันได้ สามารถส่งผ่านข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ Server ไปยังคอมพิวเตอร์อื่นๆในระบบได้ ทำให้ระบบงานประมวลผลข้อมูลดาวเทียมและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถถ่ายเทข้อมูลผ่านระบบเครือข่าย โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์สื่อบันทึกข้อมูลอื่นๆ เป็นตัวกลางในการถ่ายเทข้อมูลจากเครื่องหนึ่งไปยังเครื่องหนึ่ง ตัวอย่างของอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ใช้ในการนำเข้าข้อมูลมีดังนี้
1) เครื่องสแกนเนอร์ (Scanner) |
![scaner.jpg (15144 bytes)](../../../../../www.rs.psu.ac.th/comp/images/scaner.html)
|
ใช้ในการนำเข้าข้อมูลรูปภาพและข้อมูลที่เป็นตัวหนังสือ สำหรับในงานระบบสารสนเทศใช้ในการนำเข้าข้อมูลที่เป็น raster และทำการแปลงข้อมูลโดยใช้โปรแกรมเฉพาะทางให้เป็นข้อมูล Vector หรือใช้วิธีการดิจิไตส์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ คุณสมบัติของเครื่องสแกนเนอร์ คือสามารถสแกนได้ที่ภาพสีและขาวดำ มีความละเอียดในการสแกนไม่น้อยกว่า 1200 dpi เครื่องสแกนเนอร์มีทั้งขนาดเล็ก A4 ใช้ในงานสำนักงานทั่วไป ขนาดใหญ่ A0 หรือ A1 ใช้การสแกนข้อมูลภาพขาดใหญ่ เช่น การสแกนแผนที่ |
2) เครื่องดิจิไตส์ (Digitizer) |
![digitize.jpg (10249 bytes)](../../../../../www.rs.psu.ac.th/comp/images/digitize.html)
|
เป็นเครื่องมือนำเข้าข้อมูลโดยการคัดลอกบนกระดานแม่เหล็ก แล้วแปลงเป็นข้อมูลดิจิตอล (Digital) นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรมเฉพาะทาง เช่นโปรแกรมด้านสารสนเทศภูมิศาสตร์ โปรแกรมด้านการออกแบบ AutoCAD , MicroStation ข้อมูลที่นำเข้าโดยใช้โปรแกรมระบบสารสนภูมิศาสตร์ ได้แก่ ถนน ทางน้ำ ที่ตั้งสถานที่สำคัญ ฯลฯ ซึ่งสามารถกำหนดตำแหน่งพิกัดภูมิศาสตร์อ้างอิงบนพื้นผิวโลกได้ |
3) เครื่องอ่าน-บันทึกเทป คาร์ทริดจ ์ (Read-Write Cartridge Tape) |
![mambare.gif (10795 bytes)](../../../../../www.rs.psu.ac.th/comp/images/mambare.html)
|
เป็นเครื่องมือนำเข้าข้อมูลโดยใช้อ่านข้อมูลจากเทปคาร์ทริดจ์เข้าระบบคอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรมเฉพาะทาง เช่น โปรแกรมด้านรีโมทเซนซิ่งนำเข้าข้อมูลดาวเทียม โปรแกรมอ่าน-บันทึกเทปใน Windows NT 4.0 เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกข้อมูลลงในเทปคาร์ทริดได้อีกด้วย |
|