ผ้าฝ้าย
ผ้าฝ้าย
สายใยความผูกพันแห่งชีวิตและเส้นใย
 ฝ้าย (Cotton) คือเส้นใยเก่าแก่ชนิดหนึ่งซึ่งใช้ในการทอผ้ามาแต่สมัยโบราณ  สิ่งที่บ่งบอกให้รู้ว่ามนุษย์มีการปลูกฝ้ายและปั่นฝ้ายเป็นเส้นด้ายมานานแล้ว  คือหลักฐานทางโบราณคดีซึ่งขุดะพบในซากปรักหักพังอายุประมาณ  3,000
ปีก่อนคริสตกาล ที่แหล่งโบราณคดีโมฮันโจ  ดาโร  (Mohenjo  daro)  ซึ่งอยู่ในบริเวณแหล่งอารยธรรมลุ่มน้ำสินธุ  ในเขตประเทศปากีสถานปัจจุบัน
 ส่วนการทอผ้าฝ้ายในประเทศไทยนั้น  คงมีขึ้นหลังการทอผ้าจากป่านกัญชาสันนิษฐานว่าการปลูกฝ้ายในไทยรับเอาพันธุ์และวิธีการมาจากประเทศอินเดียและหลังจากพบว่าผ้าทอจากฝ้ายมีเนื้อนุ่ม  สวมใส่สบาย  และย้อมสีติดดีกว่าผ้า
ป่านกัญชา  อีกทั้งขั้นตอนและกระบวนการแยกและเตรียมฝ้ายก็ไม่ยุ่งยาก  ใช้เวลาน้อยกว่าการเตรียมป่านกัญชามาก  ชาวไทยจึงค่อยๆวใช้ป่านกัญชาลดลงตามลำดับ
 ปัจจุบัน  แหล่งปลูกฝ้ายในประเทศไทยคือ  จังหวัดเลย  เพชรบูรณ์  นครสววรค์  ลพบุรี  ปราจีนบุรี  สุโขทัย  เพชรบุรี  นครราชสีมา  และกาญจนบุรี
พันธุ์ฝ้ายในประเทศไทยมีหลายชนิด  และมีฝ้ายพื้นเมืองอยู่  2  สายพันธุ์คือฝ้ายพันธุ์ซึ่งให้ปุยสีขาวอย่างที่มักพบเห็นทั่วไป  และฝ้ายพันธุ์ซึ่งให้ปุยสีน้ำตาลอ่อน  ที่ชาวบ้านเรียกกันว่าสีขี้ตุ่น  หรือสีตุ่น  และเรียกฝ้ายชนิดนี้ว่าฝ้ายตุ่น
 ฝ้ายตุ่น  เป็นพันธุ์ฝ้ายที่หายากและปั่นยากกว่าฝ้ายพันธุ์สีขาว  เนื่องจากมีปุยสั้นและไม่ค่อยฟูเหมือนพันธุ์สีขาว  ดอกฝ้ายตุ่นมีขนาดเล็ก  สีน้ำตาล  เส้นใยสั้น  ใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการทอผ้าด้วยมือแบบพื้นเมือง  ส่วนฝ้ายพันธุ์
ชนิดอื่นๆมักใช้สำหรับการทอผ้าระดับอุตสาหกรรม
 ผ้าที่ทอจากฝ้ายส่วนใหญ่คือผ้าทอจากทางภาคเหนือ  ชาวล้านนาจะเริ่มปลูกฝ้ายราวเดือนพฤกษภาคมและรอเก็บในเดือนพฤกศจิกายน  นิยมเก็บฝ้ายก่อนที่ฝ้ายจะร่วงลงสู่พื้น  ป้องกันไม่ให้ฝ้ายสกปรก
 หลังจากเก็บฝ้ายแล้ว  ชาวบ้านต้องนำฝ้ายไปตากเพื่อคัดเอาแมลงและสิ่งสกปรกออก  ก่อนจะนำไปหีบ  หรืออีดในที่อีดฝ้าย  แยกเอาเมล็ดออกก่อนนำไปปั่นเป็นเส้นด้าย


แหล่งอ้างอิง : หนังสือภูมิแผ่นดินไทย บริษัทไทยประกันชีวิต เล่ม 5

โดย : เด็กหญิง อัมพวัน เปลี่ยนเปรม, โรงเรียนเมืองชุมพรบ้านเขาถล่ม, วันที่ 16 สิงหาคม 2546