ภาพไตเติ้ลเกมรูปแบบใหม่


ภาพไตเติ้ลเกมรูปแบบใหม่

1. สร้างไฟล์ใหม่เลือก File > New กำหนด Mode เป็นแบบ RGB ที่ขนาด 600 x 450 pixel และความละเอียดเป็น 72
2. สร้างดาว โดยเริ่มจากคลิกทูล Gradient เลือกสไตล์จากออปชันบาร์เป็น Radial Style และเลือกรูปแบบเป็นโครเมียม (Chrome) และคลิกตรงส่วนบนของภาพนี้ ลากไปประมาณกึ่งกลางของภาพ จะปรากฏรูปดาวเป็นวงกลมที่มีรัศมีสีเหลือง ขึ้นตรงบริเวณที่ลากเส้น
3. เลือกเมนู Image>Adjust>Invert เพื่อกลับสีผลลัพธ์นี้ จะปรากฏเป็นฉากหลังสีดำ และเป็นดาวก็เปลี่ยนสีของรัศมีจากเดิมสีเหลืองไปเป็นสีน้ำเงิน
4. ปรับโทนสีน้ำเงินของดาวด้วยการเลือกเมนู Image>Adjust>Hue/Saturation กำหนดค่าดังที่แสดงในไดอะล็อกบ็อกซ์ Hue/Saturation ในรูปถัดไป โดยเลือกปรับที่ Edit>Blue ให้ค่า Hue = +180, Saturation = -40, Lightness = -25
5. สร้างหมอกควันของก๊าซที่อยู่ในบรรยากาศเข้าไป ด้วยการใช้ฟิลเตอร์ Render เริ่มต้นจากกำหนดสีฉากหน้า จากในแพลเล็ต Color ที่ R = 3, G = 191, B = 235
6. เลือกเมนู Fiter>Render>Clouds เพื่อใส่หมอกควันตามสีฉากหน้าที่ได้กำหนดไว้
7. จะเห็นได้ว่าหมอกควันจะทึบบังรูปวงกลมจนไม่สามารถมองเห็น ให้แก้โดยให้ปรับลดความทึบโดยเลือกเมนู Edit>Fade Clouds ให้เหลือค่าโดยประมาณการเอา ในที่นี้เลือกเป็น 45%
8. ต่อไปจะสร้างกลุ่มหมอกควันที่หมุนเป็นเกลียว โดยจะใช้ฟิลเตอร์ Twirl เริ่มต้นจากสร้างเลเยอร์ใหม่ โดยคลิกปุ่ม Create a new layer ในแพลเล็ต Layers
9. กำหนดสีฉากหน้าจากในแพลเล็ต Color ที่ R=4, G=126, B=251
10. เลือกเมนู Fiter>Render>Clouds เพื่อใส่หมอกควันตามสีฉากหน้าที่ได้กำหนดไว้
11. จะเห็นว่าผลลัพธ์จะบังภาพบนเลเยอร์ Background จนมองไม่เห็น แต่ในที่นี้จะปรับด้วยการกำหนด Blend mode จากในแพลเล็ต Layers ไปที่ Soft Light
12. ใช้ฟิลเตอร์ Twirl โดยเลือกเมนู Filter>Distort>Twirl เพื่อกำหนดจำนวนรอบบิดเกลียว โดยกำหนดลงในช่อง Angle
13. ให้เปลี่ยน Opacity ให้เท่ากับ 50% เพื่อให้เกลียวมีสีที่เบาลง ไม่ทึบจนเกินไป
14. แต่ในที่นี้เราจะสร้างกลุ่มหมอกบิดเกลียวขึ้นมาซ้อนกันอีก โดยให้เริ่มทำตั้งแต่ข้อ 8 จนถึง ข้อ 12 อีก ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะตรงความต้องการ ในที่นี้ทำประมาณ 3 ครั้งด้วยกัน ให้ปรับเปลี่ยนจำนวนรอบบิดเกลียวตามสมควร
15. ทำการรวมเลเยอร์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน โดยเลือกเมนู Layer> Flatten Image
16. เติมแสงวาบให้กับดาว ทำได้โดยเลือกเมนู Fiter>Render>Lens Flare กำหนด Brightness = 120% และ Lens Type = 35mm Prime และคลิกตำแหน่งที่ต้องการให้มีแสงวาบในช่องภาพตัวอย่าง และคลิก OK
17. จะสังเกตได้ว่า มีแสงวาบบดบังภาพ ให้แก้ไขเพื่อเอาส่วนที่บังนี้ออก โดยเริ่มต้นจากบนแพลเล็ต History ให้คลิกเลือกที่รายการ Flatten Image เพื่อเป็นจุดบอกว่าจะย้อนกลับมาที่จุดนี้ และคลิกเลือก History Brush และแดร็กไปบนส่วนที่ต้องการจะลบออก
18. ต่อไปเราจะเติมดาวดวงเล็ก ๆ ลงให้รอบบริเวณ โดยเริ่มทำจากเลือกเมนู Fiter>Render>Lens Flare กำหนด Brightness = 50% และ Len Type = 35 mm Prime และคลิกตำแหน่งที่ต้องการในภาพตัวอย่าง จากนั้นคลิก OK
19. และให้ทำไปเรื่อย ๆ ตามจำนวนดาวที่เราต้องการให้มี โดยกระทำตามข้อ 18 แต่จะเปลี่ยนขนาดของดาวก็ได้ โดยให้เปลี่ยนค่า Brightness ให้เป็นขนาดที่ต้องการ
20. ต่อไปจะเป็นการสร้างตัวอักษรขึ้น โดยเริ่มจากการสร้างเลเยอร์ใหม่ขึ้น จากปุ่ม Create a new layer ในแพลเล็ต Layers
21. คลิกทูล Type เลือกฟอนต์ตัวอักษรที่ต้องการ แล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไป
22. แปลงข้อความเป็นภาพแบบราสเตอร์ โดยเลือกเมนู Layer>Rasterize>Type
23. เลือกเมนู Fiter>Stylize>Emboss การกำหนดค่า Height จะแปรตามระดับความละเอียดของภาพ สำหรับในที่นี้จะใช้ค่าคือ Angle =135, Height = 3 pixel, Amount = 100%
24. เพื่อให้ตัวอักษรแตกต่างไปจากพื้นหลัง ให้กำหนด Blend mode จากแพลเล็ต Layers ของเลเยอร์ข้อความนี้ เป็นแบบ Difference
25. ใส่เงาให้กับตัวอักษร โดยเลือกเมนู Layer>Layer Style>Drop Shadow กำหนด Distance = 10, และ Size = 10 แล้วคลิก OK



โดย : นางสาว วรรัตน์ ทิพยวัลย์, วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี, วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2545