IT Digest |
Volume 1 No 2 ( |
A
biweekly newsletter from NECTEC to information technology leaders in |
รีโมทคอนโทรลสำหรับชีวิตยุคใหม่
โทรศัพท์มือถือแพร่หลายและมีการขยายตัวอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นนับตั้งแต่ปี
1994 เมื่อบริษัท DoCoMo
เปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดจากการให้เช่าโทรศัพท์มือถือเป็นการขายในราคาถูก หลังจากนั้นเพียงสองปีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เพิ่มมากกว่าเดิมเป็น
2 เท่าและในขณะนี้จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในญี่ปุ่นมีมากถึงร้อยละ 64
ของประชากรทั้งหมด
บริษัท NTT DoCoMo ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของญี่ปุ่นไม่ได้หยุดนิ่งเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ
บริษัทได้ประกาศที่จะพัฒนาให้โทรศัพท์มือถือในระบบให้สามารถใช้แทนกุญแจบ้าน
เครดิตการ์ด และบัตรโดยสารรถไฟ
ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงอำนาจของเครือข่ายคอมพิวเตอร์แห่งอนาคต
โทรศัพท์รุ่นใหม่นี้จะออกจำหน่ายในช่วงฤดูร้อนนี้ เครื่องโทรศัพท์รุ่นใหม่นอกจากสามารถใช้เป็นโทรศัพท์ตามปกติแล้ว
ยังใช้รับส่งอีเมล์ เล่นเกมส์ออนไลน์ เข้าเยี่ยมชมเว็บไซด์ที่ต่อผ่านเครือข่าย i-mobile ถ่ายภาพ อ่านบาร์โค๊ด ดาวน์โหลดและเล่นเพลง
สำหรับคุณสมบัติที่โดดเด่นของโทรศัพท์แบบใหม่ที่แตกต่างจากโทรศัพท์ในปัจจุบันคือการสามารถใช้จ่ายเงินในร้านขายของชำ
เปิดล็อกประตู
ควบคุมอุปกรณ์ในบ้าน ซื้อตั๋วหนังและตั๋วรถไฟใต้ดิน เป็นต้น
คุณสมบัติที่แตกต่างไปจากโทรศัพท์ทั่วไปนี้เกิดขึ้นเพราะบริษัท NTT DoCoMo ได้บรรจุไมโครชิปพิเศษที่ผลิตโดยบริษัท
Sony (ชิป FeliCa) เข้าไปในโทรศัพท์รุ่นใหม่ ตัวชิปนี้ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กและบาง
และวางไว้กับสายอากาศที่ทำจากแผ่นฟิล์มบางๆ
โทรศัพท์รุ่นใหม่นี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ 200 300 เหรียญสหรัฐ
ถึงแม้ขณะนี้ระบบการจ่ายเงินของการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในญี่ปุ่นมีระบบบัตรจ่ายเงินแบบที่บัตรไม่ต้องสัมผัสเครื่องอ่านแล้วก็ตาม
แต่ยังมีปัญหาความไม่สะดวกบางประการ เช่น
ผู้โดยสารไม่สามารถเห็นจำนวนเงินที่เหลือบนตัวบัตร
หรือความไม่สะดวกในการเติมเงินเนื่องจากผู้โดยสารต้องไปเติมเงินที่เครื่องเติมเงิน ดังนั้นโทรศัพท์รุ่นใหม่จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้โดยที่เจ้าของโทรศัพท์สามารถโทรไปถามยอดเงินและเติมเงินผ่านโทรศัพท์ได้ทุกที่ทุกเวลา
อย่างไรก็ตามปัญหาที่บริษัทยังเป็นกังวลอยู่คือเรื่องของระบบความปลอดภัยและประเด็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล
บริษัทไม่ต้องการให้ขโมยสามารถขโมยเงินจากโทรศัพท์ด้วยเพียงการเดินผ่านโทรศัพท์พร้อมเครื่องอ่าน
แต่อย่างไรก็ตามชิป FeliCa
ของ Sony นี้มีคุณสมบัติที่สามารถอ่านได้ในระยะเพียง
10 เซนติเมตรในลักษณะที่ชิปไม่ต้องสัมผัสกับเครื่องอ่าน
(contactless IC) ดังนั้นจึงเป็นการยากที่ขโมยจะแสกนข้อมูลได้
ที่มา: MIT
Technology Review, July/August 2004. (www.technologyreview.com/articles/print_version/mann0704.asp)
บริษัทผู้ผลิตชั้นนำของโลกหนุนตั้งศูนย์ Linux
ในสิงคโปร์
ในขณะที่ไมโครซอฟท์กำลังมาแรงจากการเปิดตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยวินโดว์ราคาประหยัด (Windows XP
Starter Edition)
ส่วนบริษัทผู้ผลิตชั้นนำของโลกอย่างบริษัทออราเคิล
และบริษัทเรดแฮ็ตผู้ผลิตซอฟต์แวร์ลีนุกซ์ชั้นนำของโลกก็ไม่ยอมน้อยหน้ารุมหนุนลีนุกซ์
ทั้งสองร่วมกันจัดแถลงข่าวเปิดสำนักงานในประเทศสิงคโปร์
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาซอฟต์แวร์ลีนุกซ์สำหรับการใช้งานในองค์กรธุรกิจ
ศูนย์ลีนุกซ์เอนเตอร์ไพรซ์แอพพลิเคชั่นส์พอร์ติ้ง หรือ ลีพ
(Linux Enterprise Applications Porting: LEAP) คือ
ความร่วมมือครั้งแรกของของบริษัทออราเคิลและเรดแฮ็ตเพื่อตอบสนองกระแสความร้อนแรงของระบบปฏิบัติการโอเพนซอร์สในภูมิภาคเอเซียแปซิพิก
โดยศูนย์นี้จะคอยช่วยสนับสนุนด้านทรัพยากรต่างๆ
แก่ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อิสระและผู้ให้บริการติดตั้งระบบที่ต้องการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรธุรกิจบนลีนุกซ์
ทุกวันนี้ลีนุกซ์เริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลก หลายประเทศตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้ลีนุกซ์ด้วยเหตุผลง่ายๆ
คือหวังจะลดค่าใช้จ่ายและให้อิสระกับตัวเองมากขึ้นโดยไม่ต้องยึดติดอยู่กับซอฟต์แวร์ที่เป็นสิทธิบัตรของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ตามข้อมูลของบริษัทไอดีซี (IDC) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยตลาด คาดว่า ในปี 2008 ตลาดลีนุกซ์เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกจะมีมูลค่าประมาณ 9.7 พันล้านดอลลาร์
(หรือประมาณ 4 แสนล้านบาท) คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดขนาด 29 % ของตลาดเซิร์ฟเวอร์โลก
สำหรับประเทศไทยแม้ว่า ความนิยมลีนุกซ์ในหมู่นักพัฒนาโปรแกรมในภาครัฐและเอกชนจะเพิ่มขึ้นบ้าง
แต่ทุกวันนี้หน่วยงานภาครัฐเองก็ไม่ให้ความสนใจที่จะใช้ลีนุกซ์อย่างจริงจัง
ตลอดจนการผลักดันยังไม่มีพลังเท่าที่ควร ทำให้การเติบโตของลีนุกซ์ในประเทศไทยจึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า
(มีส่วนแบ่งของผู้ใช้งานบน desktop ประมาณ 0.9%) และนี่คือโจทย์ที่รัฐบาลต้องรีบแก้ไขโดยด่วน
หากหวังที่จะยกระดับให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของคนไทยให้ทัดเทียมกับของต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ไมโครซอฟท์กำลังไปได้สวยด้วยวินโดว์ราคาประหยัดเพราะเป็นตลาดใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูง
แต่ยังมีปัจจัยกระทบหลายอย่างทั้งด้านเศรษฐกิจ
สังคมและเทคนิคที่อาจมีผลทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป
เราคงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงแนวโน้มใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น เป็นไปได้หรือไม่ว่า การเติบโตของลีนุกซ์นี้จะเป็นอุปสรรคสำคัญที่คอยสกัดการเติบโตของไมโครซอฟต์ในระยะยาว
ที่มา: https://news.com.com/2100-7344-5245358.html
RFID เทคโนโลยีเพื่อชีวิตประจำวัน
RFID คือ เทคโนโลยีเพื่อชี้เฉพาะด้วยคลื่นวิทยุ
เป็นระบบติดตามโดยอาศัยคลื่นวิทยุในการระบุหรือค้นหาวัตถุที่มีการติดรหัสหรือชิปไว้ โดยชิปดังกล่าวจะส่งคลื่นวิทยุออกมาและคลื่นนั้นสามารถอ่านได้โดยเครื่องอ่านข้อมูล
ความตื่นตัวเรื่อง RFID นั้นเริ่มขึ้นอย่างจริงจังเมื่อ
Wal-Mart ซึ่งผู้จัดจำหน่ายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาได้ร่วมมือกับ
Gillette ในการสร้างชั้นวางสินค้าอัจฉริยะ (Smart
shelves) ที่สามารถเตือนผู้จัดการและพนักงานดูแลสินค้าให้ทำการเติมสินค้าให้เต็มชั้น
ทั้งนี้ Wal-Marts ตั้งใจที่จะให้บริษัทคู้ค้ารายสำคัญๆ
ติดตั้ง RFID สำหรับการติดตามรายการสินค้าภายในปี 2005
การใช้งาน RFID ในขณะนี้พบได้รอบๆ ตัว
อาทิ ชิปประจำตัวในสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและแมว
การใช้งานทางการขนส่งและการรักษาระบบความปลอดภัย เช่น สายการบิน Delta ที่ทดลองใช้ RFID ในการบินบางเที่ยวบิน โดยติดชิปบนกระเป๋าของผู้โดยสาร
ทั้งนี้เพื่อลดปัญหากระเป๋าสูญหาย
และจะเพิ่มความสะดวกสบายเมื่อผู้โดยสารต้องการจะเปลี่ยนเที่ยวบิน นอกจากนั้นบริษัทขนส่งในอเมริกายังมีการนำชิป RFID มาติดที่ตู้คอนเทนเนอร์ที่มาถึงท่าเรือของสหรัฐในแต่ละวัน ชิปเหล่านี้ช่วยในการติดตามตู้คอนเทนเนอร์และทำให้การต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียดลดลงมากกว่า 2% เทคโนโลยี
RFID ยังมีส่วนช่วยเหลือปฎิบัติการทางทหารในการติดตามการขนส่งสิ่งของไปยังประเทศต่างๆ
40 ประเทศ
ในกิจการคาสิโนในประเทศออสเตรเลีย เช่น Star City นั้น
ก็มีการติด RFID tags ไว้ที่เครื่องแบบของลูกจ้างที่มีอยู่ประมาณ
80,000 คนเพื่อป้องกันการลักขโมยด้วย ส่วนทางด้านการเงิน Visa บัตรอัจฉริยะที่รวมเอาชิป RFID เข้าไว้ในบัตร
ทำให้ผู้ใช้บัตรสามารถใช้บัตร Visa จ่ายค่าจอดรถ
ซื้อหนังสือพิมพ์
รับโซดาจากเครื่องให้บริการอัตโนมัติได้โดยไม่ต้องเปิดกระเป๋าเงิน
นอกจากนั้น ธนาคารกลางยุโรปมีแผนจะฝังชิป RFID แบบสมองกลไว้ในธนบัตรยูโรอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นเทคโนโลยี
RFID
ยังมีส่วนช่วยในด้านปศุสัตว์อีกด้วย เกษตรกรในหลายประเทศได้ติดชิปซึ่งมีข้อมูลเฉพาะของสัตว์แต่ละตัว เช่น วันเกิด
ประวัติทางการรักษาพยาบาล การเคลื่อนย้ายมาจากปศุสัตว์อื่น
และผลของการตรวจหาเชื้อโรคไว้ที่ตัวสัตว์
เพื่อทำการติดตามข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์และโรคระบาดเป็นไปอย่างถูกต้องและแม่นยำ
ในอนาคตอันใกล้ เราจะสามารถพบเห็นเทคโนโลยี RFID ได้ตามทั่วไป โดยคาดหมายว่าจะถูกนำไปใช้ในเอกสารที่มีความสำคัญ เช่น ธนบัตร ใบอนุญาตขับขี่
หนังสือเดินทาง ใบแสดงหุ้น เอกสารที่เขียนด้วยลายมือ ปริญญาบัตร
เอกสารประกอบวิชาชีพแพทย์ สูติบัตร
และเอกสารอื่นๆที่มีความสำคัญที่ไม่สามารถสูญหายได้
แม้แต่ร่างกายของมนุษย์ บริษัท Applied Digital Solution ได้เริ่มออกแบบชิปที่เรียกว่า Verichip ซึ่งมีความยาวเพียง 11 ม.ม.
ให้สามารถอยู่ภายใต้ผิวหนัง และสามารถถูกอ่านข้อมูลได้ในระยะห่างประมาณ 4
นิ้ว ชิปนี้คาดว่าจะใช้เพื่อติดตามเด็กๆ ผู้ป่วยที่เป็นโรคความจำเสื่อม (Alzheimer)
และบุคคลที่แพทย์ลงความเห็นว่าไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ นอกจากนั้นในส่วนของประเทศจีน
ผู้นำในพรรคคอมมิวนิสต์ของประเทศจีน ต้องการให้มีการติดอุปกรณ์ RFID ในเสื้อผ้าที่สวมใส่ ในเดือนพฤษภาคม เพื่อที่เมื่อมีการเคลื่อนไหว
ก็สามารถที่จะติดตามและบันทึกข้อมูลได้ ถ้าแนวคิดนี้ถูกนำไปปฏิบัติจริงก็นับว่าน่ากลัวอยู่ไม่น้อยเลยในประเด็นของการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตามจุดอ่อนของ
RFID ขณะนี้คือต้นทุนของการผลิตชิปยังสูงอยู่ ชิปที่ผลิตจากซิลิกอนขณะนี้มีราคาตกราว
20 เซนต์ต่อชิ้น ดังนั้นนักวิจัยของบริษัท 3M จึงพยายามพัฒนาให้ชิปมีราคาถูกลงโดยใช้ pentacene สำหรับเป็นวัสดุผลิตเซมิคอนดักเตอร์
นอกจากนั้นยังพยายามพัฒนาให้สามารถอ่านข้อมูลจากชิปได้ไกลขึ้นและพัฒนาผิวหน้าเป็นพลาสติกแทนแก้ว
ที่มา: https://securityfocus.com/columnists/169 (
https://www.technologyreview.com/articles/print_version/talbot0604.asp
(June 2004)
https://www.technologyreview.com/articles/print_version/prototype40704.asp (July/August 2004)
IT Digest เป็นวารสารอิเล็กทรอนิกส์
ที่จัดทำขึ้นเผยแพร่โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หากท่านสนใจเป็นสมาชิก หรืออ่านบทความย้อนหลัง
โปรดติดต่อเราได้ที่เว็บไซต์ https://digest.nectec.or.th/
(อยู่ระหว่างจัดทำ)
ที่ปรึกษา: ทวีศักดิ์ กออนันตกูล และ ชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล บรรณาธิการบริหาร: กัลยา อุดมวิทิต
กองบรรณาธิการ: ถวิดา มิตรพันธ์, รัชราพร นีรนาทรังสรรค์, จิราภรณ์ แจ่มชัดใจ, พรรณี พนิตประชา, อภิญญา กมลสุข และ จินตนา พัฒนาธรชัย
สงวนลิขสิทธิ์ (c) 2547 โดยเนคเทค