ผมขอใช้โอกาสนี้พูดถึงเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในปีใหม่นี้ และท่านควรจะเตรียมความพร้อมไว้เสมอ เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีผลกระทบต่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้ โดยผมขอนำบทความที่น่าสนใจจากนิตยสารบิสซิเนส 2.0 ที่พูดถึงเทคโนโลยีที่ต้องจับตามองในปีใหม่นี้ ซึ่งที่ผ่านมาอาจยังไม่ถึงเวลาเปิดตัวเต็มที่ แต่รับรองได้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะเริ่มออกสู่ตลาด และนำมาใช้ในปีใหม่นี้แน่ เรามาดูกันทีละเทคโนโลยีกันดีกว่า

1. เทคโนโลยีเครือข่ายภายในบ้าน (Ultra-wideband) เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้โทรทัศน์ของคุณสามารถส่งสัญญาณภาพจาก 3 รายการที่แตกต่างกันไปยังจอภาพอื่นๆ ได้ ด้วยพลังงานที่ต่ำ ต้นทุนที่ต่ำด้วยความเร็วในการส่งสัญญาณที่เร็วกว่า Wi-Fi ถึง 45 เท่า

2. เทคโนโลยีระบบการชี้เฉพาะด้วยคลื่นวิทยุ (Radio Frequency Indentification : RFID) จะถูกนำมาใช้ในระบบห่วงโซ่ธุรกิจ (ซัพพลายเชน) โดยผู้ค้ารายใหญ่อย่างวอล-มาร์ท สหรัฐ จะเป็นผู้เริ่มผลักดัน และจะส่งผลให้ผู้ผลิตและคู่ค้าทั้งหลายจะต้องติดตั้งระบบ RFID เหมือนกัน ลงบนภาชนะบรรจุ หรือกล่องบรรจุภัณฑ์ให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2548

3. เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไว-แมกซ์ (WiMax) ที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีใหม่นี้ เทคโนโลยีนี้สามารถที่จะรับส่งข้อมูล ภาพ เสียงที่ความเร็วสูงแบบไร้สาย ด้วยพื้นที่ครอบคลุมที่ไกลกว่า 30 กิโลเมตร เทคโนโลยีนี้จะเข้ามาแทนที่เทคโนโลยีสายเคเบิล หรือดีเอสแอล และจะทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตขยายวงกว้างมากขึ้น

4. เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าแบบเติม (Micro Fuel Cell) จะเข้ามาแทนที่การใช้แบตเตอรี่ของโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้นานถึง 10 ซั่วโมง โดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก แถบยังสามารถเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนหรือเมทานอลได้อีกด้วย

5. เทคโนโลยีแถบยึดตุ๊กแก (Gecko Tape) สัตว์เลื้อยคลานอย่างตุ๊กแก จิ้งจก จะปีนกำแพงหรือเกาะติดผนัง ด้วยแรงยึดเหนี่ยวของเส้นขนขนาดเล็กนับล้านของเท้า ด้วยหลักการนี้เองจึงมีนักวิทยาศาสตร์คิดค้นแถบยึดที่ปราศจากการใช้กาว เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่าง ถุงมือ ผ้าพันแผล ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ในปีหน้าแน่

6. ซอฟต์แวร์ป้องกันสแปมเมล์ (Antispam software) อีเมลสแปมได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ยิ่งกรอง ยิ่งป้องกันเท่าไร ก็ยิ่งมีอีเมลสแปมเข้ามาตลอดมากขึ้นทุกที เทคโนโลยี Challenge/ Response อาจจะเป็นคำตอบสุดท้าย หลักการคือผู้ส่งจะต้องแสดงตนก่อนที่จะส่งอีเมลทุกครั้งว่ามีตัวตนจริง ไม่ใช่การส่งมาจากเครื่องมือสแปมหรือซอฟต์แวร์ (Spambot) ผู้ใช้อีเมลเพื่อการสื่อสารก็จะหมดความรำคาญ และปัญหาที่จะเกิดจากสแปมลงได้

7. เทคโนโลยีจอภาพ OLED (Organic Light-Emitting Diode) เป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และจะเข้ามาแทนที่การแสดงหน้าจอด้วยเทคโนโลยีอื่นๆ เพราะสามารถส่องแสงได้ด้วยตัวของมันเอง โดยไม่ต้องอาศัยไฟ Back Light เข้าช่วย และยังประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและใช้พลังงานที่ต่ำ คาดว่าจะเราจะได้เห็นจอของโทรศัพท์มือถือเป็น OLED ทั้งหมดในอนาคตอันใกล้นี้

8. หลอดไฟ LED เทคโนโลยี LED (Light-Emitting Diodes) อาจเริ่มมีการใช้งานน้อยลง โดยเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ดีกว่าเข้ามาแทนที่ แต่ฟิลิปส์กลับนำเทคโนโลยี LED มาประดิษฐ์เป็นหลอดไฟที่สามารถให้ความสว่างเท่ากับหลอดไฟฟ้าที่ใช้ขดลวดภายใน แต่สามารถใช้งานได้นานกว่าถึง 10-50 เท่า และยังกินไฟน้อยกว่าอีกด้วย

9. เทคโนโลยีหน่วยความจำ MRAM (Magnetoresistive Random Access Memory) เทคโนโลยีนี้จะทำให้การทำงานของหน่วยความจำเร็วขึ้น กว่าการใช้แฟลช เมมโมรี่ถึง 1,000 เท่า หรือเร็วขึ้นกว่าการใช้ดีแรม (DRAM) ถึง 10 เท่า แถมยังใช้พลังงานที่น้อยกว่าอีกด้วย คงจะได้เห็น MRAM ในอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์เร็วๆ นี้แน่

10. เทคโนโลยีชีวสารสนเทศศาสตร์ (Bioinformatics) เป็นการจัดเก็บและการใช้ข้อมูลทางชีววิทยาอย่างเป็นระบบ รวมทั้งการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ มาใช้เพื่อการประมวลผลรูปแบบของโปรตีนที่มีความสลับซับซ้อน ทำให้การคิดค้นยารักษาใหม่ทำได้รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 30 ธันวาคม 2546