มงคล แก้วจันทร์

เทคโนโลยีสารสนเทศ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นเครื่องมือในการเรียน การสอน ที่เข้ามามีอิทธิพลกับระบบ เศรษฐกิจเป็นอย่างมาก มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว หน่วยงานหลายแห่งจะพบกับความกดดัน ในด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม ที่เพิ่มขึ้น ทั้งในการที่จะหาวิถีทางใหม่ๆ สำหรับการจัดทำการเรียน การสอน และในการที่จะลดอุปสรรค ทางด้านกฎระเบียบ การเงิน และทางเทคนิค ของระบบการศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Learning ให้น้อยลงกว่าที่หน่วยงานอื่น

โดยสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับการที่ระบบการศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์จะเป็นไปได้ในหน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาครัฐ และเป็นที่แพร่หลาย นั่นคือ การที่ระบบเครือข่ายมีเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการนำเสนอระบบการเรียน การสอน ที่น่าสนใจ เช่น การใช้เสียง การส่งสัญญาณวิดีโอตามความต้องการ (video on demand) และการประชุมผ่านสัญญาณวิดีโอ ขณะเดียวกัน ยังให้บริการที่เชื่อถือได้ และมีความเร็วสูง ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของอินทราเน็ต เอ็กซ์ทราเน็ต และอินเทอร์เน็ต และเมื่อถึงเวลาที่กระแสเทคโนโลยีไร้สายที่สามารถรับส่งข้อมูลความเร็วสูงเข้ามา จะส่งผลให้มีการผลักดันระบบการเรียน การสอน ออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพราะระบบเทคโนโลยีไร้สาย สามารถเข้าถึงระบบการเรียน การสอน แบบออนไลน์นี้ได้ทุกที่และเวลา

ส่วนด้านการลงทุนเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท และองค์กร ต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา เพิ่มจากสัดส่วนร้อยละ 5 ในปี พ.ศ.2513 มาเป็นประมาณเกือบร้อยละ 30 ในปี พ.ศ.2533 ในปี พ.ศ.2543 ค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 และความต้องการ กำลังคน ทางด้านนักคอมพิวเตอร์ของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยขณะนี้ มีตำแหน่งงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศว่างอยู่ถึงกว่า 350,000 ตำแหน่ง และจะเพิ่มเป็น 1.3 ล้านตำแหน่งที่ต้องการในปี พ.ศ.2549 นั่นหมายถึงการผลิตกำลังคน การเรียนการสอน ต้องได้พัฒนา และสร้างกำลังคนที่มีคุณภาพได้มากขึ้นและเร็วขึ้น เป็นข้อมูลจากบริษัทซิสโก้ในนิตยสารแพ็คเกจ

อี-เลิร์นนิ่ง เป็นหนทางหนึ่งของการพัฒนากำลังคน ด้านการสร้างการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนอะไรก็ได้ เรียนเวลาใดก็ได้ตามความเหมาะสม นิสิตนักศึกษา จะพอใจ กับการเรียนรู้ที่มีความอิสระและคล่องตัว ลดเวลาการเรียนรู้ได้มากกว่าร้อยละ 50 และเสียค่าใช้จ่าย น้อยกว่าระบบการสอนและฝึกอบรมแบบเดิมถึงร้อยละ 30-60 อย่างไรก็ตาม การใช้ อี-เลิร์นนิ่ง ยังอยู่ในยุคเริ่มต้น แต่จากการคาดคะเนพบว่า การประยุกต์ใช้ อี-เลิร์นนิ่ง ในองค์กร บริษัทต่างๆ ที่จะทำในเรื่องของการฝึกอบรมพนักงาน มีความต้องการสูงขึ้นมาก โดยมีสภาพการ ขยายตัวมากกว่าสองเท่าทุกๆ ปี โดยเฉพาะการเรียนการสอนผ่านทางอินเทอร์เน็ตจะเป็นเป้าหมายที่สำคัญ

สำหรับสถาบันการศึกษาต่างๆ ในปัจจุบัน ได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่าย การสนองตอบการเรียนรู้ จึงต้องเอื้ออำนวยให้ผู้เรียนได้ใช้ประโยชน์ หรือแสวงหาปัจจัยแห่งการเรียนรู้ได้ครบถ้วน การเรียกผ่านเครือข่ายเข้าสู่ทรัพยากรต่างๆ ต้องกระทำได้จากหน้าจอภาพของผู้ใช้ ตั้งแต่การเข้าสู่ชั้นเรียน การหยิบหนังสือ การนำเอาเอกสารคำสอน รูปภาพ ที่นำเสนอไป ทบทวนได้เอง สามารถทำแบบทดสอบ ประเมินผล ตลอดจนการแสวงหาเอกสารเพิ่มเติม กระทำได้จากหน้าจอของผู้เรียนเช่นกัน อี-เลิร์นนิ่ง จะเข้ามามีบทบาทที่สำคัญต่อการเรียนรู้ การสร้างทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ยังเป็นเรื่องสำคัญยิ่งของการพัฒนาประเทศในปัจจุบัน

การเรียนด้วยตนเองผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ในระบบการเรียน การสอนอะซิงโครนัสผ่านเวบ หลังจาก ที่มีการเรียนการสอนแบบปกติ หรือซิงโครนัสที่มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาเป็นเครื่องมือช่วยสอน จะมีการเก็บบันทึก การสอนทั้งหมดไว้ในรูปวิดีโอ และมัลติมีเดีย การเก็บสื่อเหล่านี้สามารถบรรจุลงในเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้ผู้เรียนเรียกดูภายหลังซึ่งเป็นการเรียนแบบอะซิงโครนัสต่อมา ในระบบอะซิงโครนัสผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ผู้เรียนสามารถเลือกศึกษาในสิ่งที่ตนเองสนใจได้ วิชาที่เปิดสอน มีโฮมเพจประจำวิชา มีระบบเวบบอร์ด เพื่อเป็นกระดานแสดงความคิดเห็น หรือใช้ถามตอบคำถามที่ไม่เข้าใจ มีการใช้อี-เมล์ หรือการโอนย้ายไฟล์เพื่อช่วยในการสื่อสารระหว่างผู้เรียน

การเรียนแบบอะซิงโครนัสโดยใช้เวบ เป็นเรื่องที่มีประโยชน์ และสามารถประยุกต์ได้ง่าย การสร้างเนื้อหาในรูปแบบเวบเพจมีลักษณะการแสดงผลได้ดี การเรียนการสอนผ่านเวบในรูปแบบ อะซิง โครนัส จึงเป็นวิธีที่ทำให้ผู้เรียนได้มีโอกาสได้ติดต่อกับผู้สอนมากขึ้น โดยไม่จำกัด เรื่องเวลา และสถานที่ ระบบเวบช่วยทำให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆ มีลักษณะที่เชื่อมโยงถึงกันเป็นเครือข่ายได้เป็นอย่างดี

เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้เราเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน ระยะทางที่ห่างไกล ได้ลดสั้นมา เสมือนการ นั่งอยู่ใกล้กัน การโต้ตอบและมีปฏิสัมพันธ์ปราศจากสิ่งกีดขวางใดๆ เนื้อหาสาระ ที่ผ่านการเรียน การสอนไปแล้ว ยังสามารถบันทึกเก็บไว้เพื่อเรียกใช้ได้ตามความต้องการ การเรียนการสอน ยังสร้างมิติใหม่ ทั้งใน แนวราบ และแนวดิ่ง แนวดิ่งเป็นการเรียนกับอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาการ แนวราบทำ ให้ระบบการเรียน เป็นแบบเครือข่าย ที่ทำให้เพื่อนช่วยเพื่อนได้เป็นอย่างดี บทบาทของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ระบบสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยี การจัดการข่าวสาร จะได้รับการพัฒนา ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ  (กรุงเทพไอที) ฉบับวันที่ 16 พฤษภาคม 2545