เมื่อยักษ์ใหญ่ขยับ สรรพสิ่งรอบกายย่อมสั่นสะเทือนตาม และเมื่อจีน ซึ่งเป็นประเทศ ที่มีประชากรใหญ่ เป็นอันดับหนึ่ง ของโลก ระดับ 1,300-1,400 ล้านคน เริ่มรุกในตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นในฐานะของผู้ซื้อ หรือผู้ขาย ทุกประเทศจึง จับจ้องอย่างไม่วางตา ทั้งในแง่ที่จะหาสินค้าเข้าไปป้อนตลาดอันมีอำนาจซื้อมหาศาล และในแง่ของคู่แข่งรายใหม่ ที่ต้องจับตามองเป็นสำคัญ

ดังนั้น ไม่น่าแปลกใจเลยที่ในงานซีบิท เอเชีย 2001 มุ่งหน้ายึดเซี่ยงไฮ้ เมืองท่าทางเศรษฐกิจ อันดับหนึ่งของจีน เป็นสถานที่จัดงานนอกประเทศเยอรมนีเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 8-11 สิงหาคม 2544 ที่ผ่านมา โดยใช้พื้นที่ 3 ชั้นของศูนย์แสดงสินค้า "เซี่ยงไฮ้ เอเวอร์ไบร์ท คอนเวนชั่น แอนด์ เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์" ซึ่งมีบริษัทไอที-โทรคมนาคม กว่า 500 แห่งจาก 23 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมงาน

ในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมานี้เซี่ยงไฮ้ได้จัดเตรียมเมืองใหม่ เพื่อรองรับการพัฒนา เศรษฐกิจยุคใหม่ที่ทันสมัย เป็นอย่างยิ่ง ในเขตปู่ด้ง (Puduang) เต็มไปด้วยอาคารสูงติดอันดับโลก ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี อันทันสมัย จากหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย หรือญี่ปุ่น ทั้งนี้ โดยลำพังของเซี่ยงไฮ้เองก็มีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ 17 ล้านคน ทั้งที่เป็นชาวเซี่ยงไฮ้เอง และผู้อพยพจากถิ่นอื่นๆ เข้ามาทำมาหากิน

ไต้หวันเล็งยึดตลาด

แม้ทางการเมืองจะเห็นว่า ไต้หวัน กับจีนค่อนข้างจะมีปัญหากันมาก แต่ในแง่เศรษฐกิจ หรือธุรกิจการค้าแล้ว กำแพงการเมืองดูจะไม่สูงพอขวางกั้นการติดต่อระดับธุรกิจของประชากรสองแห่ง ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก ผืนแผ่นดินเดียวกัน และใช้ภาษาเดียวกัน เห็นได้ชัดจากงานซีบิท เอเชีย ครั้งแรก มีบริษัทจากไต้หวัน เข้าไปออกบูธ แสดงสินค้ากันเป็นจำนวนมาก เหนือกว่าบริษัทจากประเทศอื่นๆ ด้วยจำนวน 180 บริษัท หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของผู้ร่วมงานทั่วโลก

สินค้าไต้หวันที่เข้าไปแสดงส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องกับระบบเครือข่าย และยังรวมถึงอุปกรณ์ เกี่ยวเนื่องกับ คอมพิวเตอร์อื่นๆ เช่น เมาส์ แผงวงจรรวม เป็นต้น "มันไม่น่าแปลกประหลาดเลย ที่มีบริษัทไต้หวันจำนวนมากเข้าร่วมงานแสดงสินค้าครั้งนี้ เพราะไต้หวันมีสมรรถนะ ด้านไอทีสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชีย" หลิน ซูเฟ่น ผู้บริหาร บริษัทซันนี่เทค อินฟอร์เมชั่น จำกัด โรงงานผู้ผลิต อุปกรณ์เครือข่ายกล่าว

ขณะที่นายเอช.เจ. วู ประธาน บริษัทลีโอ ซิสเต็มส์ อิงค์. ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์วางตัก และผู้รวบรวมระบบ รายหนึ่งแห่งไต้หวัน กล่าวว่า บริษัทไต้หวันเป็นโรงงานผลิตหลักของอุปกรณ์ด้านไอทีของแท้ และแต่ละแห่ง ไม่ยอมพลาดโอกาสที่มาเยือน

พาวิลเลียนเอเชีย

ขณะที่ประเทศในเอเชียอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ รวมทั้งไทยเอง ต่างแสดงพลัง เข้าร่วมงานนี้ กันคับคั่ง แต่ละประเทศจะส่งตัวแทนไปร่วมแสดงสินค้า โดยจัดเป็นศาลาประจำชาติของตัวเอง

นางศรีสุนันท์ หุ่นสุวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายต่างประเทศ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) กล่าวว่า ทศท. เข้าร่วมงานเพื่อเปิดช่องทางใหม่ๆ รับการเปิดเสรีที่จะมาถึงในอนาคตอันใกล้ เพราะเมื่อเปิดเสรีแล้ว ทศท. ก็ต้องทำธุรกิจเช่นบริษัทโทรคมนาคมอื่นๆ การออกนอกประเทศเท่ากับเป็นการแนะนำตัวว่า เป็นใคร ทำหน้าที่อะไร ปูทางสร้างโอกาสแห่งการทำธุรกิจโทรคมนาคมในอนาคต

กระนั้นแม้ในงานครั้งนี้ จะไม่ค่อยมีบริษัทขนาดใหญ่ ติดอันดับโลกเข้าร่วมแสดงสินค้า เช่นงานแสดงสินค้า ที่จัดขึ้นเป็นประจำ ตามภูมิภาคต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นซีบิท ฮานโนเวอร์ เยอรมนีเอง งานคอมเด็กซ์ สหรัฐอเมริกา งานคอมพิวเท็กซ์ (Computext) ไต้หวัน กระทั่งงานคอมมิวนิค เอเชีย สิงคโปร์ โดยบูธขนาดใหญ่ของกิจการ ด้านโทรคมนาคม คือ ซีเมนส์ หากก็เป็นการนำแนวคิดเอ็ม-บิสซิเนสเข้าไปแนะนำ และสาธิตเช่นที่เคย จัดมาแล้ว ในประเทศอื่นๆ

จุดเริ่มต้นธุรกิจ

นายวิเชียร เมฆตระการ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า โดยภาพรวมของงานแสดงสินค้าครั้งนี้ ไม่ได้มีเทคโนโลยีใหม่อันทันสมัยล่าสุดสนองตอบผู้ชื่นชอบเทคโนโลยี แต่เชื่อว่า นี่คือเวทีพบปะ เพื่อเริ่มต้นธุรกิจไอที โทรคมนาคมกับจีนที่สำคัญแห่งหนึ่ง สอดคล้องกับนายรอม หิรัญพฤกษ์ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ที่กล่าวว่า ในส่วนของซอฟต์แวร์นั้น จีนเพิ่งเริ่มได้ไม่เกิน 5 ปี จึงเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจ และหากประเทศไทยสามารถจับตลาดนี้ได้จะมีมูลค่ามหาศาล ซึ่งงานนี้เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ก็ได้นำบริษัทธุรกิจซอฟต์แวร์กว่า 20 แห่งเข้าร่วมงาน โดยจับคู่พบปะ กับธุรกิจต่างๆ ในจีนผ่านหอการค้าเยอรมนี

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้จะดำเนินธุรกิจกับจีนนั้น ต้องพึงระวังเรื่องของภาษาที่จะใช้สื่อสารระหว่างกัน เพราะชาวจีน ส่วนใหญ่ใช้ภาษาแมนดารินเป็นหลัก ไม่ค่อยมีผู้ใช้ภาษาต่างประเทศนัก แม้รัฐบาลจะจัดระบบ การศึกษาเป็นอย่างดี ด้วยการแบ่งกลุ่มนักศึกษาให้เรียนภาษาต่างประเทศกัน เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาเลียน แม้กระทั่งภาษาไทยเอง เฉพาะในงานซีบิท เอเชียครั้งนี้ตลอดทั้งงานจะเต็มไปด้วยภาษาจีน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เอกสารแจก หรือภาษาพูด

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ (กรุงเทพไอที) ฉบับวันที่ 16 สิงหาคม 2544