ปัจจัยบวกหนุนตลาดรถ โตโยต้าประเมิน ยอดพุ่ง 4.7 แสนคัน
ชี้วงการแข่งรุนแรง ประกาศขอส่วนแบ่ง 33%
นายเรียวอิจิ ซาซากิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์
ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2546 นี้
โตโยต้าคาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์โดยรวมของไทย จะขยายตัวต่อเนื่องต่อไป แม้จะไม่ใช่อัตราที่ร้อนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา
โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 15% เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2545 หรือคิดเป็นยอดขาย 4.7 แสนคัน "อุตสาหกรรมยานยนต์จะยังคงเป็นสาขานำในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยต่อไปในปี 2546
เนื่องจากมีปัจจัยบวกสนับสนุนตลาดหลายประการด้วยกัน"
นายซาซากิ กล่าวว่า
สำหรับปัจจัยดังกล่าวประกอบไปด้วย อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2546
ที่คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นจากปี 2545 นโยบายเศรษฐกิจมหภาคของไทย
จะยังคงเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคภาคเอกชน
รวมทั้งการใช้มาตรการเงินการคลัง (ภาษีและการใช้จ่ายในระดับรากหญ้า)
เพื่อสนับสนุนมาตรการการเงิน ในขณะที่เศรษฐกิจจะขยายตัวในบางสาขา
ที่รัฐบาลใช้นโยบายการตลาดเป็นตัวกระตุ้น
ในด้านผู้ประกอบการ บริษัทรถยนต์ต่างๆ
มีแผนในการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวในตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อขายต่อไป
ในขณะเดียวกันรถยนต์ที่มีการเปิดตัวในปีที่ผ่านมาหลายๆ รุ่น ก็ยังคงมีความร้อนแรงในตลาดต่อไป
ซึ่งทั้งหมดจะมีผลต่อการซื้อขายในตลาดรถยนต์ปีนี้ "นอกจากนั้นการแข่งขันของผู้ประกอบการในตลาดเชื่อว่าปีนี้จะมีความรุนแรงไม่แพ้ปีที่ผ่านมา
ทั้งการแข่งขันในด้านตัวสินค้าที่มีการพยายามนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
และการแข่งขันด้านการส่งเสริมการขายที่จะเพิ่มความเข้มขึ้นมากยิ่งขึ้นในปีนี้ โดยเฉพาะข้อเสนอทางด้านเงื่อนไขพิเศษในการเช่าซื้อ
ที่จะยังคงเป็นอาวุธสำคัญที่บริษัทรถยนต์นำมาใช้เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้อย่างสัมฤทธิผล"
นายซาซากิ กล่าวว่า สำหรับปัจจัยภายนอกเกี่ยวกับภาวะสงครามในอิรักที่ขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่
อาจจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในบางส่วน แต่อย่างไรก็ตามโตโยต้าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้นๆ
และจะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจของไทย รวมทั้งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มากนัก แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดต่อไป
นายซาซากิ กล่าวถึงแผนการตลาดของโตโยต้าในปีนี้ว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถครองตลาดรวมได้เป็นอันดับ
1
เป็นปีที่ 24 ติดต่อกันนั้น ดังนั้นในปีนี้จึงได้ตั้งเป้าการขายไว้
1.55 แสนคัน หรือเติบโตขึ้น 19% และมีส่วนแบ่งตลาด
33%
สำหรับด้านการผลิตในปีที่ผ่านมา
โตโยต้าผลิตรถยนต์โดยรวมไว้ทั้งสิ้น 1.7 แสนคัน เพื่อรองรับตลาดทั้งในประเทศและตลาดส่งออก
ซึ่งแบ่งเป็นการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 2.3 หมื่นคัน
คิดเป็นมูลค่า 4,534 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2544 ในอัตรา 95% ซึ่งรถที่ส่งออกรวมถึง โซลูน่า วีออส
ที่ส่งไปยังประเทศสิงคโปร์ ในเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา
นอกจากนั้นยังมีการส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่เพื่อการผลิตรถยนต์ (OEM, Parts) คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5,128 ล้านบาท
รวมการส่งออกทั้งสิ้นประมาณ 9,662 ล้านบาท นอกจากนั้นขณะนี้โตโยต้ายังอยู่ในช่วงการเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้กำลังการผลิตจากโรงงานประกอบ
รถยนต์ที่สำโรงเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกทั่วโลกในโครงการไอเอ็มวีซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงกลางปี
2547
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 15 มกราคม 2546
|