เอสวีโอเอ ชี้ปีนี้ "บันเทิง" กระตุ้นตลาดคอมพ์บ้านโต
ผนึกพันธมิตร
5 ประเทศดันคอมพ์ไทยเทียบชั้นแบรนด์ดัง
เอสวีโอเอ
ชี้ปีนี้เห็นจุดเปลี่ยนธุรกิจคอมพิวเตอร์สู่การเป็น "ดิจิทัล
โฮม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เซ็นเตอร์" หลังกระแสความนิยมเสพความบันเทิงผ่านพีซีมาแรง
ดันลูกค้ากลุ่มโฮมยูสขยายตัว เล็งเพิ่มกำลังการผลิตจาก 500
เครื่องต่อวัน เป็น 800 เครื่องต่อวัน รับตลาดรวมปีนี้โต 25%
นายวีระ อิงค์ธเนศ ผู้อำนวยการบริหาร
กลุ่มธุรกิจช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดคอมพิวเตอร์ในประเทศไทย กำลังมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ
โดยในปีนี้สัดส่วน 50% ของตลาดรวมประมาณ 1.4 ล้านเครื่อง จะเป็นการซื้อโดยลูกค้าที่ต้องการนำใช้งานที่บ้าน (โฮมยูส) จากเดิมที่ตลาดหลักอยู่ในกลุ่มองค์กรและสำนักงาน
ขณะที่ตลาดรวมคอมพิวเตอร์ของไทยในปีนี้จะขยายตัวเพิ่ม 25% โดยมีแรงผลักดันจากความต้องการใช้งานในกลุ่มโฮมยูส
จากปัจจัยสนับสนุน 3 ด้าน ได้แก่ การใช้งานด้านความบันเทิง (เอ็นเตอร์เทนเมนท์), การนำไปช่วยงาน และความต้องการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร
ตามลำดับ โดยเฉพาะในส่วนของปัจจัยด้านความบันเทิงนั้น
เริ่มเห็นอิทธิพลชัดเจนขึ้นช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ตามบทบาทและความแพร่หลายของสื่อบันเทิง เช่น ดีวีดี, เอ็มพี3
ที่แนวโน้มราคาปรับลดลงต่อเนื่อง ขณะที่เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
หรือโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ก็มีคุณสมบัติรองรับการใช้งานดังกล่าว "ต้องยอมรับว่า เมื่อก่อนนี้กว่าเราจะดูหนังผ่านคอมพ์ได้ ก็ต้องใช้เวลาดาวน์โหลดแต่ละเรื่องนานมาก
แต่วันนี้สามารถหาซื้อดีวีดีภาพยนตร์ได้ง่าย ในราคาไม่แพง และดูจากเครื่องคอมพ์ได้ทันที"
นายวีระกล่าว
ทางด้านการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการทำงานนั้น
ตัวอย่างที่ชัดเจน ได้แก่ ความนิยมของกล้องดิจิทัลที่มีสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้คอมพิวเตอร์เพื่อช่วยพรินต์ภาพถ่ายออกมา
เมื่อผู้บริโภคคล่องตัวขึ้น ก็สนุกกับการใช้งานมากขึ้น ส่วนการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อช่วยให้เข้าถึงข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตนั้น
มีแนวโน้มของการเข้าสู่ข้อมูล ที่จะทำให้เกิดการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น ทั้งการซื้อสินค้า-บริการผ่านเน็ต
(อี-คอมเมิร์ซ), ใช้จองตั๋ว,
หาข้อมูลและติดต่อด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
ชูคอนเซปต์ใหม่บุกตลาดครึ่งปีหลัง
นายวีระ กล่าวว่า จากแนวโน้มข้างต้น บริษัทจึงปรับแนวคิดในส่วนของธุรกิจจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์
โดยในครึ่งหลังของปีนี้ จะมุ่งไปสู่คอนเซปต์ของ "ดิจิทัล โฮม เอ็นเตอร์เทนเมนท์
เซ็นเตอร์" ที่ไม่ได้มองเพียงแค่การขายเครื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้น
แต่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของแพ็จเกจที่ครบชุด เพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่ต้องการใช้งาน
เพื่อความบันเทิงภายในบ้านได้ทันที โดยที่ผ่านมา
บริษัทมียอดจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ ภายใต้ชื่อยี่ห้อ "เอสวีโอเอ" ประมาณ 100,000 เครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งประมาณ 7% จากตลาดรวม ขณะเดียวกันมีแผนขยายกำลังการผลิตจากปัจจุบัน
500 เครื่องต่อวัน เป็น 800 เครื่องต่อวัน
ดัน "เอสวีโอเอ" เทียบชั้นแบรนด์โลก
นอกจากนี้ บริษัทยังมองถึงการเพิ่ม "ช่องทาง"
เพื่อผลักดันตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ "เอสวีโอเอ"
เนื่องจากมองเห็นถึงศักยภาพในการผสาน และต่อยอดจุดแข็งที่บริษัทสะสมประสบการณ์มากว่า
20 ปี ในธุรกิจไอที ทั้งในฐานะตัวแทนจำหน่าย, ผู้ร่วมทุนกับบริษัทข้ามชาติในอุตสาหกรรมด้านนี้ ตลอดจนบทบาทในฐานะผู้ผลิต
โดยวันนี้ (3 ส.ค.) บริษัทได้แถลงเปิดตัวความร่วมมือกับพันธมิตร 5
ประเทศ เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ของเอสวีโอเอ รุกตลาดเครื่องโลคัลแบรนด์ในประเทศเพื่อนบ้าน
ประกอบด้วย เนปาล, ลาว, อินโดนีเซีย,
พม่า, และศรีลังกา ก่อนหน้านี้ นายวีระ
เคยให้สัมภาษณ์ถึงแผนการขยายธุรกิจให้ครบ 5 ประเทศเป้าหมาย โดยเริ่มทำตลาดในลักษณะการรับจ้างผลิต
(โออีเอ็ม) ไปแล้วใน 2 ประเทศ ได้แก่ เนปาลและลาว
รวมทั้งอยู่ในขั้นตอนเจรจากับพันธมิตรในอินโดนีเซีย, บังกลาเทศ,
ศรีลังกา และปากีสถาน
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 3 สิงหาคม 2547
|