ซันชูกลยุทธ์ 'คิดค่าไลเซ่นตามจำนวนคน'
เล็งบุกตลาดกำลังพัฒนา
ซัน เปิดปฏิบัติการรุกคืบตลาดประเทศกำลังพัฒนา
ใช้นโยบาย "คิดค่าไลเซ่นตามจำนวนคน" เป็นจุดขาย
ระบุเป็นการเจาะธุรกิจภาครัฐเป็นครั้งแรก พร้อมนำร่องชิมลางจีน ไทย และอินเดีย
ขณะที่เผยโฉมจาวา เดสก์ท็อปตามคาด ส่วนนักวิเคราะห์เชื่อ
ปรับตัวรับกระแสฮิตโอเพ่นซอร์ส-มาตรฐานเปิด
นายโจนาธาน ชวาร์ทซ์
ประธานและหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ (ซีโอโอ) ของบริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์
เปิดเผยที่งานซันเน็ตเวิร์ค ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันพุธ (2 มิ.ย) ว่า ทางบริษัทจะใช้ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหประชาชาติในการกำหนดราคาค่าบริการ
ตามกลยุทธ์การให้เช่าสิทธิบัตร (ไลเซ่น) ซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรธุรกิจแบบใหม่ ซึ่งอิงอยู่กับจำนวนประชากร
และมีเป้าหมายทำตลาดกับประเทศกำลังพัฒนา
"แผนกำหนดราคาใหม่ที่ว่านี้
จะช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนา จ่ายเงินเพียง 0.33-1.99 ดอลลาร์
ต่อคนต่อปี เพื่อใช้ซอฟต์แวร์จาวา เอ็นเตอร์ไพรซ์ ซิสเต็ม (Java Enterprise
System) โดยจะใช้จำนวนประชากร และระดับการพัฒนาแต่ละชาติ ตามการประเมินของสหประชาชาติเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา"
นายโจนาธาน กล่าว ทั้งนี้ ซัน จะเริ่มนำโมเดลกำหนดราคาใหม่
ไปใช้ในการจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์จาวา เอ็นเตอร์ไพรซ์ เวอร์ชั่นใหม่
ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถให้บริการอีเมล ยืนยันตัวตน และบริการอินเทอร์เน็ตอื่นๆ ได้
และจะเน้นเจาะตลาดประเทศกำลังพัฒนา อย่าง จีน ไทย และอินเดีย
แต่ยังไม่มีแผนจะใช้กลยุทธ์ราคาที่คล้ายคลึงกันนี้ในประเทศพัฒนาแล้ว อย่าง
ออสเตรเลีย
สำหรับการคิดค่าบริการนั้น
ประเทศที่มีประชากรระหว่าง 50-100 ล้านคน จะเก็บค่าบริการ 44 เซนต์ต่อประชากร 1 คนต่อปี
ส่วนประเทศที่มีประชากรมากกว่า 100 ล้านคน จะเสียค่าบริการ 33 เซนต์ต่อคนต่อปี และใช้ได้กับรัฐบาลทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศ
ปฏิบัติการลูบคมไมโครซอฟท์
ความเคลื่อนไหวของซันข้างต้น ซึ่งคล้ายคลึงกับการกำหนดราคาซอฟต์แวร์องค์กรธุรกิจของไมโครซอฟท์
ที่มีราคาเริ่มต้นเฉลี่ย 250 ดอลลาร์นั้น เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ขยายบริการของบริษัท
ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ และบริการสนับสนุนลูกค้าในรูปแบบสมาชิก
ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยในส่วนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ทางซัน
จะขายระบบสตอร์เอดจ์ 9980 (StorEdge 9980) ระดับบนให้กับลูกค้า
ในราคา 1.95 ดอลลาร์ต่อกิกะไบต์ต่อเดือน สำหรับการสมัครเป็นสมาชิก
3 ปี และชุดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา จาวา เอ็นเตอร์ไพรซ์ ดีเวลลอปเปอร์
โปรโมชั่น (Java Enterprise Developer Promotion) ซึ่งทำงานบนระบบปฏิบัติการโซลาลิส
และรวมไว้ในเครื่องแม่ข่ายขนาดเล็กรุ่นล่าสุดของซัน ในราคา 1,499 ดอลลาร์ต่อปี
เผยโฉมจาวาเดสก์ท็อปตามคาด
ในงานเดียวกันนี้ ซัน ยังได้เปิดตัว?จาวา เดสก์ท็อป
ซิสเต็ม? (Java Desktop System) ระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเวอร์ชั่นสอง
ตามความคาดหมาย โปรแกรมดังกล่าว รันบนลินิกซ์ และประกอบด้วยชุดโปรแกรมสตาร์ออฟฟิศ และเบราเซอร์โมซิลลา
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบ สามารถควบคุมการทำงานได้จากระยะไกล
ขณะที่ยังสนับสนุนภาษาเกาหลี ญี่ปุ่น และบราซิล โดยซัน
วางแผนจะใช้แข่งขันกับซอฟต์แวร์ออฟฟิศ เดสก์ท็อป และวินโดว์สของไมโครซอฟท์
ด้านนักวิเคราะห์ ให้ความเห็นว่า
การเปลี่ยนแปลงของซันในครั้งนี้ เป็นการปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส
และคอมพิวเตอร์แม่ข่ายราคาถูกกันมากขึ้น หลังจากขาดทุนต่อเนื่องกันหลายปี เนื่องจากองค์กรธุรกิจส่วนใหญ่
ใช้นโยบายประหยัดค่าใช้จ่าย ประกอบกับบริษัทโทรคมนาคม และธุรกิจดอทคอม
ก็ซบเซาอย่างหนัก
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 4 มิถุนายน 2547
|