โตเกียว - โซนี่เปิดแผนลดการใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 90% และลดซัพพลายเออร์จาก 4,700 รายเหลือ 1,000 ราย เพื่อเพิ่มส่วนต่างกำไร และลดค่าใช้จ่าย

โซนี่ คอร์ป ค่ายอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำญี่ปุ่นเปิดเผยว่า มีแผนจะลดจำนวนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้กับผลิตภัณฑ์บริษัทประมาณ 90% จาก 840,000 ตัว เหลือ 100,000 ชิ้น ภายในสิ้นปี 2548 รวมถึงจะเลือก และทำฐานข้อมูลชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 20,000 ชิ้น เพื่อใช้เป็นชิ้นส่วนมาตรฐานของบริษัท แผนดังกล่าวมีขึ้นควบคู่กับความพยายามลดจำนวนซัพพลายเออร์ป้อนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จาก 4,700 ราย เหลือ 1,000 ราย โดยมีเป้าหมายเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านการพัฒนาชิ้นส่วน และกระบวนการผลิต รวมถึงเพื่อเพิ่มส่วนต่างกำไรในธุรกิจผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และให้วิศวกรบริษัทซึ่งเป็นผู้ออกแบบชิ้นส่วนดังกล่าว เพิ่มความทุ่มเทกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มที่น่าสนใจมากขึ้น

ในช่วงไตรมาสแรกของบริษัทซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โซนี่มีกำไรสุทธิลดลง 98% เหลือ 1,100 ล้านเยน (9.9 ล้านดอลลาร์) ขณะยอดขายลด 6.9% เท่ากับ 1.6 ล้านล้านเยน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากอุปสงค์โทรทัศน์หลอดภาพที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ปัญหาดังกล่าวทำให้บริษัทเห็นความจำเป็นต้องกระตุ้นธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลัก เพื่อเพิ่มส่วนต่างกำไรมากขึ้น โดยตั้งเป้าเพิ่มอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินธุรกิจและยอดขาย ไม่รวมธุรกิจการเงิน ในระดับกว่า 10% ภายในสิ้นเดือน มี.ค.ปี 2550 ขณะหากประเมินจากผลประกอบการของปีงบการเงินที่สิ้นสุดเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทมีสัดส่วนกำไรเพียง 2.5%

ทั้งนี้ ธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของโซนี่ต้องเผชิญการแข่งขันมากขึ้นในตลาดที่ครั้งหนึ่งโซนี่สามารถตั้งราคาค่าพรีเมียร์ให้กับสินค้าในระดับเหนือกว่าคู่แข่ง และเพื่อกลับไปสู่จุดดังกล่าว โซนี่กำลังร่างแผนปรับโครงสร้างในธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจครอบคลุมถึงการรวมฐานการผลิตและการลดพนักงาน โดยบริษัทมีกำหนดประกาศรายละเอียดแผนปลายเดือน ต.ค. นี้  ก่อนหน้านี้ ค่ายโตชิบา ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของญี่ปุ่นก็ประกาศเตรียมลดจำนวนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ลงเช่นกัน ในสัดส่วน 20%

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 8 ตุลาคม 2546