เอสเอพีออกโปรแกรมรุกตลาดองค์กรขนาดใหญ่-เอสเอ็มอี
เอสเอพี สบช่องลูกค้าต้องการลงทุนอีอาร์พี - ซีอาร์เอ็ม -
เอสซีเอ็ม รุกคืบรอบด้าน
เล็งออกโปรแกรมสร้างพันธมิตรระดับโลกจับองค์กรขนาดใหญ่ และพัฒนาโปรแกรมเฉพาะตลาดเอสเอ็มอี
นายพงษ์ศักดิ์ วรสายัณฑ์ ผู้จัดการฝ่ายขาย
บริษัทเอสเอพี ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปีนี้
บริษัทเร่งขยายธุกิจในองค์กรขนาดใหญ่ ทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ ซึ่งลูกค้าไทยกว่า 250
บริษัทที่ใช้ระบบบริหารทรัพยากรองค์กร (อีอาร์พี) ของบริษัท มีแนวโน้มลงทุนทำระบบบิสซิเนส อินทิลิเจนท์ (บีไอ) ที่จะสามารถดึงข้อมูลจากอีอาร์พีที่มีอยู่มาใช้เพื่อการตัดสินใจของผู้บริหาร
รวมถึงการลงทุนระบบการจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (ซีอาร์เอ็ม)
และระบบจัดการห่วงโซ่อุปทาน (เอสซีเอ็ม)
ด้วย
ขณะที่ลูกค้าใหม่นั้น
ยังมีรัฐวิสาหกิจที่ต้องแปรรูปลงทุนระบบอีอาร์พีด้วย เช่น การสื่อสารแห่งประเทศไทย
(กสท.)
ที่บริษัทชนะประมูลโครงการมูลค่า 300 ล้านบาท รวมถึงการประปานครหลวง
การปะปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่กำลังเปิดประมูล "คาดว่ามูลค่าโครงการจัดซื้อระบบอีอาร์พี ปีนี้ ไม่ต่ำกว่าหลายพันล้านบาท"
ทั้งนี้การลงทุนจัดซื้อระบบอีอาร์พีของลูกค้าใหม่มีแนวโน้มจะลงทุนติดตั้งระบบบิสซิเนส
อินทิลิเจนท์ควบคู่ไปด้วย เพราะปัจจุบันราคาเทคโนโลยีต่ำลง และติดตั้งง่าย ลดความล้มเหลวโครงการลงมาก
นอกจากนั้น บริษัทยังได้รับอานิสงส์จากนโยบายอี-กอฟเวิร์นเม้นท์ ทำให้หน่วยรัฐลงทุนจัดซื้อระบบซัพพลายเออร์
รีเลชั่นชิป แมเนจเม้นท์ (เอสอาร์เอ็ม) ที่ทำตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-มาร์เก็ตเพลส) ซึ่งล่าสุดบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด
(มหาชน) ลงทุนจัดซื้อระบบไปแล้ว
ด้านนายวิชัย สุขในใบบุญ ผู้จัดการลูกค้า
บริษัทเดียวกัน กล่าวว่า ราวไตรมาส 3 นี้ บริษัทจะประกาศโปรแกรมการทำงานที่จะสร้างพันธมิตรธุรกิจ
(สแตรทิจิก อะลายแอนซ์) ระดับโลกที่มีอยู่ให้ชัดเจนมากขึ้น
ทั้งการกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอุตสาหกรรมร่วมกัน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ติดตั้งระบบลูกค้า
คาดว่าจะทำให้บริษัทเพิ่มรายได้จากพันธมิตรมากขึ้น จากปัจจุบันมีรายได้จากการขายตรง
90% "ที่ผ่านมาบริษัทมีพันธมิตรที่ปรึกษาระดับโลกทั้งไอบีเอ็ม
แอคเซนเจอร์ ไพร้ส์วอเตอร์เฮ้าส์ ดีลอยท์ ในลักษณะความร่วมมือเป็นโครงการไป"
นายวิชัย กล่าว
ทั้งปีหน้า บริษัทยังมีแผนจะออกระบบงานสำหรับตลาดวิสาหกิจขนาดเล็กและกลางโดยเฉพาะที่พัฒนาสำหรับตลาดไทย
ในชื่อ "เอสเอพี บิสซิเนส วัน" ซึ่งคาดว่าจะจับตลาดดีลเลอร์อุตสาหกรรมรถยนต์
และซัพพลายเออร์ที่จะป้อนสินค้าให้กับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ในธุรกิจคอนซูเมอร์
โปรดักส์ "ปัจจุบัน โซลูชั่นบิสซิเนส วัน
ทำแล้วในอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และจีน โดยการพัฒนาให้เหมาะสมกับตลาดแต่ละประเทศ
จะทำที่ทีมวิจัยและพัฒนาของบริษัทแม่ และลำดับความเร่งด่วนที่ขึ้นกับขนาดตลาดของแต่ละประเทศ"
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
สำหรับปีที่แล้ว บริษัทมีรายได้ราว 300 ล้านบาท
หรือ 7 ล้านยูโร เติบโตจากปี 44 ประมาณ
18% ขณะที่ไตรมาสแรกยอดขายเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 29 เมษายน 2546
|