ฟิลิปส์ เล็งเพิ่มกำลังผลิตไอซีสำหรับสมาร์ทการ์ด
ชูความพร้อมร่วมประมูลโครงการบัตรประชาชนไฮเทค
ฟิลิปส์ เล็งขยายกำลังการผลิตภายในกลางปีหน้า
ชูไทยเป็นฐานประกอบและทดสอบวงจรรวม (ไอซี) สำหรับสมาร์ทการ์ดแห่งใหญ่ที่สุดของฟิลิปส์ทั่วโลก พร้อมชี้นโยบายอี-กอฟเวิร์นเม้นท์ ดันตลาดเอเชียแปซิฟิกโต
แหล่งข่าวจากบริษัท ฟิลิปส์ เซมิคอนดัคเตอร์ (ประเทศไทย)
จำกัด กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตในสายผลิตภัณฑ์การประกอบวงจรรวม
(ไอซี) สำหรับสมาร์ทการ์ด
ทั้งแบบบัตรที่ไม่ต้องใช้เครื่องอ่าน (คอนแทคเลส) และบัตรที่ผสานเทคโนโลยีทั้งแบบใช้กับเครื่องอ่าน
และไม่ใช้เครื่องอ่านบัตร (ไฮบริด ซิสเต็ม)
ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้มีกำลังผลิตประมาณ 80%
ของกำลังการผลิตทั้งหมด แบ่งเป็น วงจรรวมสำหรับการผลิตบัตรแบบไฮบริด ซิสเต็ม จำนวน
75,000 ชิ้นต่อวัน และอีก 350,000 ชิ้นต่อวัน
สำหรับบัตรที่ไม่ต้องใช้เครื่องอ่าน
โดยบริษัทจะรับแผ่นเวเฟอร์แฟบจากโรงงานแห่งอื่นๆ
ของฟิลิปส์ทั้งในเอเชีย เช่น สิงคโปร์ และยุโรป รวมถึงตัวชิพ ด้วย เพื่อนำมาประกอบและทดสอบเป็นวงจรรวมในประเทศไทย
เล็งเจาะตลาดภาครัฐ
นายอาร์เธอร์ พ็อก ผู้จัดการฝ่ายขายและตลาด
บริษัท ฟิลิปส์ เซมิคอนดัคเตอร์ สิงคโปร์ กล่าวว่า
บริษัทเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของการใช้งานบัตรสมาร์ทการ์ด ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
โดยเฉพาะนโยบายรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ที่สนับสนุนให้ประชาชนใช้บัตรสมาร์ทการ์ดเพื่อระบุตัวตน
และเข้าใช้บริการออนไลน์ของรัฐ
ขณะที่ ในประเทศไทยเอง
ก็มีโครงการบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด ของกรมการปกครอง ซึ่งบริษัทก็สนใจจะเข้าประมูลผ่านทางพันธมิตร
นอกจากนี้ ยังมีโอกาสทางการตลาดจากโครงการด้านอี-เปย์เม้นท์ หรือการใช้บัตรสมาร์ทการ์ดทำธุรกรรมออนไลน์ได้
ในตลาดธนาคาร ทั้งนี้ ฟิลิปส์ เป็นทั้งผู้ผลิตชิพที่ใช้ในบัตรสมาร์ทการ์ด
และชิพที่ใช้ในเครื่องอ่าน
"เป้าหมายของเราเน้นตลาดที่กำลังเติบโตในอีก
3-5 ปีข้างหน้า ทั้งการใช้งานธุรกรรมการเงิน (แบงกิ้ง) โดยเฉพาะร่วมกับวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด ด้านระบบอี-เปย์เม้นท์ ซึ่งตลาดนี้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 43%
เติบโตเฉลี่ย 34% ตลาดอี-กอฟเวิร์นเม้นท์
และตลาดขนส่งคมนาคม ทั้งการชำระค่าทางด่วน ค่าผ่านทาง เป็นต้น" นายพ็อก กล่าว ทั้งนี้
เขามองว่าปัจจุบันยอดขยายตัวของการใช้ชิพในโทรศัพท์เคลื่อนที่ "เริ่มนิ่ง" โดยจากตลาดรวมการใช้งานสมาร์ทการ์ด 900 ล้านชิ้นต่อปีนั้น สัดส่วน 50% เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่
เฉพาะตลาดนี้ฟิลิปส์โตเฉลี่ย 20%
ขณะที่ ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาระดับโลก ฟรอสต์
แอนด์ ซัลลิแวน ได้ประมาณการบริโภคสมาร์ทการ์ดทั่วโลกในปี 2548 ไว้ที่ 2.4 พันล้านบัตร หรือเติบโตเฉลี่ย 54% เทียบกับปี 2545 ตลาดอยู่ที่กว่า 850 ล้านบัตร โดยมีแนวโน้มการใช้บัตรแบบผสม
และบัตรแบบไม่ต้องผ่านเครื่องอ่านมากขึ้น จากข้อดีของระบบความปลอดภัย
และความสะดวกของผู้ใช้งาน
ด้านนายวิค ที
ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย)
จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจเซมิคอนดัคเตอร์
ทำรายได้ให้ในสัดส่วน 25% จากรายได้รวมของบริษัทจำนวน 150 ล้านยูโร และสัดส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจหลอดไฟ, เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือน
และเครื่องมือแพทย์
ชูไทยฐานสมาร์ทการ์ดใหญ่ของฟิลิปส์
ขณะที่ นายดั๊ก แซมสัน รองประธานบริษัท ฟิลิปส์
เซมิคอนดัคเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
ฐานการประกอบและทดสอบวงจรรวมในด้านสมาร์ทการ์ด ของโรงงานแห่งนี้ ถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในกลุ่มฟิลิปส์ทั่วโลก
และบริษัทมีแผนนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าของการทำแพ็คเกจจิ้งไอซี ซึ่งแนวโน้มบรรจุภัณฑ์ไอซีจะมีขนาดเล็กลง
(ชิพ สเกล แพ็คเกจ) โดยคาดว่าในปีนี้สถานการณ์อุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์จะเติบโตขึ้น
ในระดับเดียวกับปี 2543 หลังจากการชะลอตัวในปี 2544-2545
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 15 สิงหาคม
2546
|