โนเกียส่ง "เอ็ม2เอ็ม" ตีตลาดมะกัน
เทคโนโลยีเอ็ม2เอ็ม
ของโนเกียประสบความสำเร็จในตลาดสหรัฐ ชูจุดเด่นใช้เครือข่ายมือถือส่งสัญญาณกับระบบคอมพิวเตอร์
พร้อมระบุช่วยควบคุมเครื่องจักร และสินค้าคงคลังจากระยะไกล รวมทั้งยังลดค่าติดตั้งและซ่อมบำรุงได้มหาศาล
สำนักข่าวซีเน็ต
รายงานโดยอ้างคำกล่าวตัวแทนบริษัทโนเกียว่า อุปกรณ์ในสายผลิตภัณฑ์ เอ็ม2เอ็ม
หรือเทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ (machine-to-machine networks-M2M) เป็นฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถส่งข้อมูล หรือส่งสัญญาณเตือน
ไปยังเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขององค์กร หรือแม้แต่โทรศัพท์เคลื่อนที่ของเจ้าหน้าที่ได้โดยอัตโนมัติ
อาทิ ข้อมูลเกี่ยวกับความผิดพลาดของเครื่องจักร หรือข้อมูลสินค้าคงเหลือในสต็อก นายคีธ
โนวัค โฆษกบริษัทโนเกีย เปิดเผยว่า อุปกรณ์ดังกล่าวจะมีขนาดเล็ก และผู้ใช้สามารถนำไปติดตั้งไว้ที่เครื่องจักร
เพื่อให้เครื่องสามารถรับส่งสัญญาณได้ โดยจะวางจำหน่ายราวเครื่องละ 250-350 ดอลลาร์
เครือข่ายเอ็ม2เอ็มนี้ พัฒนาขึ้นเพื่อปฏิบัติการร่วมกับระบบตรวจสอบระยะไกลในปัจจุบัน
ซึ่งใช้เครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานในการส่งสัญญาณ และคาดว่าอาจมีการนำมาใช้แทนอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต
ด้านนักวิเคราะห์ กล่าวว่า ระบบเอ็ม2เอ็มไร้สาย จะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งต่ำกว่า
เนื่องจากไม่จำเป็นต้องลากสายโทรศัพท์เป็นระยะไกล เพื่อเชื่อมโยงสำนักงานที่อยู่ห่างกันมาก
นอกจากนี้ ยังสามารถซ่อมแซมข้อบกพร่องย่อยๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ลูกข่าย ได้จากระยะไกล
ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมลงมาก ขณะที่ระบบโทรศัพท์พื้นฐานต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบ
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน บริษัทยักษ์ใหญ่จำนวนมาก รวมทั้งฮิวเลตต์-แพคการ์ด, ไอบีเอ็ม และอินเทล
ต่างสนใจผลิตอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ขณะที่ผู้ให้บริการเครือข่าย เอที
แอนด์ ที ไวร์เลส ได้อนุมัติให้อุปกรณ์เอ็ม2เอ็มใช้เครือข่ายของตนแล้ว
ตัวแทนบริษัทโนเกีย เปิดเผยว่า ระบบเอ็ม2เอ็ม
ส่งสัญญาณผ่านเครือข่ายจีพีอาร์เอส (GPRS) และกำลังพัฒนาระบบที่ใช้เครือข่ายซีดีเอ็มเอ
(Code Division Multiple Access-CDMA)
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 21 พฤศจิกายน 2545
|