โนเกียจับซอฟต์แวร์แบล็คเบอรี่ใส่มือถือ
ฉุดบริษัทริมแจ้งเกิดในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่
โนเกียประกาศข้อตกลงกับรีเสิร์ซ อิน โมชั่น นำซอฟต์แวร์แบล็คเบอรี่ มาใช้ในโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใหม่
พร้อมวางแผน นำออกจำหน่ายทั่วโลกต้นปีหน้า ขณะที่ควงแขนเทรนด์ ไมโครพัฒนาอุปกรณ์ต่อต้านไวรัส
สแกนอีเมลและอัพเดท โปรแกรมตรวจจับได้โดยอัตโนมัติ
หนังสือพิมพ์เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล
รายงานโดยอ้างตัวแทนบริษัท โนเกีย คอร์ป. ว่า ได้รับใบอนุญาตจากบริษัทรีเสิร์ซ
อิน โมชั่น หรือริม ซึ่งเป็นเจ้าของอุปกรณ์พกพาไร้สายแบล็คเบอรี่ (BlackBerry)
ให้ทางบริษัทสามารถใช้และขายซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์แบล็คเบอรี่พร้อมกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้
แต่ไม่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขด้านการเงิน ข้อตกลงดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทริมเข้าถึงตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัทโนเกียได้
ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ลูกค้าของบริษัทโนเกียสามารถใช้บริการอีเมลของบริษัทริมได้
นายอีริค แอนเดอร์สัน รองประธานอาวุโสแผนกโมบาย
โฟนส์ของบริษัทโนเกีย กล่าวว่า ในฐานะผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำของโลก ทางบริษัทเข้าใจดีถึงอำนาจที่เกิดขึ้นหลังรวมคุณสมบัติรับส่งข้อความ
และโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้าไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกค้ากลุ่มองค์กร นักวิเคราะห์
กล่าวว่า บริษัทริม จะได้รับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามข้อตกลงที่ทำร่วมกับบริษัทโนเกีย
ส่วนใหญ่เป็นรายได้ที่เกิดจากผู้ให้บริการซึ่งซื้อเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่รองรับการใช้งานแบล็คเบอรี่มาใช้ ด้านนายจิม บัลซิลลี
ประธานและหัวหน้าฝ่ายบริหารร่วมบริษัทริม เปิดเผยว่า โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องแรก
ซึ่งใช้ซอฟต์แวร์แบล็คเบอรี่ คือ โนเกีย 6800 และมีกำหนดการจะวางขายในตลาดทั่วโลกประมาณไตรมาสแรกของปี
2546
ส่วนนายมาร์ค กิลเบิร์ต
รองประธานฝ่ายจัดการชื่อผลิตภัณฑ์ของบริษัทริม กล่าวว่า การร่วมมือกับบริษัทผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ของโลก
จะผลักดันให้บริษัทสามารถสร้างรายได้จำนวนมหาศาลได้แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์
พร้อมเสริมว่า โทรศัพท์เคลื่อนที่โนเกียรุ่นดังกล่าว จะเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกที่บรรจุลูกเล่นอีเมล
ตรงข้ามกับอุปกรณ์แบล็คเบอรี่เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์อีเมลเครื่องแรกที่มาพร้อมกับคุณสมบัติการใช้งานเป็นมือถือ ขณะที่ นายแบรี่ ริชาร์ดส์ นักวิเคราะห์บริษัท
ซีไอบีซี เวิลด์ มาร์เก็ตส์ ให้ความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ของบริษัทริมเป็นข้อตกลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท
พร้อมเสริมว่า จะช่วยให้อุปกรณ์แบล็คเบอรี่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยคาดว่า รายได้ซึ่งเกิดจากข้อตกลงดังกล่าวในช่วงปีแรก
จะอยู่ที่ 10-25 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 100 ล้านดอลลาร์ หลัง 5 ปีผ่านไป
ผลิตอุปกรณ์ต้านไวรัส
พร้อมกันนี้ บริษัทโนเกีย
ยังได้ร่วมมือกับบริษัทเทรนด์ ไมโคร พัฒนาระบบสแกนอีเมล ซึ่งสามารถตรวจสอบอีเมล และอัพเดทระบบตรวจจับไวรัสได้เองโดยอัตโนมัติ
นายแดน แมคโดนัลด์ รองประธานฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ของโนเกีย ชี้แจงว่า ในปัจจุบัน
ผู้ใช้จะต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ชนิดต่างๆ ไว้ในเครื่องแม่ข่ายรับส่งอีเมล ซึ่งทำให้ดูแลรักษาระบบได้ยาก
ขณะที่เทคโนโลยี "โนเกีย แมสเสจ โพรเทคเตอร์" (SC6600) จะติดตั้งอยู่รอบเครือข่าย
และทำการตรวจอีเมลทุกฉบับที่ผ่านเข้ามา ทั้งนี้ ทางบริษัทจะสามารถวางจำหน่ายอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายดังกล่าวได้ในช่วงต้นปีหน้า
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 12 พฤศจิกายน 2545
|