ไมโครซอฟท์แก้วินโดว์สเปิดทางติดตั้งซอฟต์แวร์คู่แข่ง
วอชิงตัน - ไมโครซอฟท์ตกลงเพิ่มไอคอน
ติดตั้งซอฟต์แวร์คู่แข่งบนหน้าจอวินโดว์ส เน้นโปรแกรมท่องเน็ต-ฟังเพลง-ชมภาพยนตร์ ด้านศาลอุทธรณ์รับลูกตั้งข้อสงสัยคำตัดสินศาลชั้นต้น
ชี้ไม่มีสิทธิออกคำสั่งนอกเหนือคดีผูกขาด
สำนักข่าวเอพี รายงานว่า บริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป. ได้ตกลงดำเนินการแก้ไขระบบปฏิบัติการวินโดว์สเพิ่มอีกเล็กน้อย
เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้ซอฟต์แวร์จากบริษัทคู่แข่งสำหรับท่องอินเทอร์เน็ต ฟังเพลง
และรับส่งข้อความทันใจได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้เป็นไปตามคำขอของรัฐบาลสหรัฐ
แหล่งข่าววงในรายหนึ่ง เปิดเผยว่า
ซอฟต์แวร์วินโดว์สจะติดตั้งไอคอนของโปรแกรม "เซ็ต โปรแกรม แอคเซส แอนด์
ดีฟอลท์" (Set Program Access and Defaults) ให้มีความเด่นสะดุดตามากขึ้น
โดยโปรแกรมดังกล่าวจะช่วยให้ผู้บริโภคกำหนดได้ว่า จะใช้ซอฟต์แวร์ของบริษัทใดในการรับส่งอีเมลและข้อความทันใจ
รวมทั้งท่องอินเทอร์เน็ต, ฟังเพลง และชมภาพยนตร์ รวมทั้งระบุวิธีการใช้โปรแกรมอย่างละเอียด
ผู้เชี่ยวชาญ เปิดเผยว่า การจัดวางไอคอนในรูปแบบใหม่จะช่วยให้ผู้ใช้สั่งงานโปรแกรมดังกล่าวได้โดยการคลิกเมาส์เพียงครั้งเดียว
และสามารถมองเห็นไอคอนได้ทุกครั้งที่กดปุ่ม "สตาร์ท" ในวินโดว์ส ขณะที่ปัจจุบัน ไอคอนของโปรแกรมนี้ได้รับการติดตั้งในส่วนเมนูย่อยซึ่งอยู่ลึกเข้าไปอีกหนึ่งขั้น
ที่ผ่านมา โปรแกรมที่ได้รับการแก้ไขภายใต้ข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรม จะรวมอยู่ในชุดอัพเดทระบบปฏิบัติการวินโดว์ส
"เซอร์วิส แพ็ค" (service pack) ซึ่งไมโครซอฟท์ได้เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังไม่ยืนยันว่า
จะผนวกโปรแกรมแก้ไขครั้งนี้ลงในเซอร์วิส แพ็ค รุ่นล่าสุด ที่มีกำหนดเปิดตัวในปลายปีนี้หรือไม่
ขณะเดียวกัน ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีไมโครซอฟท์
ได้แสดงความข้องใจต่อคำตัดสินของศาลชั้นต้น ที่สั่งให้ไมโครซอฟท์บรรจุโปรแกรมภาษาจาวา
ของซัน ไมโครซิสเต็มส์ ไว้ในระบบปฏิบัติการวินโดว์ส ทั้งนี้ นายพอล ไนเมเยอร์
หนึ่งในทีมผู้พิพากษา ได้ตั้งข้อสงสัยว่า การออกคำสั่งดังกล่าวมีความจำเป็นต่อการปกป้องบริษัทซัน
และโปรแกรมจาวาจริงหรือไม่ พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์อำนาจทางกฎหมายในการออกคำสั่ง โดยเขาได้แสดงความเห็นว่า
โปรแกรมจาวาเป็น "ซอฟต์แวร์ตัวกลาง" มากกว่าเป็นระบบปฏิบัติการ และศาลควรมีสิทธิออกคำสั่งเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับข้อหาผูกขาดตลาดเท่านั้น
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 7 เมษายน 2546
|