มัวร์มั่นใจ "กฎของมัวร์" ใช้ได้อีก 10 ปี
ย้ำชัดความสามารถในสร้างสรรค์ไม่มีวันสิ้นสุด
ซานฟรานซิสโก - กอร์ดอน อี. มัวร์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอินเทล ชี้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จะใช้
"กฎของมัวร์" เป็นแนวทางในการพัฒนาต่อไปอีกอย่างน้อย
10 ปี พร้อมคาดแม้ต้องเจอสภาวะเศรษฐกิจผันผวนแต่สัดส่วนการผลิตชิพในแต่ละปี
จะมีค่าเท่ากับอัตราการเติบโตของจีดีพีโลก ขณะที่แนะเยาวชนจบการศึกษาสูงสุดก่อนกระโดดสู่อาชีพด้านวิทยาศาสตร์
สำนักข่าวเอเอฟพี
รายงานโดยอ้างสุนทรพจน์ของนายกอร์ดอน อี. มัวร์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอินเทล
ที่งานประชุมไอเอสเอสซีซี (the Institute of Electrical and Electronics
Engineers Solid-State Circuits Conference) ว่า กฎของมัวร์จะเป็นจริงต่อไปอีกอย่างน้อย
1 ทศวรรษ นายมัวร์
ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอินเทลขึ้นที่เมืองซานตา คลาร่า มลรัฐแคลิฟอร์เนีย
เมื่อปี 2511 และดำรงแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารในช่วงปี
2522-2530 นั้น เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะบิดาแห่ง "กฎของมัวร์" ทฤษฎี ซึ่งคิดขึ้นในปี 2508
และระบุว่าตัวทรานซิสเตอร์ในชิพคอมพิวเตอร์จะเพิ่มขึ้นสองเท่าทุกหนึ่งหรือสองปี
ก่อนหน้านี้ ทฤษฎีดังกล่าว ถูกมองว่ามีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ดี คำทำนายของมัวร์ได้กลายเป็นหลักการของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในทศวรรษ
1970 อีกทั้งยังสามารถใช้อธิบายการเติบโตของแก๊งบัสเตอร์ช่วงทศวรรษ
80 และ 90 ได้
นายมัวร์ กล่าวว่า ปี 2560
ตัวเลขการขยายตัวของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ จะเท่ากับการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
(จีดีพี) ทั่วโลก "ปลายทศวรรษ
1950 ชิพบางตัวมีทรานซิสเตอร์ 200 ตัว
แต่ในปี 2548 อินเทล จะสามารถผลิตชิพที่มีทรานซิสเตอร์ 1,000 ล้านตัวได้ ขณะที่รายได้ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จะมากกว่าทศวรรษ 1950 ถึง 800 เท่า" นายมัวร์
ระบุ พร้อมเสริมว่า กระบวนการผลิตในอนาคต จะมีความซับซ้อนและเสียค่าใช้จ่ายสูง ประกอบกับชิพในปัจจุบันใช้กระแสไฟฟ้าสิ้นเปลือง
ดังนั้น นักออกแบบต้องเพิ่มเทคโนโลยี เช่น สเตรน ซิลิคอน ลงในชิพและปรับปรุงแบบทรานซิสเตอร์เพื่อประหยัดพลังงาน
กระนั้น แม้อุตสาหกรรมแห่งนี้จะเดินทางไปถึงจุดที่ไม่สามารถทำให้ทรานซิสเตอร์มีขนาดเล็กลงได้
นายมัวร์ กล่าวว่า ผู้ผลิตชิพจะยังคงสามารถบรรจุทรานซิสเตอร์นับพันล้านตัวลงในชิพได้
ซึ่งนั่นเป็นการยืนยันได้ว่าการสร้างสรรค์ของอุตสาหกรรมชิพไม่มีวันสิ้นสุด ขณะเดียวกัน
นายมัวร์ ได้แนะนำให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาหรือแม้นักศึกษามหาวิทยาลัยเรียนจบการศึกษาระดับสูงสุด
ก่อนที่จะเริ่มทำงานในสายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ เนื่องจาก เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานในสังคมยุคใหม่เช่นปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า ตนไม่เคยกล่าวว่าทรานซิสเตอร์จะเพิ่มขึ้นสองเท่าทุก 18 เดือน
เนื่องจาก ในครั้งแรกเขาทำนายว่าทรานซิสเตอร์จะเพิ่มขึ้นทุกปี และเป็นเพิ่มเป็นทุก
2 ปี เมื่อปี 2518
โดยสัณนิษฐานว่าความเข้าใจผิดดังกล่าว น่าจะมาจากคำกล่าวของนายเดวิด เฮาส์
ผู้บริหารคนหนึ่งของอินเทลในขณะนั้น ซึ่งระบุว่า การเปลี่ยนแปลงข้างต้นจะทำให้ประสิทธิภาพการประมวลผลของคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นทุก
18 เดือน
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2546
|