รายงาน : การใช้ลินิกซ์ (ยัง) ไม่ประหยัดอย่างที่คิด
นักวิเคราะห์
ชี้ผู้ประกอบการลังเลแผนเปลี่ยนใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส เหตุต้องทุ่มงบลงทุนขนานใหญ่
ขณะที่ปริมาณแอพพลิเคชั่นยังไม่พร้อมรองรับความต้องการในตลาด ด้านฝ่ายหนุนลินิกซ์ชูจุดเด่น
ประสิทธิภาพระบบความปลอดภัยสูง ทั้งยังช่วยลดงบประมาณในระยะยาว
บริษัทวิจัยแยงกี้ กรุ๊ป
ได้เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นของผู้บริหารด้านไอที และผู้บริหารองค์กรราว 1,000
รายทั่วโลก ซึ่งได้ข้อสรุปว่า การเปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการลินิกซ์และแอพพลิเคชั่นสำหรับลินิกซ์
อาจให้ประโยชน์ทางเทคโนโลยีไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่ต้องลงทุนเพื่อเปลี่ยนระบบขององค์กรทั้งหมด
โดยที่ลินิกซ์จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าระบบอื่นๆ หากใช้กับบริษัทที่มีพนักงานไม่เกิน
5,000 คน "คนที่ใช้ลินิกซ์อยู่
มักจะชื่นชอบลินิกซ์กันมาก แต่หากเป็นการนำมาใช้ในระบบของบริษัทขนาดใหญ่ทั้งหมด คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเฉพาะหน้าเป็นจำนวนมาก
และผู้บริหารส่วนใหญ่ก็จะตั้งคำถามว่า ตนจะต้องเสียเงินมากขนาดนี้ไปทำไม"
นางลอร่า ไดดิโอ นักวิเคราะห์แห่งบริษัทแยงกี้ กล่าว พร้อมเผยว่า
ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการโอเพ่นซอร์สส่วนใหญ่ จะมาจากการเปลี่ยนสถาปัตยกรรมไอทีทั้งระบบ
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารจำนวนมากก็ยินดีจ่ายเงินจำนวนนี้ เนื่องจากปัญหาด้านระบบความปลอดภัยจากระบบปฏิบัติการวินโดว์สเริ่มที่จะรุนแรงขึ้นทุกที
และคุณสมบัติเด่นอย่างหนึ่งของลินิกซ์ ก็คือ ประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยของระบบ ที่ดูจะเหนือกว่าซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์
แต่ข้อด้อยประการหนึ่งของซอฟต์แวร์ตัวนี้ ก็คือ ยังมีแอพพลิเคชั่นสำหรับใช้กับลินิกซ์น้อยมากในตลาดปัจจุบัน
เมื่อเทียบกับแอพพลิเคชั่นสำหรับยูนิกซ์ หรือวินโดว์ส "ทุกคนมีแผนที่จะใช้ลินิกซ์
แม้ว่าจะทำให้ต้องเลิกใช้ไมโครซอฟท์ แต่ผู้บริหารก็มีคำถามว่า ลินิกซ์จะคุ้มค่าพอ
สำหรับการทุ่มเงินลงทุนจำนวนมาก และการที่ต้องมานั่งปวดหัวจากปัญหาในการเปลี่ยนระบบทั้งหมดหรือไม่"
นางไดดิโอ กล่าว
เชื่อปลอดภัยสูง-ลดงบในระยะยาว
ฝ่ายผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ลินิกซ์ ก็ยืนยันว่า ลูกค้าของตนจะได้ประโยชน์จากการประหยัดค่าใช้จ่ายมหาศาลในระยะยาว
โดยนางลีห์ เดย์ โฆษกบริษัทเรด แฮท
ผู้จัดจำหน่ายระบบปฏิบัติการลินิกซ์ระดับแนวหน้า กล่าวว่า ลูกค้าที่เปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์ลินิกซ์
กล่าวว่า ตนมีโอกาสประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ขณะที่ลูกค้ายังสามารถเปลี่ยนไปใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีราคาต่ำลง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนักวิจัยเชื่อว่า ไมโครซอฟท์ ได้ "เข้าถึง" ลูกค้าจำนวนมาก ที่คิดจะเปลี่ยนไปใช้ลินิกซ์ อาทิ ทางบริษัทได้พัฒนาระบบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
และเปลี่ยนกฎการรับประกันสินค้าเสียใหม่ เพื่อชักจูงให้ลูกค้าเชื่อว่า ทางบริษัทสามารถรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดีกว่าผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ลินิกซ์
แม้ว่า ผู้สนับสนุนลินิกซ์ จะโต้แย้งว่า
ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
แต่นักวิเคราะห์ก็ยืนยันว่า ผู้บริหารส่วนใหญ่ยังคงไม่มั่นใจว่า
ตลาดลินิกซ์ในปัจจุบันจะมีพัฒนาการสูงพอ ที่จะตอบสนองความต้องการทางธุรกิจได้อย่างสมบูรณ์พร้อม "ผู้ใช้ส่วนใหญ่รู้สึกว่า
การต่อสู้กับมารร้ายที่รู้จักดีอยู่แล้ว น่าจะดีกว่าการต่อสู้กับมารร้ายที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
พวกเขาอาจรู้สึกอุ่นใจที่มีลิกนิกซ์เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยเฉพาะเป็นทางเลือกแทนการใช้ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์
แต่ความพร้อมของตลาดและจำนวนแอพพลิเคชั่นที่ออกมารองรับ ยังคงเป็นปัญหาสำคัญอยู่"
นางเดย์ กล่าว ทั้งนี้ ทางบริษัทยืนยันว่า ผลสำรวจดังกล่าว
ไม่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทใดๆ ทั้งสิ้น
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 8 เมษายน
2547
|