เกาหลีใต้ชูธง รณรงค์ใช้ลินิกซ์ทั่วประเทศ
รัฐบาลเกาหลีใต้ เผยนโยบายรณรงค์
หน่วยงานราชการในประเทศ นำร่องใช้ระบบปฏิบัติการโอเพ่นซอร์ส
แทนซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ พร้อมคาดประหยัด งบประมาณ ได้มากถึง 300
ล้านดอลลาร์ต่อปี ด้านไมโครซอฟท์โต้ซอฟต์แวร์ของตน ไม่ได้มีราคาสูงอย่างที่อ้าง อีกทั้งยังคุยต้นทุนจัดการและดูแลรักษาในระยะยาวถูกกว่า
สำนักข่าวซีเน็ต
รายงานคำแถลงของกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเปิดเผยว่า
นโยบายดังกล่าว จะทำให้คอมพิวเตอร์นับพันเครื่องในมหาวิทยาลัย หน่วยงานราชการ
และกระทรวงต่างๆ ในประเทศ เปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สแทนระบบปฏิบัติการวินโดว์ส
และชุดโปรแกรมออฟฟิศของไมโครซอฟท์
ตัวแทนกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร คาดว่า
ภายในปี 2550 ซอฟต์แวร์ในพีซี 20% และในเครื่องแม่ข่าย 30% จะเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์สทั้งหมด ขณะที่องค์กรต่างๆ ในประเทศ อาทิ
สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ และสมาคมสารสนเทศและโทรคมนาคม
เตรียมจะเปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการลินิกซ์ และโปรแกรมท่องอินเทอร์เน็ตโมซิลลา
แทนระบบปฏิบัติการวินโดว์ส และอินเทอร์เน็ต เอ็กซ์พลอเรอร์ ตัวแทนกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร
กล่าวด้วยว่า หากนโยบายดังกล่าวประสบความสำเร็จ รัฐบาลจะสามารถประหยัดเงินได้ราว 300
ล้านดอลลาร์ต่อปี นอกจากนี้ยังสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับระบบสารสนเทศแห่งชาติได้ด้วย
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม
ตั้งข้อสังเกตว่า นักพัฒนาซอฟต์แวร์ของประเทศ อาจจะไม่มีทรัพยากรที่จะสนับสนุนได้ทั้งวินโดว์ส
และลินิกซ์ ด้านบริษัทไมโครซอฟท์ ในเกาหลีใต้ โต้ว่า ซอฟต์แวร์ของบริษัทตนไม่ได้มีราคาสูงอย่างที่กล่าวอ้างกัน
และแม้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สอาจดูเหมือนถูกกว่า แต่ในระยะยาวแล้วต้นทุนการจัดการและดูแลรักษาจะสูงขึ้นอย่างมาก
พร้อมกันนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ เตรียมกระตุ้นการแข่งขันในตลาดซอฟต์แวร์ให้สูงขึ้น โดยจะเปิดให้ผู้ใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ
ของรัฐบาลผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
ปัจจุบัน ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการลินิกซ์ ไม่สามารถเข้าถึงบริการของธนาคารและหน่วยงานราชการผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้
เนื่องจาก บริการส่วนใหญ่จะรองรับเฉพาะผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์สและเบราเซอร์อินเทอร์เน็ต
เอ็กซ์พลอเรอร์ของไมโครซอฟท์เท่านั้น นอกจากมาตรการดังกล่าวแล้ว
กระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารเกาหลีใต้ ยังมีแผนผนึกกำลังกับกระทรวงต่างๆ ขอความร่วมมือกับกลุ่มโอเพ่นซอร์สในการพัฒนาซอฟต์แวร์
หลังจากประกาศความร่วมมือกับ ญี่ปุ่น และจีน เมื่อเดือนที่แล้ว
ในการประชุมร่วมกันที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ภายใต้ข้อตกลงร่วมทำวิจัยและพัฒนาระบบปฏิบัติการโอเพ่นซอร์สที่ไม่ใช่วินโดว์ส
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 6 ตุลาคม 2546
|