เกาะติดการพัฒนาของ 'อินเทล' ดูทิศทางตลาดคอมพิวเตอร์ปี'46
สัมภาษณ์
หัวใจหลักในการทำงานของคอมพิวเตอร์ทั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์, พีซี, โน้ตบุ๊ก
หรือแม้กระทั่งพีดีเอ คงหนีไม่พ้นตัวประมวลผลหรือ 'ชิป'
ซึ่งในตลาดนี้ 'อินเทล' ครองความเป็นเจ้าตลาดมาอย่างต่อเนื่อง
การเปิดตัวชิปรุ่นใหม่แต่ละครั้งของอินเทล จะมาพร้อมเทคโนโลยีและความเร็วที่เพิ่มขึ้นซึ่งมีผลต่อตลาดคอมพิวเตอร์มาก
เรียกว่าเป็นตัวชี้ทิศทางการพัฒนาของคอมพิว เตอร์ก็คงไม่ผิด ดังนั้น 'ประชาชาติธุรกิจ' ได้ถือโอกาสสัมภาษณ์ 'เอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ' กรรมการผู้จัดการ บริษัท
อินเทล ไมโครอิเล็ก ทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัดเพื่อติดตามดูทิศทางการพัฒนาของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ในปี 2546
- ทิศทางการพัฒนาโปรเซสเซอร์ในปีหน้า
ปีหน้าการพัฒนาของโปรเซสเซอร์จะขึ้นไปถึงความเร็ว 6 จิกะเฮิรตซ์ โดยโปรเซสเซอร์ที่ระดับความเร็ว 3
จิกะเฮิรตซ์จะเป็นตัวทำตลาดหลัก และตลาดจะมุ่งสู่เทคโนโลยีไวร์เลสมากขึ้น เนื่องจากไวร์เลสจะเริ่มเป็นมาตรฐานและแนวโน้มของตลาดในปีหน้า
โดยอินเทลกำลังพัฒนาชิปเซ็ตสำหรับโน้ตบุ๊กที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีไวร์เลสแลนในตัว
ซึ่งจะช่วยในเรื่องความสามารถในการรับส่งข้อมูลและโต้ตอบแบบไร้สายเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจะวางตลาดในปีหน้า
- แนวโน้มเรื่องไวร์เลสกำลังมาแรง ไมโครซอฟท์ก็เริ่มเข้าไปเล่นในตลาดโทรศัพท์มือถือโดยพัฒนาซอฟต์แวร์สมาร์ทโฟน
อินเทลมีแผนพัฒนาโปรเซสเซอร์สำหรับโทรศัพท์มือถือบ้างหรือไม่
อินเทลพร้อมสำหรับตลาดไวร์เลส โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทรศัพท์มือถือ
ซึ่งอินเทลกำลังพัฒนาและขยายความสามารถของ Xscale เทคโนโลยีสำหรับโปรเซสเซอร์ในพีดีเอหรือพ็อกเกตพีซี
ซึ่งกินไฟต่ำ มาสู่เวอร์ชั่นสำหรับโทรศัพท์มือถือในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ปัจจัยการพัฒนาความสามารถของโทรศัพท์มือถือ
จะมาจากแอปพลิเค ชั่นและเครือข่ายของผู้ให้บริการมือถือมากกว่าที่จะขับเคลื่อนให้ตลาดไวร์เลสเติบโตมากขึ้น
- ตลาดคอมพิวเตอร์จะเปลี่ยนไปอย่างไร
ระดับราคาของเครื่องพีซียังลดลงต่อเนื่องตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
จึงทำให้การแข่งขันในตลาดพีซีดุเดือดและยังคงต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ขณะที่แนวโน้มการขยายตัวของตลาดพีซียังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง
เพราะอัตราการใช้พีซีในประเทศไทยยังต่ำ สำหรับปัจจัยที่ทำให้ตลาดคอมพิวเตอร์ และอุตสาหกรรมโปรเซสเซอร์เติบโตได้อีกในปีหน้าคือการเติบโตของข้อมูลดิจิทัล
รวมทั้งซอฟต์แวร์แอปพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่ต้องใช้ความสามารถในการทำงานของโปรเซสเซอร์มากขึ้น
และแอปพลิเคชั่นตัวที่โดดเด่นที่สุดก็คือ เกมออนไลน์ ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาของโปรเซสเซอร์
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดคอมพิวเตอร์ต่างจังหวัดมีการเติบโตมากกว่าในกรุงเทพฯ
ดังนั้นอินเทลจึงเข้าไปกระตุ้นและสนับสนุนการทำตลาดของคู่ค้าต่างๆ โดยผ่านงานพีซีแฟร์,
สัมมนา, เวิร์ค ช็อป รวมถึงการฝึกอบรมให้กับผู้ประกอบการในต่างจังหวัดกว่า
40 จังหวัด ซึ่งก็ทำให้อินเทลสามารถขยายตลาดต่างจังหวัดได้ดีขึ้น
- เพนเทียมโฟร์ น่าจะเพียงพอต่อการเล่นเกมออนไลน์
พฤติกรรมการเล่นเกมออนไลน์ มักจะเกิดขึ้นพร้อมกับทำงานอื่นๆ
เช่นการบันทึกแผ่นซีดีและการแชท เพราะความสามารถของซีพียูในปัจจุบันยังรองรับการทำงานหลายๆ
แอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนัก เนื่องจากซีพียูไม่ว่าจะมีความเร็วสูงแค่ไหนก็มีความสามารถในการทำงานได้ครั้งละหนึ่งงาน
อินเทลจึงได้นำ 'ไฮเปอร์เทรดดิ้ง' หรือ
HT เทคโนโลยีของโปรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์มาสู่เครื่องพีซีเดสก์ทอป
ซึ่งจะช่วยเพิ่มสมรรถนะการทำงานให้กับเครื่องพีซีสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 25% ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานพร้อมกันหลายแอปพลิเคชั่นในเวลาเดียวกัน
- วางนโยบายเทคโนโลยี HT อย่างไร
เจเนอเรชั่นถัดไปของเพนเทียมโฟร์ จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี HT ซึ่งเราวางบทบาทให้เป็นเทคโนโลยีหลักของโปรเซสเซอร์ในอนาคต และคาดว่า HT
จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่และจุดขายของอินเทล
ที่จะสร้างความแตกต่างในอุตสาห กรรมโปรเซสเซอร์ โดยปีหน้าอินเทลจะใส่เทคโนโลยี HT
ไว้ในโมบายโปรเซสเซอร์ของโน้ตบุ๊ก
รวมถึงโปรเซสเซอร์ที่มีระดับความเร็วต่ำกว่า 3.06 จิกะเฮิรตซ์ด้วย
ขณะนี้อินเทลได้วางตลาดเพนเทียมโฟร์ 3.06 จิกะเฮิรตซ์ที่มีเทคโนโลยี
HTแล้ว โดยจำหน่ายในราคา 637
เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 28,028 บาทต่อ 1,000 ตัว สำหรับในประเทศไทยผู้ผลิตพีซีรายแรกๆ ที่จะนำโปรเซสเซอร์รุ่นดังกล่าวมาวางตลาดพร้อมเครื่องพีซีในปลายเดือนนี้คือ
เอสวีโอเอและเบลต้า
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
ฉบับวันที่ 21 พฤศจิกายน 2545
|