ผู้ผลิตสินค้าอุตฯ เชื่อปีหน้าส่งออกโตต่อเนื่อง
กลุ่มผู้ผลิตสินค้าอุตฯมั่นใจส่งออกปีหน้าโตต่อเนื่อง
ยอดรถยนต์พุ่ง 30%
ขณะที่กลุ่มสิ่งทอโอดรัฐตั้งเป้าสูง 12% แต่ต้องเผชิญสารพัดปัญหาทั้งยกเลิกระบบโควตา
และความมั่นใจประเทศไทย ขณะที่กลุ่มไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ กำไรหด
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์
โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยในระหว่างร่วมประชุมประเมินภาวะส่งออกปี
2547 และคาดการณ์แนวโน้มปี 2548 วานนี้
(27 ต.ค.) ว่า ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเกือบทุกสาขามองว่าการส่งออกปีหน้าจะขยายตัวต่อเนื่อง
แต่ต้องขจัดปัญหาอุปสรรคด้านต้นทุนการผลิต เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน
สำหรับปีนี้คาดว่าจะส่งออกรถยนต์ 3 แสนคัน
โดยช่วง 9 เดือนแรกมีปริมาณ 2.36 แสนคัน
เพิ่มขึ้น 36.25% มูลค่า 1.05
แสนล้านบาท หรือประมาณ 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 39.82% และคาดว่าปี 2548 จะขยายตัว 20-30% ส่วนรถจักรยานยนต์ ส่งออก 8.3 แสนคัน เพิ่มขึ้น 50% ช่วง 9 เดือนแรกมีมูลค่าส่งออก 10,044 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.20% โดยปี 2548 คาดว่าจะส่งออกเพิ่มขึ้น 10% สำหรับชิ้นส่วนยานยนต์คาดว่าจะส่งออกมูลค่า
2,144 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 34% และปี
2548 ขยายตัว 20%
นายเธียรชัย มหาสิริ
นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า ปีนี้คาดว่าจะส่งออกมูลค่า 3,100
ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 10% และปี 2548 กรมส่งเสริมการส่งออกเสนอเป้าให้ขยายตัว 12%
คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปัญหาอุปสรรคนั้นมีหลายประการ
เช่น การสิ้นสุดระบบโควตา เชื่อว่าตลาดสิ่งทอส่วนใหญ่จะเป็นของจีน
รวมถึงปัญหาความเชื่อมั่นจากผู้ซื้อ เพราะปัญหาไข้หวัดนก
ซึ่งปัจจัยนี้ผู้ส่งออกกังวลมาก
นายวิษณุ ลิ้มวิบูลย์
รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ส.อ.ท. กล่าวว่า
การส่งออกของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในปีนี้จะมีมูลค่า 1.5
แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% และปีหน้าคาดว่าจะส่งออกเพิ่ม 3-4%
โดยเฉพาะสินค้าฮาร์ดแวร์และเซมิคอนดัคเตอร์ ขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้า
มูลค่าส่งออกกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐปีนี้ โดยเครื่องปรับอากาศจะมีปัญหาส่งออกมากที่สุดและส่งออกลดลง
25% เพราะแข่งขันกับจีนที่มีต้นทุนผลิตต่ำกว่า
นายวิชัย อัศรัสกร
ประธานกรรมการคณะกรรมการอัญมณีและเครื่องประดับ หอการค้าไทย กล่าวว่า
ปีหน้าตั้งเป้าส่งออกสินค้ากลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับเพิ่ม 15% มูลค่า
3,180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจัยน้ำมันถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะดันให้ราคาทองคำตลาดโลกสูงขึ้นด้วย
ซึ่งหากต้นทุนสูงขึ้นจะทำให้การส่งออกน้อยลง
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 28 ตุลาคม 2547
|