เอกชนขานรับรัฐจัดซื้ออิเล็กฯ
เอกชนขานรับ
นโยบายจัดซื้อผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ ระบุช่วยขยายตลาด แนะรวมศูนย์ให้บริการในจุดเดียว
ลดความยุ่งยากซับซ้อน ด้านรัฐตั้งเป้า จัดซื้อผ่านอี-ออคชั่นอย่างน้อย
1 รายการ ภายใน ธ.ค.นี้
นายจำรัส สว่างสมุทร เลขาธิการ สมาคมธุรกิจคอมพิวเตอร์ไทย
(เอทีซีไอ)
กล่าวว่า นโยบายการจัดซื้อผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐเป็นเจตนาที่ดี
สร้างความโปร่งใส ช่วยให้เอกชนขยายตลาดไปหลายหน่วยงานเพิ่มเติมได้ผ่านระบบดังกล่าว
จากเดิมที่มีฝ่ายขายจับลูกค้าหน่วยงานรัฐจำนวนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจากข้อมูลการจัดซื้อผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศออสเตรเลีย
มีนโยบายให้แต่ละรัฐแยกจัดซื้อโดยอิสระ เอกชนที่เข้าประมูลต้องลงทะเบียนจดแจ้งกับแต่ละรัฐที่เปิดประมูล
ทำให้มีความซ้ำซ้อน ดังนั้นรัฐอาจต้องมีระบบงานกลางให้บริการ โดยเปิดให้เอกชนผู้ขายเข้าลงทะเบียนและหน่วยงานรัฐทุกหน่วยเข้าแจ้งความต้องการซื้อ
แต่ต้องมิใช่เป็นการรวมศูนย์
ด้านนายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์
กรรมการผู้จัดการ บริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นโยบายรัฐดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดี แต่น่าจะจำกัดสินค้าเฉพาะฮาร์ดแวร์บนพื้นฐานพีซีเป็นหลัก
เนื่องจากเป็นสินค้าที่ไม่เน้นบริการหลังการขายมากนัก อย่างไรก็ตาม การประมูลจำเป็นต้องคำนึงถึงบริการหลังการขายมากกว่าการจัดซื้อเพื่อให้ได้ราคาต่ำสุด
ทั้งนี้นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนามาตรฐานระบบพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง
กระทรวงการคลัง กล่าวว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงได้จัดตั้งหน่วยงานดูแลการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ขึ้น
เพื่อทำหน้าที่จัดวางแนวทางการจัดซื้อจัดจ้าง การประมูลผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์
(E-auction) ในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
สำหรับหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งมีหน้าที่พัฒนาการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐให้มีระบบมากยิ่งขึ้น
ด้วยวิธีโปร่งใส ซึ่งการเสนอแผนการจัดซื้อจัดจ้างผ่านอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐ จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน
ธ.ค.2545 ตามมติ ครม.
"ภาครัฐเห็นความสำคัญของการจัดซื้อโดยวิธีดังกล่าวจึงจะเริ่มทดลองจัดซื้อด้วยระบบ
E-auction ในต้นเดือน พ.ย.2545 กับหน่วยงานภาครัฐ 6 แห่ง ผ่าน E-market
Place บริษัทไทยแห่งหนึ่งที่คิดค่าบริการ 5
พันบาทต่อการประมูล 1 ครั้ง ซึ่งหน่วยงานภาครัฐที่จะจัดซื้อ
ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มูลค่าการจัดซื้อครุภัณฑ์กว่า 140 ล้านบาท กรมสรรพากรจัดซื้อคอมพิวเตอร์ประมาณ 6,000
แห่ง งบประมาณยังไม่ได้ระบุ สำนักงานเลขานุการสำนักนายก สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
กรมการปกครอง และ สวทช. โดยการจัดซื้อระบบ E-auction ของหน่วยงานต่างๆ นี้เป็นไปตามมติ ครม.ในวันที่ 1 ต.ค.45 ที่กำหนดให้ทุกกระทรวงเริ่มจัดซื้อพัสดุภัณฑ์
รวมทั้งมีเวบไซต์ของตัวเอง และต้องจัดซื้อผ่านวิธี E-auction อย่างน้อย 1 รายการ ภายใน ธ.ค.45
รวมทั้งต้องรายงานผลให้ทราบถึงข้อดีข้อเสียทุกๆ 3 เดือน นับตั้งแต่ ม.ค.46 เป็นต้นไป"
นายกุลิศ กล่าว
สำหรับวัสดุครุภัณฑ์ที่จะจัดซื้อผ่านวิธีดังกล่าว
ได้แก่ วัสดุสิ้นเปลือง คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ กระดาษ อุปกรณ์สำนักงาน
การเช่าเครื่องถ่ายเอกสาร หรือการเช่ารถยนต์สำหรับหน่วยงานราชการ
โดยในเบื้องต้นกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จะเป็นผู้สนับสนุนข้อมูลและประสานงานให้กับหน่วยงานภาครัฐ
และบริษัท E-market
Place เพื่อให้การดำเนินการลุล่วงไปได้ด้วยดี
แต่อย่างไรก็ตามในระยะยาว กระทรวงแต่ละแห่งจะต้องกำหนดสเปคของสินค้าที่จะจัดซื้อเอง
สำหรับปริมาณของสินค้าที่ควรจะประมูลแต่ละครั้ง ควรมีมูลค่ากว่า 3 ล้านบาทขึ้นไป เพราะบริษัท อี-มาร์เก็ต
เพลสจะคิดค่าบริการจากผู้ขาย 1% จากมูลค่าสินค้า ซึ่งถ้ามีมูลค่าต่ำบริษัทผู้ขายสินค้าเหล่านั้นจะไม่สนใจ
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 30 ตุลาคม 2545
|