อุปกรณ์ดิจิทัล "จีน" แห่ยึดตลาดไทย ถล่มราคาตีตลาดแบรนด์เนมป่วน
อุปกรณ์เสริมไอทีและมัลติมีเดียจากจีน
และไต้หวัน ชักแถวบุกตลาดไทยเน้นนโยบายราคาถูกกระตุ้นกำลังซื้อตลาดระดับล่าง เผยฉุดยอดขายสินค้าแบรนด์เนมยอดวูบประมาณ
20-30% ด้าน "ทาร์กัสฯ" ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมแบรนด์อเมริกา
เร่งปรับกลยุทธ์เพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์หวังหนีตลาดสงครามราคา
นายวงศ์พัทธ์
กานตะวร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ทาร์กัส เอเชีย แปซิฟิก (สิงคโปร์)
จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ"
ว่า ในปีนี้ตลาดอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ มัลติมีเดียมีแนวโน้มการเติบโตสูงมากตามความต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงในชีวิตประจำวันของกลุ่มคนรุ่นใหม่
โดยคาดว่าตลาดรวมในปีนี้จะมีมูลค่าถึง 5,000 ล้านบาท จึงทำให้มีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ
เข้ามาแข่งขันในตลาดมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าสินค้าประเภทแฟลชไดรฟ์,
เมาส์, เครื่องเล่นเอ็มพี 3 จากประเทศจีน และไต้หวันเข้ามาทำตลาดกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่าง ซึ่งขณะนี้สินค้ากลุ่มนี้ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า
90% ซึ่งกระทบสินค้า แบรนด์เนมทำให้ยอดขายลดลงประมาณ 20-30%
อุปกรณ์แฟลชไดรฟ์ (flash drive) และเครื่องเล่นเอ็มพี
3 เป็นสินค้าไฮไลต์ของตลาดปีนี้ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย
อาทิ ฟังเพลงวิทยุเอฟเอ็ม-เอเอ็ม, เล่นเอ็มพี3 และบันทึกข้อมูล เป็นต้น ในขณะที่แนวโน้มของราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง
ตามจำนวนผู้ประกอบการที่เข้ามาทำตลาด ส่งผลให้มีการใช้กลยุทธ์ด้านราคารุนแรงมากขึ้น
"ตลาดสินค้ามัลติมีเดียของจีนและไต้หวันประเภทน็อน-แบรนด์ที่เข้ามาในตลาดเมืองไทยเห็นชัดมากขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
โดยมีการเปิดตัวในงานแสดงสินค้าไอทีต่างๆ โดยเฉพาะในงานคอมมาร์ตที่ผ่านมา มีอุปกรณ์ไอทีมัลติมีเดียใหม่ๆ
เข้ามาเปิดตัว 5-7 แบรนด์ ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้มีระดับราคาต่ำกว่าสินค้าอินเตอร์แบรนด์ประมาณ
30-50%" นายวงศ์พัทธ์
ในขณะที่ผู้ผลิตไอทีรายใหญ่หลายๆ รายอย่าง เอเซอร์, เบลต้า และเอสวีโอเอ ก็ได้ประกาศขยาย ไลน์สินค้าในกลุ่มอุปกรณ์ดิจิทัล
อาทิ แฟลชไดรฟ์ และกล้องดิจิทัล เพื่อขยายตลาดไปยังลูกค้าคอนซูเมอร์ตามแนวโน้มการเติบโตของตลาดในปัจจุบัน
รวมทั้งการนำเข้าอุปกรณ์ดิจิทัลดังกล่าวเป็นกลุ่มสินค้าที่ปลอดภาษี (ภาษี 0%) ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่จะเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจได้
นอกจากนี้ ทางบริษัท เจ๊บเซ่น แอนด์ เจ็สเซ่น มาร์เก็ตติ้ง (ที)
จำกัด ก็ได้เปิดตัว "ไอริเวอร์"
ผลิต ภัณฑ์ดิจิทัลจากประเทศเกาหลี ประกอบด้วย เครื่องเล่น CD-MP3,
เครื่องเล่น MP3 แบบ flash type และเครื่องเล่น MP3 แบบ hard disk โดยจะเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักในกลุ่มเด็กนักเรียนนักศึกษาเป็นหลัก
นายวงศ์พัทธ์กล่าวว่า สำหรับสินค้าของทาร์ กัสนั้นอยู่ในตลาดระดับบน
ซึ่งมีส่วนแบ่งในตลาดเพียง 10% ซึ่งบริษัทมีแผนจะเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายผ่านในร้านเอชพี
ช็อป และอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อนำสินค้าไปจำหน่ายในร้านฟูจิตสึ และ ช็อป โตชิบา รวมทั้งการขยายไปร้านค้าอื่นๆ
อาทิ เพาเวอร์บาย, บีทูเอส เป็นต้น ผลประกอบการของบริษัทในปีที่ผ่านมาประมาณ
50-60 ล้านบาท และปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายที่ไม่สูงนักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสินค้าของจีนและไต้หวัน
ที่มา
: ประชาชาติธุรกิจ
ฉบับวันที่ 10 มิถุนายน 2547
|