คอมพ์โลคัลแบรนด์แห่ "ปรับโฉม" ยุติสงครามราคา
ผู้ประกอบคอมพิวเตอร์ยี่ห้อในประเทศ
ปรับทัพยกระดับผลิตภัณฑ์ หนีสงครามการแข่งขัน ประกาศหมดยุคแข่งตัดราคา เล็งพัฒนาคุณสมบัติใหม่แปลงสายพันธุ์พีซี
สู่อุปกรณ์ภาพและเสียง (เอวี) ตอบรับแนวโน้มผู้ใช้นิยมเสพความบันเทิงภายในบ้านมากขึ้น
นายพิสิฐ พฤกษานุศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท
เบลต้า คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ในประเทศ จะเสนอเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีคุณสมบัติหลากหลายในเครื่องเดียว
โดยเฉพาะความสามารถการเป็นเครื่องเสียง (เอวี) ซึ่งสนองตอบความบันเทิงในบ้านมากขึ้น
ล่าสุด บริษัทเปิดตัวสายผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แนวคิด "เบลต้า
ดิจิทัล โฮม เอ็นเตอร์เทนเมนท์" โดยอิงกับเทคโนโลยีอินเทลเป็นหลัก
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ดังกล่าวแบ่งตามคอนเซปต์ 3
กลุ่มหลัก ได้แก่
1. มายไลฟ์ (My Life) โดยเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี ที่รวมเอาการทำงานของคอมพิวเตอร์ และโฮม เธียร์เตอร์เข้าไว้ด้วยกันในเครื่องเดียวสำหรับกลุ่มที่ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว
และอาศัยอยู่ในห้องพักที่มีพื้นที่จำกัด
2. Our Life เครื่องคอมพิวเตอร์พีซี ที่ได้รับการประยุกต์สำหรับใช้งานด้านความบันเทิงเป็นหลัก
เหมาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายครอบครัวเล็กๆ ที่ต้องการอุปกรณ์สำหรับความบันเทิงร่วมกัน
โดยดีไซน์รูปแบบของตัวเครื่องจะมีลักษณะคล้ายกับเครื่องเล่นดีวีดี เพื่อความลงตัวกับพื้นที่สำหรับการพักผ่อน
และ 3. Their Life พีซีที่ทำหน้าที่เสมือนศูนย์รวมความบันเทิงภายในบ้าน
เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกจำนวนมาก ซึ่งต้องการด้านความบันเทิงแตกต่างกันไป
โดยเครื่องพีซีจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลาง
ในการส่งข้อมูลทั้งภาพและเสียง ไปยังพื้นที่ต่างๆ ผ่านเครือข่ายไร้สาย
ซึ่งจะมีอุปกรณ์เบลต้า มีเดีย สตรีมมิ่ง ทำหน้าที่รับ และแปลงสัญญาณ ส่งต่อไปยังอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงต่างๆ
อาทิ การชมภาพยนตร์ หรือการฟังเพลง ในขณะที่การทำงานของเครื่องพีซีไม่ถูกรบกวน "เราคาดว่าสินค้ากลุ่มใหม่จะสร้างรายได้ปีหน้าราว
300 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20%
จากรายได้รวมของบริษัท 1,800 ล้านบาท" นายพิสิฐ กล่าว
ด้านนายนิธิพัฒน์ ลิ่มวานิชรัตน์
ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเทค คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า
ตลาดคอมพิวเตอร์หมดยุคราคาเครื่องต่ำแล้ว เพราะผู้ค้าไม่สามารถรับภาระกำไรที่ลดต่ำลงได้
จนทำให้บางรายต้องปิดกิจการลง ซึ่งเมื่อจำนวนผู้ค้าลดลง
น่าจะทำให้ยอดขายของแต่ละรายเพิ่มมากขึ้น โดยยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น
ในระบบปัจจุบัน เพราะโครงการคอมพิวเตอร์เอื้ออาทร ทำให้โครงสร้างราคาพีซีเปลี่ยนแปลงไป
มาร์จินลดลงต่ำกว่า 5%
จากเดิมที่อยู่ในระดับสูงกว่า 10% "ในอนาคตอันใกล้
ราคาเครื่องคอมพิวเตอร์อาจปรับสูงขึ้น 5-10% เพราะผลกระทบจากต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น
ทำให้ชิ้นส่วนเช่น พลาสติกที่ใช้ในเครื่องสูงตามไปด้วย
แต่ผู้ค้าจะต้องพยายามคงราคาให้มากที่สุด ซึ่งก็เท่ากับมาร์จินที่มีอยู่ยิ่งลดต่ำลง"
นายนิธิพัฒน์ กล่าว
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
ฉบับวันที่ 16 กันยายน 2547
|