จีนป่วนอุตสาหกรรมไว-ไฟ ออกกฎเหล็กบังคับผู้ผลิต ใช้มาตรฐานความปลอดภัยรูปแบบใหม่ "ดับเบิลยูเอพีไอ" อ้างจุดประสงค์ความปลอดภัย เหตุเครือข่ายปัจจุบันยังมีรูโหว่ ด้านนักวิเคราะห์เชื่อเตรียมผุดมาตรฐานมือถือ-ดีวีดีต่อ

สำนักข่าวซีเน็ต รายงานว่า รัฐบาลจีนได้ประกาศห้ามนำเข้า, ผลิต และจำหน่ายอุปกรณ์ไว-ไฟ ที่ไม่ตรงตามมาตรฐานระบบความปลอดภัยรูปแบบใหม่ ที่ทางรัฐบาลเป็นผู้กำหนดขึ้น และมาตรฐานที่ว่านี้ จะไม่สามารถใช้ร่วมกับมาตรฐานอุตสาหกรรมในปัจจุบันได้ มาตรฐานใหม่ของรัฐบาลจีน มีชื่อว่า "ดับเบิลยูเอพีไอ" (Wired Authentication and Privacy Infrastructure-WAPI) โดยองค์กรควบคุมดูแลมาตรฐานแห่งประเทศจีน เป็นผู้กำหนดขึ้น และมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันจันทร์ (1 ธ.ค.) อย่างไรก็ตาม องค์กรควบคุมมาตรฐานของจีน ยอมผ่อนปรนให้ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าหรือผลิตในประเทศ เพื่อวางจำหน่ายก่อนวันที่ 1 ธ.ค. มีโอกาสปรับใช้มาตรฐานดับเบิลยูเอพีไอ ไปจนถึงเดือนมิถุนายนปีหน้า ส่วนอุปกรณ์ที่จะส่งออกนอกประเทศ ไม่ต้องใช้มาตรฐานใหม่แต่อย่างใด

ผู้เชี่ยวชาญ ให้ความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวของจีนในครั้งนี้ จะทำให้ตลาดไว-ไฟในขณะนี้มีความสับสนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังเป็นการกีดกันผู้ผลิตจำนวนมาก ที่ต้องการเจาะตลาดจีน อาทิ บริษัทเดลล์ อิงค์. ซึ่งเปิดเผยว่า ตนอาจต้องระงับการส่งออกผลิตภัณฑ์ไว-ไฟ ไปยังประเทศจีนหลังจากหมดระยะเวลาผ่อนปรน ขณะที่ผู้ประกอบการอื่นๆ ตั้งแต่อินเทล ไปจนถึงโซนี่ และผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ในจีน กำลังศึกษาผลกระทบที่อาจมีต่อธุรกิจของตน "เราไม่แน่ใจว่ามาตรการนี้จะส่งผลกระทบกับเราอย่างไร แต่เรากลัวว่าบริษัทต่างๆ จะไม่สามารถผลิต และขายพีซีในจีนได้" นายยาสึนาโอะ โคมัตสึ เลขาธิการหอการค้าญี่ปุ่น กล่าว

ด้านบริษัทวิจัยซินเนอร์จี้ รีเสิร์ช กรุ๊ป เปิดเผยตัวเลขซึ่งชี้ให้เห็นว่า ช่วงไตรมาส 3 ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก มียอดจำหน่ายอุปกรณ์ไว-ไฟ สูงเป็นอันดับสองของโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดทั้งหมด 16% รองจากทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาด 60% ขณะที่จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในภูมิภาคนี้ 3 อันดับแรก ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐและบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง ได้พยายามล็อบบี้ไม่ให้จีนประกาศใช้มาตรฐานดับเบิลยูเอพีไอ ขณะที่แหล่งข่าว เปิดเผยว่า หลายฝ่ายยังกังวลว่าจีนอาจผลักดันให้ข้อกำหนดใหม่ กลายเป็นมาตรฐานระหว่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญ บอกด้วยว่า เครือข่ายไร้สาย ไม่ได้เป็นเทคโนโลยีเดียวที่รัฐบาลจีน มีแผนใช้มาตรฐานของตนเอง โดยจีนยังเตรียมพิจารณาตั้งมาตรฐานเฉพาะสำหรับมือถือยุคหน้า, ดีวีดี และเทคโนโลยีแสดงภาพอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วย

ด้านนายลิว เชาหยาง ผู้อำนวยการองค์กรที่เป็นผู้ร่างมาตรฐานใหม่ ปฏิเสธว่า นโยบายเหล่านี้ ไม่ได้เป็น "เครื่องมือกีดกันทางการค้า" แต่อย่างใด แต่จีนได้ออกแบบมาตรฐานของตนเอง เพื่อจุดประสงค์ด้านความมั่นคงความปลอดภัยของชาติ เนื่องจากเครือข่ายแลนไร้สาย มีโอกาสที่จะถูกโจมตีสูง และมาตรฐานสากลในปัจจุบัน ยังคงมีรูโหว่อยู่ ทั้งนี้ จีนมีความพยายามที่จะกำหนดมาตรฐานการเข้ารหัสที่แตกต่างกัน มาตั้งแต่ปี 2542 แล้ว โดยประกาศห้ามจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ซอฟต์แวร์ ซึ่งออกแบบโดยชาวต่างประเทศ และมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเทคโนโลยีแทบทุกประเภท ตั้งแต่ระบบอีเมล และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไปจนถึงอุปกรณ์เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ความเคลื่อนไหวครั้งนั้นทำให้ผู้ประกอบการชาวต่างประเทศ ออกมาต่อต้านเป็นอันมาก ส่งผลให้โครงการต้องระงับไป และในปี 2543 จีนได้รื้อฟื้นมาตรการนี้ขึ้นใหม่ แต่ประกาศใช้เฉพาะซอฟต์แวร์เข้ารหัสบางตัวเท่านั้น

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 4 ธันวาคม 2546