จีน ศักยภาพกับความเป็นจริง
ศักยภาพของจีนในฐานะผู้ใช้ ผู้บริโภค มีขนาดใหญ่
หรือมีศักยภาพสูงสุดในโลก ถ้านับจากจำนวนประชากร 1,300 ล้านคน
ดังนั้นจะได้ยินผู้ปรารภอยู่เสมอว่า ถ้าคนจีนทุกคนใช้ผลิตภัณฑ์ของเราคนละชิ้นต่อปีจะขายได้
1,300 ล้านชิ้น ถ้าใช้ทุกเดือนจะเท่ากับ 15,600 ล้านชิ้น
จากความคิด หรือแนวความคิดดังกล่าว
ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ จึงต้องตาต้องใจนักธุรกิจ นักลงทุนที่จะเข้าไปค้าขาย
ประกอบกิจการ หรือทำการผลิตในจีนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้หากจะต้องรวมถึงนักธุรกิจไทย
หรือแม้กระทั่งหน่วยงานของรัฐบาลไทยเข้าไปด้วย การมองโลกในที่ดีเป็นสิ่งที่ดี
แต่อย่ามองบนพื้นฐานของความโลภ และหากจะให้ดีที่สุด ต้องมองจากความเป็นจริงจากความเป็นไปได้
ตลาดโทรศัพท์มือถือในจีน กำลังจะเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือ มียอดผู้ซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่เดือนละ
5
ล้านเครื่อง และประมาณการกันว่า ภายในสิ้นปี พ.ศ.
2545 นี้ จะมีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งหมด 135 ล้านคน เปรียบเทียบกับญี่ปุ่นที่คาดว่าจะมี 71
ล้านคน
ญี่ปุ่น ฮ่องกง
เคยเป็นตลาดมือถือที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อประมาณ 4 ถึง 5 ปี ที่ผ่านมา ฮ่องกงเกือบจะเต็มศักยภาพ คือประชาชนส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือ
ประมาณ 70 ถึง 80% ในญี่ปุ่นประมาณ 60%
ตลาดโทรศัพท์มือถือฮ่องกง ถ้าดูจากจำนวนผู้ใช้รายใหม่จะลดลง แต่จำนวนผู้ใช้บริการจะคงตัวอยู่
หรือเพิ่มเล็กน้อย ในญี่ปุ่นก็เช่นกัน จำนวนผู้ใช้รายใหม่จะลดลงจากปีที่ผ่านมา นอกจากนี้
แม้ว่า ญี่ปุ่น พยายามนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ หรืออีกนับหนึ่ง ตามภาษาชาวบ้านจะเรียกว่า
"ลูกเล่นใหม่" ออกมามากมายก็ตามทั้งในรูปของอุปกรณ์
คือเครื่องโทรศัพท์ ที่ขณะนี้ไม่ใช่เป็นเพียงโทรศัพท์มือถือแล้ว ยังสามารถทำงานได้สารพัดรูปแบบ
อัตราการเติบโตของผู้ใช้รายใหม่จะเพิ่มขึ้นไม่เท่ากับอัตราการเพิ่มในระยะ 4-5
ปีที่ผ่านมา
โดยหากจะพิจารณากันลงให้ลึกไปอีก ผู้ใช้รายเดิมอาจเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ที่มีความทันสมัยกว่าก็ได้
หรือจำนวนยอดขายที่เพิ่มขึ้นอาจจะมาจากการซื้อไปทดแทนเครื่องเก่าก็เป็นได้ การพิจารณาความเป็นจริงของตลาดมีความสลับซับซ้อนมากกว่า
เพียงนำจำนวนประชากรมาเป็นตัวตั้ง ที่จะนำพาไปสู่ความผิดพลาด และในที่สุดความหายนะได้
ถ้ามีลงทุนเกินความเป็นจริงจากที่ควรจะเป็น ถ้าจะย้อนกลับมาพิจารณาถึงตลาดจีนอีกครั้ง
ต้องมาพิจารณากันว่า ทำไมตลาดมือถือใหม่ของจีนจึงมีการเติบโตสูงสุด
จะเติบโตเช่นนี้ไปอีกนานเท่าไร และจะนำมาใช้เป็นบทเรียนหรือกรณีศึกษาของธุรกิจอื่นได้หรือไม่
การที่ตลาดโทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่ของจีนเติบโตสูงมา
ถ้านับปริมาณหรือจำนวนเครื่อง แต่ถ้าจะนับจากอัตราการแทรกตัวเข้าไปในตลาด หรืออัตราการรับนวัตกรรมใหม่แล้ว
ยังสู้ฮ่องกงและญี่ปุ่นไม่ได้ เช่นกัน มุมมองต่างๆ จะต้องนำมาพิจารณาทั้งหมดในการดำเนินธุรกิจ
เหตุผลของการเจริญเติบโตของโทรศัพท์มือถือของจีนที่สำคัญ และควรนำมากล่าว ณ ที่นี้
คือ ลักษณะของภาคภูมิศาสตร์ของจีนที่มีขนาดใหญ่กว้างขว้าง นอกจากนั้น การให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานทางสายยังไม่เพียงพอ
และที่สำคัญยังมีความเกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรม เช่นเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นที่ประเทศไทย
คือการใช้โทรศัพท์มือถือ เป็นการแสดงสถานภาพ
อัตราการเจริญเติบโตของโทรศัพท์มือถือของจีน ถ้าวิเคราะห์วงลึกถึงอัตราการแทรกตัวของนวัตกรรมใหม่
ความเจริญทางเศรษฐกิจที่ส่งผลไปยัง รายได้ของประชาชน อัตราคงจะสูงขึ้นในระดับนี้ต่อไปอีก
2
ถึง 3 ปี ก็ใกล้จะถึงจุดคงตัว หรืออยู่ประมาณ 20% ของชาวจีนจะมีโทรศัพท์มือถือแล้วจะเริ่มอิ่มตัว เหตุผลที่นักธุรกิจนักการตลาดจะต้องมองให้ลึกลงไป
คือ การแบ่งตลาดออกตามฐานะของประชากร เช่นที่ทราบๆ กันว่า กลุ่มเอ กลุ่มบี กลุ่มซี
และกลุ่มดี หรือจะแบ่งออกต้องเหตุผลใดก็ได้
เนื่องจากในทางธุรกิจไม่มีสูตรสำเร็จใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น หากดูระดับรายได้แล้ว
ผู้ที่จะใช้โทรศัพท์มือถือจะอยู่ในกลุ่มเอ และบีบวกเท่านั้น และในกลุ่มนี้เช่นกัน
จะต้องแบ่งสรรปันส่วนทรัพยากรที่มีอยู่ คือ รายได้จากการทำงานหรือประกอบการไปในเรื่องของครอบครัว
ในการซื้อหาบ้านหรือคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ๆ ของจีน หรือต้องนำไปซื้อหาจักรยานยนต์มาใช้ทดแทนจักรยาน
หรือเปลี่ยนจากจักรยานยนต์ไปซื้อรถยนต์ขนาดเล็ก และกำลังได้รับความนิยมคือ ซูซูกิ ฟรอนเต้
หรือจะนำไปซื้อรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และถ้าได้มีโอกาสเดินทางเข้าไปสัมผัสในชนบทของจีนแล้ว
เกษตรกรจีน จะมีสถานภาพและฐานะที่อาจจะต่ำกว่าเกษตรกรไทยโดยทั่วไป ดังนั้นตลาดโทรศัพท์มือถือของจีนถึงแม้ศักยภาพสูง
แต่ความเป็นจริงแล้ว 20% ของชาวจีนที่จะมีความสามารถที่จะเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือได้
จากการนำเรื่องของการตลาดโทรศัพท์มือถือของจีนเข้ามาเป็นตัวอย่าง
ที่จะสามารถนำไปใช้กับบางธุรกิจ หรืออาจนำไปเป็นบทเรียน ข้อคิดของธุรกิจอื่นๆ ได้อีกมาก
ขอให้นักธุรกิจผู้ประกอบการ ระลึกถึงความแตกต่างของศักยภาพกับความเป็นจริง นักธุรกิจที่แท้จริงที่ประสบความสำเร็จจะไม่กล่าวว่า
"ถ้าคนจีนทุกคนใช้ของๆ เรา จะขายได้ 1,300 ล้านชิ้น"
ที่มา
: กรุงเทพธุรกิจ
(กรุงเทพไอที) ฉบับวันที่ 29 สิงหาคม 2545
|