จีนขึ้นแท่นเจ้าตลาดบรอดแบนด์ดีเอสแอล
ผลสำรวจ
ระบุชัดจำนวนผู้ใช้งานทำสถิติเพิ่มสูงถึงเกือบ 11 ล้านคน ส่งผลขึ้นแท่นตลาดอันดับหนึ่งของโลก
ขณะที่เบียดญี่ปุ่นรั้งอันดับสอง พร้อมทิ้งยักษ์ใหญ่มะกันรั้งอันดับสี่
ด้านผู้เชี่ยวชาญ เผยเอเชีย-แปซิฟิก อัตราการเติบโตอุตสาหกรรมบรอดแบนด์สูงสุด
พร้อมคาดจำนวนผู้ใช้ทั่วโลกเหยียบ 200 ล้านคน
ภายในปลายปีหน้า
สำนักข่าวซีเน็ต รายงานข้อมูลจากสมาคม ดีเอสแอล
ฟอรัม ซึ่งระบุว่า จีนกำลังจะกลายเป็นตลาดบรอดแบนด์ ดีเอสแอล ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เช่นเดียวกับญี่ปุ่น และสหรัฐ ทั้งนี้ รายงานจากทางสถาบัน ระบุว่า ในปี 2546 จีนมีประชากรที่ใช้เครือข่ายบรอดแบนด์ดีเอสแอล
(DSL-digital subscriber line) สูงถึง 10.95 ล้านคน โดยตัวเลขดังกล่าว ยังไม่นับรวมถึงผู้ใช้ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง อัตราการเติบโตดังกล่าว
ส่งผลให้จีนกลายเป็นตลาดดีเอสแอลที่ใหญ่สุดในโลก และทิ้งให้ญี่ปุ่น กลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ใช้เครือข่ายบรอดแบนด์สูงเป็นอันดับสอง
ด้วยสถิติ 10.27 ล้านคน ส่วนสหรัฐ ตกลงไปอยู่ที่อันดับสาม
ด้วยสถิติ 9.12 ล้านคน ขณะที่ผู้ครองอันดับสี่ ได้แก่
เกาหลีใต้ ซึ่งมีผู้ใช้งานทั้งหมดราว 6.43 ล้านคน จากจำนวนผู้ใช้งานทั่วโลกราว
63.8 ล้านคน
บริการระบบดีเอสแอล
จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ ผ่านทางสายโทรศัพท์
และเป็นคู่แข่งกับระบบบรอดแบนด์ ของผู้ให้บริการเคเบิลทีวี และการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมโดยตรง
ทางสมาคม เสริมด้วยว่า ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ยังคงที่มีอัตราการใช้ระบบดีเอสแอลสูงที่สุด
โดยมีผู้ใช้ทั้งหมดกว่า 20 ล้านคน หรือคิดเป็นอัตราส่วน 32% ของตลาดทั่วโลก โดยประเทศ ที่มีส่วนช่วยให้ตลาดบรอดแบนด์ในเอเชีย
ขยายตัวอย่างมากในปีที่แล้ว ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งมีจำนวนสมาชิกบริการดีเอสแอลเพิ่มขึ้นทั้งหมดราว 4.6 ล้านคน
คิดเป็นอัตราการเติบโตในประเทศ 82% ประเทศไต้หวัน
มีระดับการเติบโตราว 38% โดยมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นราว 775,460 คน และออสเตรเลีย มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นทั้งหมด 300,000
คน คิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 173% ด้าน นายทอม สตาร์
ประธานดีเอสแอล ฟอรัม ตั้งเป้าว่า จะมีจำนวนสมาชิกบริการดีเอสแอลทั่วโลก สูงถึง 200 ล้านคน ภายในปลายปี 2548
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 10 มีนาคม
2547
|